ฉีดโบท็อกแล้วตาแข็ง เกิดจากสาเหตอะไร มีวิธีแก้ไขยังไง

หลายคนคงเลือกการฉีดโบท็อกเพื่อให้ใบหน้าตึงกระชับ ไร้ริ้วรอย ไม่มีรอยเหี่ยวย่น ไม่มีรอยพับ หน้าดูอ่อนเยาว์ โดยในบางรายก็อาจเกิดผลลัพธ์อาการที่ไม่น่าพึงพอใจ เกิดเป็นอาการหลังฉีดโบท็อกแล้วตาแข็ง เวลายิ้มแต่ตาไม่ยิ้มด้วย ดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ส่งผลให้เสียความมั่นใจ เสียบุคคลิกภาพ คนรอบข้างไม่กล้าเข้าหา จนทำให้หลายคนกลัวการฉีดโบท็อกไปเลยก็มี เรามาดูกันว่าอาการ ฉีดโบท็อกแล้วตาแข็ง เกิดจากสาเหตุอะไร

โบท็อกหรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน เป็นโปรตีนสกัดจำพวกหนึ่งที่ถูกนำมาใช้โดยแพทย์ในวงการความงาม เพื่อช่วยลดริ้วรอย ลดรอยเหี่ยวย่น หน้าดูตึงกระชับขึ้น โดยโบท็อกจะเข้าไปช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวลง ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบตึงขึ้น แต่ถ้าหากฉีดโบท็อกมากเกินไปอาจทำให้เวลายิ้มหรือแสดงอารมณ์ ใบหน้าเกิดการขยับไม่ได้ หน้าแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือในบางรายที่ไปฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจเกิดการฉีดผิดตำแหน่งทำให้โดนเส้นประสาท หรือการผสมตัวยาที่ไม่พอดีทำให้เกิดการกระจายตัวที่มากเกินตำแหน่งที่ต้องการ ทำให้ใบหน้าเกิดการเสียสมดุล ใบหน้าไม่เท่ากัน หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ตายกไม่เท่ากันขึ้นได้

ในการฉีดโบท็อกควรเน้นไปที่จุดที่เกิดปัญหาจริง ๆ ไม่ฉีดอัดมากเกินไป เพราะปัญหาบนใบหน้ามีวิธีการแก้ไขปัญหาได้หลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้โบท็อกกับทุกปัญหาเสมอไป โดยแต่ละวิธีมีความเหมาะสมกับแต่ละจุดบนใบหน้าที่แตกต่างกัน และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์มากพอ จะทำให้สามารถวิเคราะห์ใบหน้า ประเมินปัญหา คำนวนปริมาณโบท็อกที่ต้องใช้ ตำแหน่งของการฉีดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ รวมถึงเทคนิคเฉพาะของแพทย์และความเข้าใจคุณสมบัติของโบท็อกแต่ละยี่ห้อ ที่จะตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้แต่ละคนที่มีปัญหาแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย โดยตัวโบท็อกจะคงอยู่ได้นานราว 6 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อ โดยสามารถฉีดโบท็อกซ้ำได้อีกเรื่อย ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อให้คงผลลัพธ์ที่ต้องการไว้ได้ไม่ว่าจะเป็นหน้าตึง ยกหางตา ลดเลือนริ้วรอย หน้าเรียวกระชับ เป็นต้น ช่วยให้คงผลลัพธ์หน้าเป๊ะ สวยปังไว้ได้อยู่ตลอด นอกจากแพทย์ที่ให้บริการแล้ว โบท็อกที่เลือกใช้ก็สำคัญ หากไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วน อาจเจอโบท็อกปลอมทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เกิดผลเสียกับคนไข้ในระยะยาว และอาจส่งผลข้างเคียงที่ไม่ปลอดภัยขึ้นได้

หากหลังฉีดโบท็อกแล้วตาแข็ง ขยับกล้ามเนื้อไม่ค่อยได้ เกิดความไม่เท่ากันของหน้า หรือปัญหาอื่น ๆ ให้รีบปรึกษาหรือเข้ามาพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อที่จะได้รีบแก้ไขให้เร็วที่สุดก่อนที่โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์เต็มที่ หากทิ้งไว้นานจะทำให้แก้ไขได้ยากมากยิ่งขึ้น ซึ่งแพทย์จะใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการสลายโบท็อกไม่ว่าจะเป็นการประคบร้อน การใช้คลื่นความร้อน HIFU หรือใช้คลื่นพลังงาน RF ส่งพลังงานความร้อนปล่อยเข้าไปเพื่อทำให้โบท็อกที่ออกฤทธิ์แล้วเกิดการสลายตัวได้เร็วขึ้น รวมถึงทำลายตัวยาที่ยังไม่ออกฤทธิ์ได้อีกด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานเป็นปกติได้เร็วขึ้น

ดังนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลคลินิกที่มีมาตรฐาน แพทย์ผู้รักษาที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากพอ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ทำการฉีด รวมถึงดูรีวิวจากคนไข้จริงของคลินิก เพื่อที่จะได้เห็นถึงผลลัพธ์และฝีมือของคุณหมอในการประกอบการตัดสินใจ