ทำงานหนักส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวได้จริงหรอ

ทำงานหนักส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวได้จริงหรอ

เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทุ่มเทเวลาให้กับการทำงาน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คืองานเหล่านั้นออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ หลายคนจึงเลือกที่จะหักโหมงานอย่างหนัก จนถึงขนาดที่ว่าเลิกงานแล้วก็ยังต้องหอบงานกลับไปทำที่บ้านอีก บทความนี้จะขอมาเตือนอีกหนึ่งภัยเงียบที่หลายคนมักละเลยไป เพราะนอกจากจะส่งผลให้ร่างกายเราพังแล้ว ก็ยังส่งผลต่อสภาพผิวของเราให้พังตามไปด้วยค่ะ

การทำงานหนักส่งผลเสียต่อผิวยังไง?

ขึ้นชื่อว่าการทำงาน แน่นอนว่ามันมักจะมาพร้อมกับความเครียดเสมอ ยิ่งใครที่จมอยู่กับงานทั้งวันจนไม่มีเวลาให้ร่างกายได้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย หรือไม่ให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ฮอร์โมนต่าง ๆ หรือการทำงานของผิวในร่างกายก็จะรวนไปด้วย สิ่งนี้จะส่งผลเสียต่อผิวของเราอย่างมหาศาล หรืออาจเกิดสภาวะ “ผิวเครียด” ภัยอันตรายที่หลายคนไม่ควรนิ่งนอนใจ

ผิวเครียดคืออะไร?

สภาวะผิวเครียด นั้นเป็นโรคทางจิตวิทยาชนิดหนึ่ง ชื่อว่า Psychodermatolagy ซึ่งสาเหตุเกิดจากสภาวะจิตใจบวกกับความเครียดสะสม ส่งผลให้ร่างกายกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนหรือสารบางชนิดออกมาเยอะมากกว่าปกติ สิ่งที่ตามมาคือ ร่างกายของเราจะเกิดการเสียสมดุลการทำงานของผิว หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี ปัญหาผิวตามมาจนทำให้เราหนักใจกว่าเดิมอย่างแน่นอนค่ะ

ผิวเครียดส่งสัญญาณให้เราเห็นอย่างไรบ้าง?

ผิวเกิดความหมองคล้ำ

ความเครียดนั้นมีผลต่อระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายผิดปกติ เพราะร่างกายของเรามักจะต้องส่งการไหลเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะหลัก ๆ ที่สำคัญต่อการอยู่รอดอย่าง หัวใจ ปอด สมอง ตับ ส่งผลให้บริเวณการทำงานของผิวมีเลือดเข้ามาหล่อเลี้ยงน้อยลง ทำให้เกิดความหมองคล้ำ ผิวมีความไวต่อแสงแดดง่ายขึ้น สุขภาพผิวอ่อนแอลง ดูอิดโรยและไม่สดใส

ผิวเกิดการอักเสบ แพ้ง่าย

เพราะความเครียดจะหลั่งฮอร์โมนออกมาเยอะผิดปกติ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันในร่างกาย รวมไปถึงภูมิคุ้มกันของเซลล์ผิวเริ่มอ่อนแอลง ไวต่อการแพ้ง่ายมากขึ้น ผิวเกิดการอักเสบ มีลักษณะเป็นผื่นแดง ผิวลอกเป็นขุยหรืออาจเกิดเป็นสิวอักเสบผุดขึ้นบนใบหน้าได้เลยค่ะ

ผิวมีความแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น

ผิวมีความแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น

ความเครียดจะส่งผลให้ร่างกายของเราผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เข้ามามีบทบาทต่อผิวเป็นอย่างมาก เพราะมันจะเข้าไปลดการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิว ส่งผลให้ผิวเกิดความแห้งกร้าน ร่างกายเกิดสภาวะผิวขาดน้ำ

ผิวดูแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย

บางคนมีผิวที่ดูแก่หรือเสื่อมสภาพเร็วไปกว่าอายุซะแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าความเครียดจะเข้ามากระตุ้นการปล่อยสารอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังเข้ามาทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ผิวขาดความยืดหยุ่น หรือทำให้หน้าแก่กว่าวัยได้เลยค่ะ

นอกจากนี้ความรุนแรงของสภาวะผิวเครียด ยังอาจก่อให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน โรคเริม หรือโรคงูสวัด สิ่งเหล่านี้ก็มาจากภาวะผิวเครียดได้เช่นกันค่ะ บอกเลยว่าปัญหานี้แผลงฤทธ์ต่อผิวของเราทั้งในระดับที่รุนแรงน้อยไปจนเกิดความรุนแรงมากเลยละค่ะ ทุกคนเห็นแล้วใช่ไหมคะว่า ความเครียดกับการทำงาน หรือการหักโหมมากไปให้ภัยอันตรายต่อผิวของเรามากแค่ไหน หลังจากนี้อยากให้ทุกคนหันมาสนใจฟื้นฟูดูแลสุขภาพผิวให้มากขึ้น และไม่ควรมองข้ามปัญหาผิวโดยเด็ดขาดเลยค่ะ

เราจะมีวิธีการฟื้นฟูอย่างไร

เราจะมีวิธีการฟื้นฟูอย่างไร

เริ่มจากการสังเกตตัวเอง

เพราะปัญหาผิวเครียดนั้นเกิดมาจากสภาวะทางด้านจิตใจ อยากให้ลองสังเกตผิวของเราในช่วงที่เกิดความเครียดสะสม เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เมื่อเราได้สังเกตตัวเองแล้ว ในขั้นตอนต่อมาก็คือ

การหากิจกรรมสร้างความผ่อนคลายให้ร่างกาย

การหากิจกรรมสร้างความผ่อนคลายให้ร่างกาย อันดับแรกอยากให้ลองบาลานซ์เวลาการทำงานให้ดี เพื่อให้ตัวเราได้มีเวลาผ่อนคลาย หรือได้อยู่กับกิจกรรมที่นอกเหนือจากงาน โดยเราสามารถเลือกเป็นกิจกรรมที่เราชอบ สิ่งที่เราสนใจ เช่น การออกกำลังกาย การดูภาพยนตร์ผ่อนคลาย การวาดรูป การนั่งสมาธิ การไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ร่างกายเราจะเกิดความผ่อนคลาย เสมือนว่าเราได้ชาร์จพลังชีวิต ขจัดความเครียดออกไปได้บ้างค่ะ

ต่อมาก็คือการปรนนิบัติผิว เพิ่มความสดใส

เมื่อเราฟื้นฟูสภาพจิตใจได้แล้ว ก็อย่าลืมที่จะกลับมาฟื้นฟูดูแลผิวของตัวเองที่เสื่อมสภาพลงไปด้วยนะคะ เพราะหากเราดันไปเห็นสภาพผิวของตัวเองที่ดูอิดโรย ไม่สดใส อาจจะสร้างความหนักใจต่อความรู้สึกของเราได้เลยละค่ะ ซึ่งการเติมเต็มความสดใสให้กับผิวก็มีด้วยกันหลายวิธีค่ะ อย่างเช่น  

การเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยการมาสก์หน้า ซึ่งวิธีนี้จะมีส่วนช่วยให้ผิวหน้าของเราเกิดความผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านสุด ๆ เพราะหน้าจะดูฉ่ำเด้ง และยังช่วยซ่อมแซมผิวหน้าได้ดีอีกด้วยค่ะ แต่ควรเลือกมาสก์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือส่วนผสมที่มีฤทธิ์แรงต่อผิวหน้านะคะ เพราะใบหน้าของเราค่อนข้างอ่อนไหวต่อการรับสิ่งเหล่านี้มากเป็นพิเศษ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวตามมาได้เลยค่ะ แนะนำว่าควรเป็นส่วนผสมที่ไม่มีฤทธิ์แรงมากจะดีกว่า

ผลิตภัณฑ์ช่วยแก้ผิวโทรม

ผลิตภัณฑ์ช่วยแก้ผิวโทรม หากต้องการความกระจ่างใส แนะนำว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง หรือส่วนผสมของวิตามินซี และก่อนออกจากบ้านอย่าลืมหมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันแสงแดดได้ทั้งรังสี UVA และ UVB หรือผู้ที่มีใต้ตาคล้ำร่วมอยู่ด้ว ยแนะนำเป็นผลิตภัณฑ์อายครีม ที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ควรดูแลอย่างสม่ำเสมอ หากบำรุงแล้วก็ควรทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรทำบ้างไม่ทำบ้างหรือขาดการบำรุงเป็นเวลานาน เพราะสิ่งที่เราบำรุงมาอาจจะศูนย์เปล่าได้เลยค่ะ

การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

แม้จะบำรุงผิวอย่างดีแค่ไหน สุดท้ายแล้วการที่จะกู้ผิวโทรมได้ดีนั่นก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนั่นเองค่ะ เพื่อให้ร่างกายและให้ผิวของเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้การนอนหลับที่เพียงพอยังช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลที่ตามมาผิวของเราจะกลับมาสดใสอย่างแน่นอน

เพราะว่าผิวของเราก็ต้องการความดูแลเอาใจใส่ไปไม่น้อยกว่าสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจเลยค่ะ ซึ่งหากว่าวิธีการที่เราได้แนะนำไปต้องใช้เวลาที่ยาวนาน กว่าที่ผิวของเราจะกลับมาสดใสได้อีกครั้ง เพราะฉะนั้นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะมากอบกู้ผิวของเราได้อย่างดี โดยไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูที่ยาวนานเลยก็คือ picosure โปรแกรมที่จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูความกระจ่างใสให้กับผิว บอกลาความเสื่อมโทรมได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวทั้งในเรื่องของความหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ และยังช่วยในเรื่องของริ้วรอยร่องลึกได้อย่างดี จบทุกปัญหาภายในขั้นตอนเดียว โดยหลังการรักษาไม่ต้องพักฟื้นเลยค่ะ ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิต เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ (ผลลัพธ์การรักษาจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล) แต่หากใครที่กำลังมองหาคลินิกที่มีมาตรฐานในการรักษาอันยอดเยี่ยม มีความปลอดภัยสูง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมารักษา เราขอแนะนำ Doctor Mek Clinic ที่ทุกการรักษาจะอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอเมฆ แพทย์ผิวหนังเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพผิว พร้อมที่จะตอบทุกปัญหาสภาพผิว ประเมิน วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คอยทำการรักษาคนไข้ตลอดจนได้ผลลัพธ์อันน่าประทับใจ ที่ใครมาแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน มีการการันตีถึงคุณภาพมากมายไม่ว่าจะเป็นรางวัลหรือรีวิวจากคนไข้จริง และดาราชื่อดังของเมืองไทยต่างก็ตบเท้าเข้าคลินิกเพื่อให้คุณหมอเมฆช่วยทำการดูแลรักษา ซึ่งถ้าหากใครสนใจสามารถเข้ามาติดต่อสอบถาม หรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปหน้ากับคุณหมอเมฆและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Doctor Mek Clinic ค่ะ