ตัวช่วยแก้ปัญหาคางไม่เท่ากัน คางเบี้ยว อย่างปลอดภัยและเห็นผล

คางเบี้ยว คางผิดรูป คางไม่เท่ากัน ตัวลดทอนความมั่นใจจากใบหน้าที่ไม่สมส่วน ทำให้โดยรวมของใบหน้าดูไม่สมูทและไม่เป็นธรรมชาติ เชื่อเลยว่าใครที่ประสบปัญหานี้ คงกำลังคิดไม่ตกกับการหาวิธีแก้ไข เพราะหลาย ๆ คนคงยังไม่รู้ว่าคางเบี้ยวสามารถจัดการด้วยวิธีไหนบ้าง ในวันนี้เราจึงนำตัวเลือกแก้ไขปัญหาคางเบี้ยวที่ปลอดภัยและเห็นผลดีมาฝาก เพื่อทุกคนจะได้ใช้เป็นตัวเลือกสำหรับประกอบการพิจารณา และหาวิธีแก้ไขคางเบี้ยวที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดค่ะ

การแก้ปัญหาคางเบี้ยวให้ได้ผลดีที่สุด เราจำเป็นต้องรู้สาเหตุก่อนว่าคางของเราเบี้ยวด้วยสาเหตุอะไร เพื่อจะได้แก้ไขได้อย่างตรงจุด ซึ่งสาเหตุของอาการคางเบี้ยว หลัก ๆ จะมีดังนี้

• คางเบี้ยวตั้งแต่กำเนิด
• คางเบี้ยวจากปัญหาเส้นประสาทใบหน้า หรือเส้นประสาทสมองผิดปกติ มักพบในผู้ป่วยที่มีภาวะความเครียดสูง หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับเชื้อไวรัส เช่น โรคเริม, โรคงูสวัด, โรคอีสุกอีใส เป็นต้น
• คางเบี้ยวจากอุบัติเหตุ จนมีผลให้คางผิดรูป
• คางเบี้ยวจากการผ่าตัดศัลยกรรมคาง

เมื่อเรารู้สาเหตุของอาการคางเบี้ยวแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การหาวิธีรักษาตามอาการ หากคางเบี้ยวด้วยสาเหตุของโรค ก็ต้องรักษาด้วยการทานยารักษาโรค หรือกรณีป่วยจากการได้รับเชื้อไวรัส ก็ต้องทานยาต้านไวรัส หากคางเบี้ยวจากภาวะเส้นประสาทอักเสบ ก็อาจรักษาโดยการใช้ยาสเตียรอยด์แบบรับประทานในระยะสั้น ๆ นอกจากนี้ ยังมีวิธีรักษาคางเบี้ยวด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่น

• การกายภาพบำบัดใบหน้า
• การผ่าตัดแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง
• การผ่าตัดศัลยกรรมปรับรูปคาง
• การฉีดโบท็อก โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกตรงคางฝั่งที่เบี้ยว เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว หรือเพื่อลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ต้องการ (แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์อีกทีหนึ่ง)
• การฉีดเสริมเติมเต็มเพื่อปรับรูปคาง (Filler)

ในเมื่อตัวเลือกมีหลากหลายขนาดนี้ หลายคนอาจจะยิ่งกังวลเพราะไม่รู้ว่าควรแก้ไขปัญหาคางเบี้ยวด้วยวิธีไหนดีใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งในส่วนนี้เราไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเราสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์สาเหตุและประเมินแนวทางการรักษาได้เลย คุณหมอจะได้แนะนำว่าเราควรแก้ไขคางเบี้ยวด้วยวิธีไหน หรือถ้าใครมีวิธีที่อยากทำในใจ ก็สามารถปรึกษาคุณหมอได้เหมือนกันว่ากรณีคางเบี้ยวแบบเราสามารถแก้ไขด้วยวิธีนั้น ๆ ได้หรือเปล่า เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดค่ะ

ซึ่งจากวิธีแก้ไขปัญหาคางเบี้ยวที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มีหนึ่งวิธีที่เราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวก กำลังเป็นที่นิยม และสามารถแก้ไขปัญหาคางเบี้ยวได้จริง ทั้งยังไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย วิธีนั้นก็คือการฉีดสารเติมเต็มเพื่อปรับรูปคาง หรือการฉีดฟิลเลอร์คางนั่นเองค่ะ

HA Filler หรือ Filler แท้ เป็นสารประกอบของคอลลาเจนชนิดเดียวกับที่มีอยู่ใต้ผิวหนังของเรา โดยเป็นสารจำพวกที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี เมื่อเราดื่มน้ำเข้าไปมาก ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์แท้เข้าไป ฟิลเลอร์จะอุ้มน้ำและทำให้เนื้อฟิลเลอร์เซ็ตตัวสวยเต็มที่ อิ่มฟูมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ก็จะยิ่งออกมาสวยชัดเจน ดังนั้นเมื่อฉีดเข้าไปบริเวณคาง คางก็จะเต่งตึง เติมเต็มส่วนที่เบี้ยวให้ได้ทรงมากขึ้น การฉีดสารเติมเต็มคางจึงเป็นการแก้ปัญหาคางเบี้ยว คางไม่สวย คางไม่สมส่วนด้วยการเติมเต็มส่วนที่ขาดให้เท่ากัน ทำให้รูปคางได้สัดส่วนมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาคางเบี้ยวไม่มาก และต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ เห็นผลอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบัน HA Filler กำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก สะดวก และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เกิดรอยแผลเป็นหลังทำ มีเพียงรอยเข็มเป็นจุดเล็ก ๆ เท่านั้น และจะค่อย ๆ หายไปได้เองภายใน 3 – 5 วัน หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันทีเลย

• เป็นการปรับรูปคางที่ใช้เวลารักษาไม่นาน เห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด เจ็บน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัด
• ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง
• ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ไม่เป็นอันตราย สามารถสลายออกจากร่างกายได้อย่างหมดจด (ในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น)
• เป็นวิธีปรับรูปคางที่ยืดหยุ่น สามารถฉีดเพิ่มได้หากรู้สึกว่าคางยังไม่ได้รูปทรงที่พอใจ และสามารถฉีดสลายออกได้โดยไม่เป็นอันตราย
• นอกจากช่วยเติมเต็มคางที่เบี้ยวให้เข้ารูปแล้ว ฟิลเลอร์คางยังช่วยเติมเต็มจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ เช่น ริ้วรอย, ร่องลึก, หลุมสิว เป็นต้น

สรุปแล้ว การแก้ไขปัญหาคางเบี้ยวด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาคางเบี้ยวไม่หนักมาก ไม่ต้องการความยุ่งยาก และต้องการเห็นผลลัพธ์ได้ทันที รูปคางที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ก็จะมีความเป็นธรรมชาติ เป็นทรงเรียวสวย ที่สำคัญคือไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อหมดอายุขัยก็สามารถสลายตัวได้เองอย่างหมดจดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งยังเป็นการรักษาที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงเหมาะอย่างมากสำหรับคนที่อยากมีคางสมส่วน ใบหน้าเรียวสวยด้วยวิธีที่ง่ายและปลอดภัยค่ะ