ปัญหาผิวรอบดวงตาที่คนอายุ 30 ปีขึ้นไปต้องเผชิญ ควรรับมืออย่างไรดี?

Doctormek.com

พออายุมากขึ้นคนเราก็มักจะกังวลกับสุขภาพร่างกายมากเป็นพิเศษ จนอาจลืมไปว่าสุขภาพผิวก็เป็นอีกสิ่งนึงที่เราจะต้องหันมาดูแลใส่ใจเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหารอบดวงตาที่ผิวมีความบอบบางมากกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ เนื่องจากว่าเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินที่เป็นตัวช่วยหลักสำคัญให้ผิวของเราสุขภาพดีนั้น เริ่มมีการทำงานช้าลง ทำให้เกิดปัญหาผิวตามมามากมาย แต่จะมีปัญหาด้านอะไรบ้าง ควรรับมืออย่างไรและมีวิธีการแก้ไขหรือไม่ เราได้รวบรวมข้อมูลมาฝากไว้ที่นี่แล้วค่ะ

รวมปัญหาผิวรอบดวงตาที่แต่ละช่วงวัยต้องเผชิญ

Doctormek.com

ปัญหารอบดวงตาของผิวในแต่ละช่วงวัยที่มักพบเจอ มีดังนี้

ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป

ในช่วงอายุนี้ ปัญหาหลัก ๆ มักจะเกิดจากริ้วรอยที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยปัจจัยความเครียดสะสมจากการทำงาน การพักผ่อนน้อย หรือจากสารตกค้างที่มาจากเครื่องสำอางที่เราใช้ในแต่ละวัน โดยที่ไม่ได้มีการทำความสะอาดอย่างหมดจด ซึ่งทำให้สุขภาพผิวถูกทำลายลง มีการผลัดเซลล์ผิวช้าลง ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวแห้งกร้าน หรือมีความหมองคล้ำบริเวณใต้ตาเพิ่มเข้ามาด้วย

ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป

เป็นช่วงอายุที่ผิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน นอกจากโครงสร้างผิวที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาสะสมด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด พักผ่อนน้อย การรับประทานอาหาร โดยในช่วงอายุนี้ โครงสร้างของผิวชั้นลึกจะมีความหย่อนคล้อยลง ต่อมไขมันและกล้ามเนื้อที่เคยเกาะตัวอยู่บริเวณรอบดวงตาคลายตัวและลดลงไปด้วย จะสังเกตได้ว่ากลุ่มคนที่มีอายุ 40-50 ปี จะมีปัญหาถุงใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา ความหมองคล้ำรวมไปถึงความหย่อนคล้อยบริเวณหางตา ที่จะดูไม่ค่อยกระชับเหมือนช่วงวัยรุ่นหรือช่วงอายุ 20 ปี

ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป

ช่วงอายุนี้ ปัญหาผิวจะค่อย ๆ ลงลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผิวมีความชุ่มชื้นลดน้อยลง อีกทั้งยังมีในเรื่องของโครงสร้างกระดูกที่ได้ยุบตัวลงตามธรรมชาติ ทำให้สุขภาพผิวเริ่มอ่อนแอลงและมีความบอบบางมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากริ้วรอยที่เห็นได้อย่างเด่นชัดแล้ว ก็ยังมีในเรื่องของปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ทำให้มีความหมองคล้ำในบริเวณเบ้าตาร่วมด้วย

วิธีรับมือกับปัญหาผิวรอบดวงตาในแต่ละช่วงวัย

จากข้อมูลเบื้องต้นจะสังเกตได้ว่า แต่ละช่วงวัยก็จะเผชิญปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะริ้วรอย ความหย่อนคล้อยหรือปัญหาอื่น ๆ และถึงแม้ว่าปัญหาผิวรอบดวงตาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญไปตามช่วงวัยต่าง ๆ แต่ถ้าหากเรามีการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมัน หรือมีวิธีการดูแลที่ดีมาอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ปัญหาจากหนักก็จะกลายเป็นเบาได้ค่ะ

Doctormek.com

อายุ 30+

ในช่วงวัยเลข 3 ถึงแม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะยังไม่หนักเท่าช่วงอายุ 40-50 ปีขึ้นไป แต่ก็เราก็ไม่ควรละเลยการดูแลผิวรอบดวงตา โดยสามารถเริ่มได้จากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้คุณค่าต่อการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดให้น้อยลงโดยการไปอยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ เสพสิ่งที่ชอบเพื่อให้ร่างกายได้เกิดความผ่อนคลาย และที่สำคัญที่สุดเลยนั่นก็คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตาที่เหมาะสมต่อสภาพผิว เพราะจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควรได้ค่ะ

Doctormek.com

อายุ 40+

เป็นช่วงอายุที่เห็นริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างชัดเจน และเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นสิ่งที่คนอายุนี้ควรทำเลยนั่นก็คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนช่วยในการป้องกันริ้วรอยที่เกิดขึ้นมาใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูริ้วรอยเดิมที่มีอยู่แล้วให้จางลง (Anti-Aging) โดยเฉพาะควบคู่ไปกับการนวดผิวรอบดวงตาระหว่างทาสกินแคร์ เพื่อให้สารสกัดซึมเข้าสู่ผิวมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ทำงานดีขึ้นด้วย รวมไปถึงการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน หากทำเป็นประจำก็จะช่วยให้ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นลดเลือนลงไปได้ บางรายอาจเข้าพบกับแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางเพื่อมองหาวิธีการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน

Doctormek.com

อายุ 50+

ปัญหารอบดวงตาก็จะมีเพิ่มขึ้นและชัดเจนมากขึ้นกว่าทุกช่วงวัย โดยส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่ลึกไปจนถึงชั้นผิวด้านใน แน่นอนว่าสิ่งที่สามารถรับมือได้นั่นก็คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมและความเข้มข้นของสารสกัดมากยิ่งขึ้น และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรเฉพาะของผิวในช่วงอายุวัย 50 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะ การรับประทานอาหารหรือวิตามินเสริม ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี เช่น อาหารเสริมกลุ่มผักใบเขียว วิตามินต่าง ๆ หรือควบคู่ไปกับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำทรีทเมนต์หน้าในการฟื้นฟูปัญหาผิวรอบดวงตาฝังลึก

หลัก ๆ แล้ววิธีการรับมือปัญหารอบดวงตา ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปในเรื่องของการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับปัญหาในแต่ละวัย การออกกำลังกาย การพักผ่อน หรือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ไม่ได้เห็นผลเลยในทันที จะต้องทำเป็นประจำเพื่อให้เกิดผลดีในระยะยาว แต่มีอีกหนึ่งวิธีที่วงการแพทย์ให้การยอมรับมากเลยทีเดียวนั่นก็คือ ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้าไปที่บริเวณใต้ตาเพิ่มเพื่อเติมเต็มในส่วนที่มีริ้วรอยร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยู่ในช่วงอายุ 30-50 ปีขึ้นไป ที่กำลังเผชิญปัญหาร่องลึก ความหมองคล้ำ เบ้าตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา และอื่น ๆ ให้ความปลอดภัยสูง เพราะตัวสารสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และจุดเด่นสำคัญเลยก็คือ หลังทำเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เลยทันที ไม่ต้องพักฟื้น หากใครสนใจสามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียด หรือให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินสภาพผิวเบื้องต้นได้ที่ Doctor Mek Clinic