สิ่งที่หลายคนหนักใจกว่าการเป็นสิวคือ ริ้วรอยที่เกิดขึ้นหลังสิวยุบนี่แหละค่ะ เพราะเมื่อสิวหายแล้ว บางทีก็จะมีการทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าสร้างความหนักใจให้ไม่น้อย และร่องรอยเหล่านั้นยังมีลักษณะที่แตกต่างกัน รวมไปถึงวิธีการรับมือที่ไม่เหมือนกันไปอีก แล้วถ้าอยากกลับมามีใบหน้าที่สวยใสไร้ริ้วรอยเราต้องทำยังไงดีล่ะ? วันนี้เราจะมาหาคำตอบเกี่ยวกับรอยสิวพร้อมวิธีการรับมือเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ค่า
ไขข้อสงสัย รอยสิวเกิดจากอะไร
รอยสิว เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิว รวมไปถึงรูขุมขนใต้ชั้นผิวหนังหลังการเกิดสิว และจะทิ้งเป็นร่องรอยไว้โดยเฉพาะสิวที่เกิดการอักเสบค่อนข้างมาก หรือปัจจัยที่เกิดจากการถูกบีบอย่างรุนแรง ซึ่งรอยสิวเกิดขึ้นให้เรารับมือได้หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ เช่น รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นเป็นตุ่มนูน หรือหลุมสิว
รอยสิวมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง
จุดดำ รอยคล้ำ
มีลักษณะเป็นรอยหรือจุดสีออกน้ำตาล ๆ ในบริเวณที่เป็นสิว เกิดจากการอักเสบใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อเราเป็นสิวและบีบมันออกอย่างรุนแรงจนผิวหนังในบริเวณนั้นเกิดการอักเสบขึ้น เนื้อเยื่อถูกทำลาย จนเมื่อสิวที่ถูกบีบนั้นยุบลงจะหลงเหลือเป็นรอยดำเกิดขึ้นบนผิวหน้า อีกทั้งรอยดำยังสามารถเกิดได้จากการที่ผิวถูกแสงอาทิตย์เป็นประจำ และไม่ได้มีการใช้ผลิตภัณฑ์มาปกป้องผิว จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยดำขึ้นได้ค่ะ
รอยแดง
มีลักษณะเป็นจุดแดง ๆ ขึ้นบริเวณใบหน้า เกิดจากสิวอักเสบที่ยุบลงไปแล้ว แต่มีการขยายตัวของหลอดเลือดตรงบริเวณที่เกิดการอักเสบ เมื่อไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็จะเกิดเป็นรอยแดงหลงเหลืออยู่บนผิวหน้า ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากรอยแดงตรงนั้นจึงจะหายไป
รอยแผลเป็นแบบนูนที่เกิดจากสิว
มีด้วยกันสองลักษณะนั่นก็คือ แผลแบบนูนและคีลอยด์ ทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะเป็นเม็ดนูนเหนือชั้นผิวปกติ มักจะมาควบคู่กับรอยแดง แต่จะแตกต่างตรงที่รอยแผลเป็นแบบนูนจะมีขนาดเท่ากับสิวที่เกิดรอย ส่วนคีลอยด์นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ารอยสิว อีกทั้งยังสามารถขยายเพิ่มขึ้นได้อีก รอยแผลเป็นในลักษณะนี้มักพบที่บริเวณหน้าอก ไหล่ หลัง และมักจะเกิดจากสิวอักเสบ
หลุมสิว
มีลักษณะเป็นร่องลึกลงไปหลังจากที่สิวเหล่านั้นยุบลงไปแล้ว และร่องหลุมสิวจะมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไปอีกค่ะ ซึ่งหลุมสิวเกิดจากสิวอักเสบหรือสิวที่มีขนาดใหญ่ กินลึกเข้าไปสู่ชั้นด้านในผิวจนเกิดความเสียหาย ยิ่งชั้นผิวถูกลายลึกมากเท่าไหร่ หลุมสิวตรงนั้นก็ยิ่งรักษาให้หายยากมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
หากมีการรับมือที่ไม่ถูกต้อง หรือปล่อยปละละเลยในการรักษา เมื่อสิวขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาก็จะเกิดปัญหาอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นเลยค่ะ ปัญหาเหล่านี้มีทั้งสามารถดูแลรักษาได้ด้วยตัวเองไปจนถึงต้องเข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษา ซึ่งรอยสิวแต่ละรูปแบบนั้นจะมีวิธีการรับมืออย่างไร สามารถดูแลได้ด้วยตัวเองไหม เรามีคำตอบมาให้ทุกคนค่า
วิธีการรับมือหากเกิดรอยสิวประเภทต่าง ๆ
รอยดำ รอยแดง
โดยวิธีการทางธรรมชาติ – ในเบื้องต้นควรรับประทานที่มีประโยชน์เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าและยังช่วยลดรอยดำจากสิวได้อีกด้วย หลีกเลี่ยงการถูกแสงอาทิตย์ เพราะรังสี UV เป็นอีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการพบแสงแดด หรือควรหาผลิตภัณฑ์มาป้องกันก่อนออกข้างนอก และอย่างสุดท้ายคือหลีกเลี่ยงการแกะ บีบ กดสิวด้วยตัวเอง เพราะพฤติกรรมเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบบนบริเวณใบหน้าเพิ่มมากขึ้น และเกิดรอยแดงตามมา ดังนั้นเลี่ยงได้เลี่ยงเลยค่ะ
รักษาด้วยผลิตภัณฑ์ฟื้นฟู – ในส่วนของรอยดำสามารถหาผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยส่วนประกอบในการฟื้นฟูผิว ลดเลือนจุดด่างดำ เพิ่มความกระจ่างใส หรือส่วนผสมที่มีส่วนช่วยในการลดรอยดำรอยแดงจากสิว ควรหาผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย ซึ่งอาจจะเป็นการหาซื้อมาสก์มาบำรุงใบหน้า และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สิ่งสำคัญเลยคือ ควรหาสารสกัดจากธรรมชาติ สำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่แรงมากเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ตามมา
รอยแผลเป็นนูน
ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลที่เป็น อาจจะมีความนูนความแข็งและขนาดที่แตกต่างกันออกไป การรักษาก็จะมีตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ การหาซื้อยามาทา การฉีดยา การทำเลเซอร์ สำหรับผู้ที่เป็นแผลนูนควรเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาทางออกกับปัญหา
รอยหลุมสิว
อย่างที่เคยกล่าวไปข้างต้นว่าหลุมสิวมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาหรือการอักเสบของสิว ซึ่งวิธีการดูแลในเบื้องต้นสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อซื้อยามาทาบริเวณที่เกิดปัญหาได้ หรือจะเป็นการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่สามารถฟื้นฟูผิวมาใช้ แต่วิธีเหล่านี้ค่อนข้างใช้เวลา และอาจเกิดผลไม่ได้ 100% อย่างที่เราคาดหวังไว้ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด หากเราดันไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ซ้ำขึ้นมาอีก
ด้วยเหตุและปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น เราจึงอยากมาเสนออีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแนะนำให้วิธีนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวค่ะ ซึ่งนั่นก็คือ ฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นการช่วยเข้าไปฟื้นฟูผิวตั้งแต่ภายในที่ถูกทำลายจากสิว เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น และยังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิว แถมวิธีนี้ยังได้รับการการันตีว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) อีกทั้งยังเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย หากทำการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ฟิลเลอร์โดยเฉพาะค่ะ แต่เมื่อพูดถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์ ก็ต้องนึกถึงคุณหมอเมฆ จาก Doctor Mek Clinic ซึ่งเป็นที่เลื่องลือสุด ๆ ว่าเป็นคุณหมอมากประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์ที่สามารถแก้ไขปัญหาของคนไข้ในทุกเคสให้ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยไร้กังวล เห็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นจริง ๆ เห็นได้จากรีวิวคนไข้จริงที่เข้ามาทำการรักษา ซึ่งหากใครสนใจสามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอเมฆและทีมแพทย์ก่อนทำการรักษาได้เลยค่ะ ทั้งหมดนี้ก็เป็นทั้งที่มา สาเหตุ และการแก้ไขปัญหารอยสิวที่เรานำมาฝากทุก ๆ คนค่ะ ลองเช็กอาการหรือสังเกตใบหน้าของตนเองดูว่ารอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนใบหน้านั้นเป็นร่องรอยในลักษณะแบบใด และควรแก้ไขด้วยวิธีการใดจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สามารถนำสิ่งที่เราแนะนำไปวันนี้ไปปรับใช้ตามความสะดวกของแต่ละบุคคลได้เลยนะคะ