ผิวขาดความยืดหยุ่น หนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลต่อจิตใจ จนไม่กล้าพบปะใคร เพราะไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็อยากที่จะมีผิวหน้าที่คงความสุขภาพดีไว้อยู่เสมอ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสุขภาพผิวที่ได้อย่างใจหวัง วันนี้เราก็เลยจะมาพูดถึงปัญหาผิวขาดความยืดหยุ่นอันเป็นสัญญาณบอกผิวพังที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กลับมามีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
ผิวขาดความยืดหยุ่นคืออะไร?
การที่ร่างกายของเราขาดคอลลาเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงในชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นปัญหาความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น เพราะคอลลาเจนคือตัวโปรตีนที่สำคัญต่อสุขภาพผิว และยังเป็นตัวที่ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่นที่ดี มีความเต่งตึง และนอกจากคอลลาเจนจะมีผลต่อความยืดหยุ่นของผิวแล้ว ก็ยังมีอิลาสตินและกรดไฮยาลูรอนิคที่สำคัญต่อสุขภาพผิวของเราไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะสารเหล่านี้มีส่วนเข้ามาเติมเต็มความอ่อนวัยให้กับผิว ซึ่งเมื่อร่างกายเราขาดทั้งคอลลาเจน อิลาสตินและกรดไฮยาลูรอนิคไป ผิวจะดูเสื่อมสภาพลง ขาดความยืดหยุ่น ปัญหาผิวตามมาเป็นขบวนเลยละค่ะ
จุดสังเกตที่พบเห็นได้ชัดเลยนั่นก็คือ ใบหน้าของเราจะเริ่มมีความหย่อนคล้อย โครงสร้างใบหน้าเริ่มร่วงโรย ไม่ยกกระชับ มีความหมองคล้ำร่วมอยู่ด้วย หรือเริ่มเห็นริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ ชัดเจนมากขึ้นค่ะ
ปัจจัยใดที่ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น
อาหารถูกใจปากลำบากผิว
ขอพูดถึงเรื่องใกล้ตัวเราที่สุดเลยก็คือ การรับประทานอาหารค่ะ โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลและแป้งเน้น ๆ หรือจำพวกของปิ้งย่าง อาหารเหล่านี้ส่งผลให้เกิดสารอนุมูลอิสระ อันเป็นต้นตอที่ก่อให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อสุขภาพผิว
แดดอันเป็นศัตรูต่อผิว
รังสี UV จากแสงอาทิตย์ไม่ได้ทำให้ผิวคล้ำขึ้นเท่านั้น แต่ยังแทรกซึมเข้าไปทำลายลึกถึงชั้นในคอลลาเจนและอิลาสตินของผิว เมื่อเราปล่อยให้ผิวหน้าและผิวกายสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำ ไม่ได้มีการป้องกันผิวที่ดีมากนัก ส่งผลให้ผิดขาดความยืดหยุ่น และเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว
ความเครียดครอบงำจิตใจและผิว
ความเครียดที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจแล้ว ยังส่งผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกายอีกด้วย เมื่อเรามีความเครียดสะสมจนเกิดความวิตกกังวลมากขึ้นเท่าไหร่ ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะเป็นตัวเข้ามาทำลายคอลลาเจนผิว นอกจากนี้ความเครียดก็ยังส่งผลต่อการพักผ่อน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานในร่างกายและการทำงานของผิวลดลง
เล่นมือถือมากมีผลต่อความยืดหยุ่น
สมัยนี้ดิจิตอล สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทมากที่สุดในการใช้ชีวิตของผู้คน แต่นี่แหละค่ะที่เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เป็นเพราะว่าเมื่อเราจ้องโทรศัพท์หรือโน้ตบุ๊กเป็นเวลานาน ๆ แสงจากหน้าจอก็เป็นตัวทำลายชั้นผิว ก่อให้เกิดความหย่อนคล้อย และริ้วรอยรวดเร็วกว่าคนที่ไม่ค่อยได้ใช้สมาร์ทโฟนบ่อย
อายุที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการใช้งานของผิว
ปัญหาผิวขาดความยืดหยุ่น มักเกิดขึ้นกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นเป็นส่วนใหญ่เลยละค่ะ เพราะร่างกายจะเริ่มชะลอการทำงานในส่วนต่าง ๆ ให้ช้าลง รวมไปถึงประสิทธิภาพของการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวก็เริ่มลดลงไปด้วย ทำให้คนที่อายุมากขึ้นจะเริ่มมีผิวหย่อนคล้อย เริ่มเกิดริ้วรอยและผิวขาดความยืดหยุ่นอย่างเห็นได้ชัด
ฟื้นฟูผิวอย่างไรให้กลับมาอ่อนเยาว์
เราต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหมดที่เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพและความยืดหยุ่นของผิวก่อนเลยค่ะ การเลือกรับประทานที่เป็นมิตรแก่ผิวมากขึ้น อย่างเช่น ผัก ผลไม้ อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างปลา อาหารประเภทออร์แกนิก หรืออาหารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น รักษาความยืดหยุ่น ชะลอความเสื่อมโทรมของผิว และต้องควบคู่ไปกับการป้องกันและบำรุงผิว ป้องกันผิวจากแสงอาทิตย์ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องรังสี UV ที่มีค่า SPF 50 PA+ เสริมด้วยสกินแคร์ที่มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอย่างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความกระชับ ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว ในระหว่างที่ชโลมสกินแคร์ลงบนผิวค่อย ๆ นวดบนใบหน้าเพื่อให้เนื้อครีมเหล่านั้นซึมซับลงเนื้อผิวได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญไม่ควรละเลยการพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเวลานี้แหละจะเป็นเวลาที่ร่างกายเราได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หากเรามีการปรนนิบัติฟื้นฟูเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ผิวหน้าของเราก็จะดูสุขภาพดีมากขึ้นอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุด
สำหรับใครที่ต้องการฟื้นฟูแบบตรงจุด เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง ต้องเลือกวิธีการรักษาแบบทรีทเม้นท์ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างโปรแกรม ulthera คือ การรักษาใบหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ที่เข้าไปฟื้นฟูได้อย่างล้ำลึกถึงเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อยไร้ความกระชับ ซึ่งเมื่อรักษาด้วยเทคนิคนี้จะทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เกิดการยืดหยุ่นของผิวที่ดีขึ้น เติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ปรับผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยเข้ามากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวจากการถูกทำลาย ซึ่งจะเกิดผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่หลังทำ (ผลลัพธ์การรักษาจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล) และไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการรักษาเลยค่ะ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่วิธีการดังกล่าวต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ซึ่งใครที่สนใจทำการรักษาด้วยวิธีนี้ เราขอแนะนำคุณหมอเมฆ แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูผิวจาก Doctor Mek Clinic เนื่องจากคุณหมอเมฆมีความแม่นยำในการรักษา พร้อมด้วยเทคนิคการรักษาอันโดดเด่น ดูแลแก้ไขในทุกปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด จนเกิดผลลัพธ์ที่คนไข้ทุกคนประทับใจ ด้วยคุณภาพที่อัดแน่นมากมายขนาดนี้ เราก็ไม่รอช้าที่จะต้องออกมาบอกต่อถึงประสิทธิภาพการดูแลรักษาผิวของคุณหมอเมฆและทีมแพทย์ ซึ่งหากใครต้องการปรึกษาปัญหาผิวรวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้า สามารถเข้ามาให้คุณหมอเมฆและทีมแพทย์ผู้ชำนาญ ช่วยดูแลแก้ไขปัญหาได้ที่ Doctor Mek Clinic ค่ะ