เคยสังเกตไหมว่าใบหน้าของเรามักจะมีบางจุดที่เป็นแอ่ง หรือผิวหน้ายุบตัวลงไปไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ขมับ แก้ม ใต้ตา หรือส่วนอื่น ๆ ที่ทำให้ใบหน้าของเราดูไม่เรียบเนียน อีกทั้งยังทำให้ดูแก่กว่าวัยไปอีก ซึ่งสาเหตุก็มาจากหลายปัจจัยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น หรือกระดูกและไขมันยุบตัว บทความนี้เราก็เลยจะพามาเจาะลึกเกี่ยวกับสาเหตุว่า ปัญหานี้เกิดมาจากสาเหตุอะไรบ้าง แล้วมีวิธีการแก้ไขที่ดีหรือไม่
ปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้ายุบตัวเป็นแอ่ง โครงหน้าเปลี่ยน
ปัจจัยและสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผิวหน้ายุบตัวเกิดเป็นแอ่งได้ มีดังนี้
1. อายุมากขึ้น
ถือว่าเป็นปัจจัยหลัก ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเราอายุเริ่มมากขึ้นแล้ว แน่นอนว่ากระบวนการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนแปลง มีประสิทธิภาพในการซ่อมแซมฟื้นฟูผิวก็เริ่มถดถอยลงทั้งกระดูก กล้ามเนื้อ รวมไปถึงไขมัน จึงทำให้พออายุแตะเลข 4 ใบหน้าของเราก็จะเริ่มมีร่องลึก
2. คอลลาเจนใต้ชั้นผิวลดลง
ผิวที่ดีมาพร้อมกับคอลลาเจนที่แข็งแรง เพราะมันเป็นหนึ่งในสารที่สำคัญของร่างกาย ทำให้ผิวของเรามีความอ่อนเยาว์ กระชับ เต่งตึง และให้ความยืดหยุ่นที่ดีต่อผิว แต่ทว่าหากคอลลาเจนมีการทำงานที่ลดลง ผลที่ตามมาก็คือผิวที่ดูไม่กระชับ จากความเต่งตึงก็กลายเป็นความหย่อนคล้อยลงหรือเกิดเป็นร่องลึกได้
3. กระดูกทรุดตัว
ให้เปรียบง่าย ๆ เลยก็คือ กระดูกของเรานั้นเปรียบเสมือนโครงสร้างของบ้าน หากมันมีการชำรุด สึกหรอ ก็จะทำให้ตัวบ้านไม่มั่นคง เช่นเดียวกันกับกระดูกที่หากมันมีการทรุดตัวลง ก็จะทำให้ใบหน้าของเราดูซูบตอบ หรือดูโทรมลงไปด้วย ซึ่งปัจจัยนี้เราก็สามารถแยกออกไปได้อีกหลายสาเหตุ เช่น อายุเพิ่มขึ้น อุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อกระดูก หรือกรรมพันธุ์ เป็นต้น
4. ไขมันสลายตัวลง
ใต้ชั้นผิวของเรานอกจากจะมีกล้ามเนื้อ กระดูกแล้ว ก็ยังมีชั้นไขมันที่เป็นส่วนประกอบทำให้ใบหน้าของเราดูเต่งตึง อิ่มฟู แต่เมื่ออายุมากขึ้น หรือมีภาวะน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ไขมันที่เคยจับตัวกันก็จะค่อย ๆ ฝ่อลง ทำให้ในตำแหน่งนั้น ๆ เกิดเป็นแอ่งลึกลงไป อีกหนึ่งต้นตอที่ทำให้หน้าของเราแก่กว่าวัยนั่นเอง
ผิวเป็นแอ่ง มีร่องลึก ควรรับมือด้วยวิธีไหนได้บ้าง
หลายคนคงมีความกังวลว่าควรรับมืออย่างไรดี เพื่อไม่ให้ปัญหาหนักขึ้นไปมากกว่านี้ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมวิธีการฟื้นฟูเบื้องต้นมาฝากทุกคน สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เลยค่ะ แต่ต้องบอกก่อนว่าวิธีที่เราแนะนำไปนี้ อาจไม่ได้ฟื้นฟูให้ดีขึ้นเลยแบบชัดเจน อาจจะต้องใช้เวลาหรือมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาช่วยเสริมด้วยค่ะ
ออกกำลังกาย
ออกกำลังกายจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น แนะนำว่าให้ออกกำลังกายแต่พอดี ไม่หักโหมมากจนเกินไป ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หากทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็อาจทำให้ผิวดูตึงกระชับมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน หรือสารอาหารอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการฟื้นฟูซ่อมแซมผิว หรืออาหารที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เช่น ปลาทะเล โยเกิร์ต หรือจำพวกนม หากรับประทานให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่วิธีที่ทำให้กระดูกของเรากลับมาแข็งแรงได้เหมือนเดิมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยชะลอการทรุดตัวลงของกระดูกได้ดีเลยทีเดียว
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อผิว
ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือความเครียดเพราะปัจจัยเหล่านี้มีผลเสียต่อการเสื่อมสภาพของผิวทั้งทำลายคอลลาเจน ทำให้ไขมันฝ่อตัวลง อีกทั้งยังมีส่วนทำให้กระดูกของเราทรุดตัวลงได้ด้วย ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ผิวของเราเสื่อมสภาพลงไปมากกว่านี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ ไปถึงป้องกันผิวให้พ้นจากแสงแดดและมลภาวะ
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันผิวไม่ให้เสื่อมสภาพลงไปตามช่วงวัย แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น สามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวได้จากภายในสู่ภายนอก รวมไปถึงการทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และต้องมีส่วนผสมป้องกัน UV ได้ และที่สำคัญที่สุดคือ เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของเราเพื่อการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพ
เมคอัพกลบร่องลึก
วิธีนี้จะเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบแต่งหน้า เพราะว่าเมคอัพของเรานี่แหละค่ะ จะสามารถกลบร่องลึกบนใบหน้าได้ หรือช่วยอำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ด้วยการสร้างเงา หรือเพิ่มมิติด้วยการใช้คอนทัวร์ ไฮไลท์เข้ามาช่วย อย่างไรก็ตามวิธีนี้ต้องอาศัยทั้งความชำนาญและศิลปะในการตกแต่ง เพื่อให้มีความแนบเนียนไม่โป๊ะ แต่ต้องใช้เครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานและเข้ากับสภาพผิวของเราด้วยนะคะ
เปลี่ยนทรงผม
ทรงผมมีอิทธิพลต่อใบหน้าเป็นอย่างมาก ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวเป็นแอ่ง มีร่องลึก เช่น หน้าผากเป็นแอ่ง คลื่น ดูไม่เรียบเนียน ก็สามารถปกปิดได้ด้วยการตัดผมหน้าม้า หรือมีขมับดูตอบลงก็สามารถลอนผมเพื่อสร้างเลเยอร์ให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้นได้
ปัญหาผิวหน้ายุบตัว ผิวทรุดตัว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วแก้ไขได้ยากกว่าปัญหาผิวชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากที่หลายคนมักจะกลุ้มใจมากเป็นพิเศษ เพราะวิธีที่จะช่วยกลบร่องลึกในจุดนั้นได้ดีที่สุดก็คงจะเป็นการตัดผมหน้าม้า แต่ในปัจจุบันเรามีทางเลือกที่ดีกว่านั้นนั่นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการเข้าไปเติมเต็มใต้ชั้นผิวได้ตั้งแต่ชั้นกระดูก เป็นวิธีที่จะช่วยเติมหน้าผากที่เคยเป็นแอ่งให้ดูฟูขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความโหนกนูน กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ทำให้ใบหน้าดูละมุนได้รูปมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องง้อการทำศัลยกรรมเลยค่ะ