หลายคนกำลังเผชิญอยู่กับความรู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง จนไม่กล้าเซลฟี่ถ่ายรูปอวดใบหน้า เพราะเกิดปัญหาเหนียงหย่อนคล้อยจนไร้กรอบหน้า ปัญหาที่สุดแสนจะบั่นทอนจิตใจของสาว ๆ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง วันนี้เราจะมา cheer up! ความมั่นใจของสาว ๆ ให้กลับมาอีกครั้งกับกลวิธีเสกกรอบหน้า บอกลาเหนียงอันน่าหนักใจ
ทำความเข้าใจก่อนลงมือแก้ไข คางที่หย่อนคล้อยเกิดจากอะไร
ปัญหานี้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือมีปริมาณไขมันสะสมอยู่ตรงชั้นผิวมากเกินไป แต่ปัญหานี้กลับไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคนที่มีน้ำหนักมากเท่านั้น กับคนรูปร่างผอมก็สามารถเจอปัญหาคางหย่อนคล้อยได้เช่นกัน สาเหตุก็มาจากพันธุกรรมในครอบครัว รูปคางที่สั้น หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนอนกดหน้าลงจนเกิดเป็นรอยพับใต้คางทำให้ไขมันเข้าไปสะสมตรงใต้คางได้ และเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ผิวบริเวณใต้คางมีความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ ซึ่งในแต่ละสาเหตุนั้นก็มีความยากง่ายในการรักษาให้ดีขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็นำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ นำมาฝากผู้ที่อยากเนรมิตผิวส่วนนี้ให้ยกกระชับขึ้นกันค่ะ
วิธีการยกกระชับผิวคาง
-
บริหารผิวคาง
ท่าเงยหน้าจูบกลางอากาศ – ให้เงยหน้าขึ้นสุดหรือมองขึ้นไปที่เพดาน แล้วทำปากจู๋ค้างไว้ พยายามเกร็งกล้ามเนื้อส่วนใต้คางไว้ จากนั้นก้มกลับมาเป็นปกติ ทำแบบนี้ติดต่อกัน 15 ครั้ง จะสามารถช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณใต้คางได้
ตบเบา ๆ กระตุ้นผิว – มองตรงไปข้างหน้าแล้วใช้หลังมือตีไปที่บริเวณใต้คางเบา ๆ โดยใช้น้ำหนักที่พอดีไม่ตีแรงจนเกินไป ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ ติดต่อกันประมาณ 30 วินาที – 1 นาที จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อช่วงคางหรือกระตุ้นผิวตรงบริเวณนั้น
ออกเสียง E – เปล่งเสียงคำว่า อี ออกมาโดยการฉีกยิ้มกว้าง ๆ เพื่อเกร็งส่วนบริเวณกรามเอาไว้ จากนั้นกลับเข้าสู่ปกติ และทำแบบนี้ไปซ้ำ ๆ ติดต่อกัน 10 ครั้ง จะช่วยบริหารช่วงกรามและคอได้ดี
ท่าครอบฟัน – เงยหน้าขึ้นมองเพดานเช่นเดียวกับท่าจูบกลางอากาศ จากนั้นฟันล่างมาครอบกับฟันด้านบน หรือดันกรามขึ้น ให้รู้สึกถึงความตึงเกร็ง ทำแบบนั้นค้างไว้ 10 วินาที ซึ่งในระหว่างนั้นควรดันกรามออกมาให้รู้สึกเกร็งมากที่สุด เพื่อให้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นมีความกระชับขึ้น
ลูบคอ – เงยหน้าจนสุด แล้วใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างประสานกันโดยลูบจากช่วงคอขึ้นไปจนสุดปลายคาง ทำแบบนี้ประมาณ 15 ครั้ง จะช่วยให้ผิวตึงรู้สึกกระชับเหนียง
นอกจากนี้ยังมีกลวิธีอีกมากมายที่ช่วยบริหารส่วนคาง แต่ขอบอกก่อนว่าวิธีดังกล่าวไม่อาจช่วยให้ดีขึ้นมากนัก เพราะปัจจัยการเกิดปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นอาจจะลองทำควบคู่ไปกับขั้นตอนต่อ ๆ ไปได้ค่ะ
-
ควบคุมการกิน
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้สำหรับผู้ที่มีไขมันอันเกิดมาจากการรับประทานอาหารตามใจปากมากเกินไป เพราะฉะนั้นหากเราควบคุมการรับประทานอาหารให้เข้มงวดมากขึ้น ตามใจปากให้น้อยลง ก็สามารถช่วยให้ไขมันบริเวณใต้คางลดลงไปพร้อม ๆ กับสัดส่วนอื่น ๆ แนะนำว่าควรรับประทานอาหารที่มีผักใบเขียว อาหารที่มีไขมันดี เช่น ปลาต่าง ๆ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เป็นของทอดของมัน หรืออาหารที่มีน้ำมันสะสมเยอะ ๆ ลดอาหารที่มีโซเดียมสูง และน้ำตาลในปริมาณที่เยอะเกินไป
-
เครื่องสำอางช่วยปกปิด
เป็นวิธีที่ถูกอกถูกใจสาว ๆ สายบิวตี้กันมากเลยละค่ะ สำหรับการปกปิดด้วยเทคนิคการแต่งหน้า เพราะวิธีนี้ช่วยได้ทั้งเรื่องความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่าง ๆ ได้ โดยอุปกรณ์แห่งการปกปิดก็จะมี Primer เพื่อปกปิดริ้วรอย รองพื้นเพื่อปกปิดตำหนิบนผิวหน้าให้ดูเรียบเนียน ไฮไลท์เพื่อให้หน้าดูยกกระชับขึ้น และเฉดดิ้งเพื่ออำพรางบางจุดให้ดูเล็กเรียวลง ให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้เครื่องสำอางแต่ละชนิดควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว รวมไปถึงเฉดสีที่คู่กับผิว ไม่โดดจนโป๊ะเกินไปนะคะ
ทำไมบางคนลดเหนียงไม่ลงเป็นเพราะ!?
บางคนก็ลองมาแทบจะทุกวิธี แต่กลับไม่เห็นวี่แววว่าผิวคางจะดูยกกระชับขึ้นเลย นั่นเป็นเพราะว่าในบริเวณนั้นมีการสะสมของไขมันที่เยอะมากเกินไป จนไม่สามารถเผาผลาญออกไปได้อย่างรวดเร็วดั่งใจ หรือกับผู้ที่มีอายุมากแล้วบริเวณชั้นผิวก็เริ่มหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา หากจะใช้วิธียกกระชับตามธรรมชาติก็คงไม่ได้ช่วยมากนัก ด้วยกล้ามเนื้อที่เริ่มเสื่อมสภาพลง ความเต่งตึงของกล้ามเนื้อก็ลดน้อยลงไปด้วย ดังนั้นแล้วหากเกิดปัญหานี้ ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดก็คงจะเป็นการยกกระชับที่ต้องพึ่งเทคนิคทางการแพทย์เข้ามาช่วยแล้วละค่ะ
ซึ่งเทคนิคทางการแพทย์ที่สามารถช่วยลดปัญหาผิวใต้คางหย่อนคล้อยได้ก็คือ ulthera โปรแกรมยกกระชับโดยการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ส่งตรงเข้าไปยกกระชับผิวในตำแหน่งที่เราต้องการ สามารถเข้าไปฟื้นฟูได้ลึกถึงชั้นผิวด้านใน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่สำคัญต่อผิว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ชั้นผิวบริเวณใต้คางดูยกกระชับขึ้น ใบหน้ามีกรอบที่ชัดเจน ประหนึ่งเสกความอ่อนเยาว์เข้าสู่ผิวหน้าของเราอีกครั้ง แต่อย่างที่บอกไปว่านี่คือเทคนิคทางการแพทย์ ดังนั้นก็ควรที่จะอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับคลินิกที่มีมาตรฐานที่ไว้ใจได้ถึงความปลอดภัยต่อตัวเรา เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วก็ต้องแนะนำที่นี่เลยค่ะ Doctor Mek Clinic เป็นการรักษาโดยฝีมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอย่างคุณหมอเมฆ แพทย์ผิวหนังที่มีทั้งความรู้ ประสบการณ์ในการรักษาอย่างสูงด้านการฟื้นฟูสุขภาพผิวหนัง ซึ่งก่อนทำคุณหมอเมฆจะทำการวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าของเราอย่างตรงไปตรงมา ใส่ใจและแก้ไขปัญหานั้นออกมาได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญ Doctor Mek Clinic ยังเป็นคลินิกที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้คนอย่างท่วมท้น ไม่ว่าจะเป็นคนไข้จริงหรือดาราชั้นนำของเมืองไทยต่างก็ไว้ใจการรักษาของคุณหมอเมฆ และที่นี่ยังการันตีมาตรฐานด้วยรางวัลมากมาย เพื่อตอกย้ำประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม หากต้องการฟื้นฟูปัญหาผิวหย่อนคล้อยใต้คางให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริงควบคู่ไปกับความปลอดภัยต้องที่ Doctor Mek Clinic เลยค่ะ