รวมฮาวทูไดเอต ลดหน้าท้อง บอกลาพุงยื่น

ไขมันหน้าท้อง หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “พุง” เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจของคนที่อยากมีรูปร่างผอมเพรียว หลาย ๆ คนจึงตามหาสารพัดฮาวทูไดเอต ลดหน้าท้อง บอกลาพุงยื่น เพราะถ้าเรามีชุดสวยให้เลือกใส่เต็มตู้แต่มีพุงเป็นอุปสรรคก็คงน่าหงุดหงิดไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลไปค่ะ รับรองว่าถ้าเลือกทำตามเทคนิคฮาวทูไดเอต ลดหน้าท้อง บอกลาพุงยื่นจากบทความนี้ พุงป่อง ๆ ของเราก็จะยุบได้อย่างแน่นอนค่ะ

สำหรับใครที่อยากไดเอตเพื่อลดหน้าท้องโดยเฉพาะ อันดับแรกเรามาทำความเข้าใจกับไขมันหน้าท้องกันก่อนดีกว่าค่ะ

“ไขมันหน้าท้อง” เป็นไขมันที่เกิดจากเมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายก็จะเปลี่ยนอาหารเหล่านี้ให้เป็นพลังงาน (หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “แคลอรี”) โดยพลังงานเหล่านี้ร่างกายจะนำมาใช้เพื่อการดำรงชีวิตของเรา ตั้งแต่การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ไปจนถึงทำให้เรามีแรงในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายจะมีการเผาผลาญอยู่ที่ 2,000 แคลอรี/วัน ส่วนผู้หญิงจะมีการเผาผลาญอยู่ที่ 1,800 แคลอรี/วัน (เป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยคร่าว ๆ เท่านั้น)

สรุปคือ แคลอรีเป็นพลังงานที่ใช้สำหรับการดำรงชีวิต แต่เมื่อเราทานอาหารจนร่างกายได้รับแคลอรีมากเกินไป พลังงานที่เหลือก็จะถูกร่างกายเก็บไว้จนกลายเป็นไขมันสะสม จนก่อให้เกิดพุงหรือไขมันหน้าท้องนั่นเองค่ะ

ถ้าอย่างนั้นกินน้อย ๆ จะได้ไม่มีพลังงานเหลือให้สะสมได้ไหม? คำตอบคือไม่แนะนำค่ะ เนื่องจากการรับประทานอาหารให้น้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ แม้จะทำให้ร่างกายดึงไขมันสะสมเหล่านี้ไปใช้ได้ก็จริง (ซึ่งตามทฤษฎีแล้วหากลดพลังงานลง 7,000 แคลอรี ไขมันก็จะถูกสลายไป 1 กิโลกรัม ซึ่งทำให้ผอมลงไป 1 กิโลกรัม) แต่มันมีผลเสียตามมาค่ะ นั่นคือเสี่ยงต่อร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ถึงจะผอมก็ผอมแบบร่างโทรม อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการโยโย่ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการไดเอตแบบผิดวิธีนั่นเอง

แล้วควรลดหน้าท้อง บอกลาพุงยื่นยังไงให้ได้ผลดีและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย? วิธีที่เราแนะนำจะเป็นวิธีเหล่านี้ค่ะ

• ลดการทานของหวาน ทั้งอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

คิดว่าหลายคนคงทราบดีว่าน้ำตาลในเครื่องดื่มและอาหารเป็นศัตรูของการลดน้ำหนักอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว น้ำตาลยังทำให้เกิดไขมันส่วนเกินสะสมที่บริเวณหน้าท้องและตับด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลมากเกินไป หันมากินอาหารที่ไม่ต้องปรุงเยอะหรือเลือกดื่มน้ำเปล่าจะช่วยลดพุงได้ไวกว่าค่ะ

• รับประทานโปรตีนให้มากขึ้น

โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะการทานโปรตีนจะช่วยลดความหิวลงได้ถึง 60% ทั้งยังเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรีในร่างกายได้ถึงวันละ 80-100 แคลอรี จึงเป็นการช่วยลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องได้

• ลดคาร์โบไฮเดรต

ลดไม่ได้แปลว่าอดนะคะ เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตก็นับเป็นหนึ่งในอาหารห้าหมู่ จึงห้ามขาดค่ะ แต่ควรบริโภคให้น้อยแทน เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลงในแต่ละมื้ออาหาร สามารถช่วยลดไขมันที่หน้าท้องและไขมันรอบอวัยวะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักได้อีกด้วย ดังนั้นทานคาร์โบไฮเดรตได้ แต่ไม่ควรทานเยอะนะคะ

• โปรไบโอติกส์มีประโยชน์ ทานได้

โปรไบโอติกส์เป็นแบคทีเรียชนิดที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมถึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น จึงสามารถทานเพื่อควบคุมน้ำหนักได้ โดยอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ก็อย่างเช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ เป็นต้น

• ไขมันทรานส์อันตราย ควรหลีกเลี่ยง

ไขมันมีทั้งแบบที่ดีต่อสุขภาพและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งไขมันทรานส์นับเป็นไขมันอันตรายค่ะ เป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้มากที่สุด เป็นที่มาของพุงห้อย พุงยื่น พุงเป็นชั้น มักเจอในอาหารประเภทของทอดของมัน แถมยังเป็นไขมันที่ก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้น

• รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงให้มากขึ้น

อย่างที่ทราบกันดีว่าไฟเบอร์มีส่วนช่วยในการขับถ่าย ทำให้เป็นผลดีต่อการลดพุงลดน้ำหนัก แต่นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยลดไขมันหน้าท้องและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังอื่น ๆ ด้วยนะคะ โดยมีการศึกษาพบว่าไฟเบอร์ในอาหารบางชนิดมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายนำเอาไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น

• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสำคัญมาก

นอกจากควบคุมการทานอาหาร การออกกำลังกายก็เป็นตัวช่วยลดพุงสำคัญไม่แพ้กัน โดยสามารถเลือกได้ทั้งการออกกำลังกายเฉพาะจุดเพื่อเน้นการลดหน้าท้อง (ซิตอัป, วิดพื้น, ทำท่าแพลงก์ ฯลฯ) หรือจะออกกำลังกายทั้งตัวเพื่อลดส่วนอื่น ๆ ไปพร้อมกันด้วย (การวิ่ง, กระโดดเชือก, ว่ายน้ำ, เต้นแอโรบิก ฯลฯ) โดยทั้งสองทางเลือกสามารถลดการสะสมของไขมันหน้าท้องได้ทั้งหมด และที่สำคัญคือทำให้สุขภาพของเราแข็งแรงควบคู่ไปกับการมีรูปร่างดีอีกด้วยค่ะ

• ความเครียดก็ทำให้อ้วนได้

ความเครียดเป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่ใครหลายคนอาจจะไม่รู้ เพราะเมื่อเราเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ออกมา ทำให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้น เราจึงเผลอกินเยอะโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้แย่ลง ทางแก้คือ ควรหาวิธีผ่อนคลาย หากิจกรรมคลายความเครียดด่วน ๆ เลยค่ะ

• นอนหลับให้เพียงพอ

การพักผ่อนคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ร่างกายได้มีเวลาซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (พักผ่อนต่ำกว่า 7 ชั่วโมงขึ้นไป) จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญในร่างกายพัง จึงมีแนวโน้มให้อ้วนง่ายขึ้น นอกจากนี้ การที่เราตื่นอยู่ตลอดก็จะส่งผลให้ร่างกายหิวมากกว่าปกติด้วยค่ะ

• ขยับตัวให้มากขึ้น ลุกจากเก้าอี้บ่อย ๆ

หนึ่งในสาเหตุของการอ้วนลงพุงคือ การนั่งนาน ๆ ไม่ยอมขยับร่างกายนั่นเอง ดังนั้นจึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วนเลยค่ะ โดยเฉพาะสาว ๆ ออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานทั้งวัน โดยแนะนำให้ลุกจากเก้าอี้ทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ร่างกายได้ขยับมากขึ้น เช่น เดินขึ้นบันได หากไปสถานที่ใกล้ ๆ ให้ลองใช้การเดินแทนการขับรถ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบการย่อยอาหารของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น จึงช่วยลดพุงลดไขมันสะสมในร่างกายได้ค่ะ

• หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ใครที่คิดว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เหมือนน้ำเปล่า กินเยอะคงไม่อ้วนหรอก ให้รีบปรับเปลี่ยนความคิดใหม่เลยนะคะ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีแคลอรีไม่น้อยเลย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันที่หน้าท้อง ทำให้เกิดไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น นี่ยังไม่นับรวมผลเสียต่อสุขภาพอีกนะคะ ดังนั้นใครที่อยากสุขภาพดีควบคู่ไปกับการมีหุ่นเพรียวพุงยุบ การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถช่วยได้ค่ะ

• ลดพุง กำจัดไขมันสะสมด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์

วิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการกำจัดเซลล์ไขมันอย่างถาวร (เนื่องจากการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารเป็นเพียงการทำให้เซลล์ไขมันมีขนาดลดลงเท่านั้น) รวมถึงเหมาะกับคนอยากลดพุงแต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองและต้องการผลลัพธ์อย่างเร่งด่วน ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการพึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์ที่มีชื่อว่า Sculpsure อันเป็นการใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อเจาะจงกำจัดเม็ดไขมันโดยตรงค่ะ

เทคโนโลยีนี้เป็นนวัตกรรมตัวใหม่ที่สามารถเข้าถึงและทำลายเซลล์ไขมันส่วนเกินได้โดยใช้พลังงานเลเซอร์ ในช่วงคลื่น 1060 nm พลังงานเลเซอร์นี้จะทำให้เกิดความร้อนในระดับอุณหภูมิ 42-47ºC เฉพาะบริเวณเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันช็อกและค่อย ๆ ตายไปโดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ข้างเคียงอื่น ๆ เซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติผ่านทางระบบน้ำเหลือง จึงไม่ส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้ถึง 24% ในการทำแต่ละครั้ง และสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ทั้งยังไม่เป็นอันตรายเนื่องจากตัวเครื่องผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพจากประเทศสหรัฐอเมริกา (US.FDA Approved)

โดยสรุปแล้ว หากใครต้องการลดหน้าท้อง บอกลาพุงยื่นแบบเร่งด่วนและปลอดภัย Sculpsure ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ถูกสร้างมาเพื่อกำจัดไขมันเฉพาะจุดโดยเฉพาะ ตลอดการรักษาจะอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นจึงหมดห่วงเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา หลังทำไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น ทั้งยังไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย จึงเป็นหนึ่งในวิธีกำจัดไขมันส่วนเกิน บอกลาพุงยื่นที่เราอยากแนะนำค่ะ