สำหรับในตอนนี้หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต่างนิยมหันมาดูแลสุขภาพและรักษารูปร่างกันมากขึ้น เพราะการมีรูปร่างที่ดูดีเป็น เสมือนประตูด่านแรกที่ทำให้เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ดังนั้นจึงเกิดการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ วิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นวิธีที่สามารถทำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารคลีน การพักผ่อนให้เพียงพอ โดยปกติแล้ววิธีต่าง ๆ ล้วนทำได้ผล แต่จะตามเป้าที่วางไว้ไหม? ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละท่านจะมีความถนัดใช้วิธีไหน เพราะฉะนั้นมาทำความรู้จักวิธีลดน้ำหนัก 5 อันดับ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งประหยัดและมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงกันค่ะ
วิธีลดน้ำหนักแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
หลายคนที่กำลังประสบปัญหาภาวะน้ำหนักเกิน พุงยื่น ใส่เสื้อผ้าตัวไหนก็ดูไม่ดีจนเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายที่ต้องออกไปพบปะผู้คน First Impression หรือความประทับใจแรกพบ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะรูปร่างที่จะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของคุณให้ดูดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงควรหันมาใส่ใจและดูแลรูปร่างของตัวเองให้ดูดีกันอยู่เสมอ โดยในวันนี้จะขอแนะนำวิธีลดน้ำหนักอย่างง่าย ๆ 5 อันดับ ที่คุณสามารถเริ่มต้นทำได้ด้วยตัวเอง
อันดับ 1 การทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ
สำหรับความเชื่อผิด ๆ ในการอดอาหารที่จะช่วยทำให้น้ำหนักลดได้นั้น ถือเป็นวิธีที่ผิดและความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง แถมยังส่งผลเสียต่อผู้ที่เลือกใช้วิธีนี้ ทำให้สุขภาพมีปัญหาและเกิดอาการข้างเคียงตามมาอีกมากมาย เนื่องจากระบบของร่างกายของเรา ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเป็นเวลานานติดต่อกัน จะทำให้เกิดความหิวที่มีผลสั่งให้ร่างกายรับประทานอาหารเพิ่มมากขึ้น หรือที่เรียกว่าอาการโยโย่นั่นเอง แถมยังทำให้ร่างกายของเรามีผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ ซึ่งไม่ได้ช่วยทำให้น้ำหนักตัวของเราลดลง
ซึ่งอาหารที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นอาหารมื้อเช้า เพราะถือเป็นมื้อที่ร่างกายของเราต้องการมากที่สุด เนื่องจากระหว่างที่เราหลับตลอดทั้งคืน ร่างกายจะไม่ได้สารอาหารอะไรเข้าไปเลย ดังนั้นพอตอนเช้าก็ทำให้เกิดความอิดโรย และต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์ในการเสริมพลังงานให้เกิดความสดชื่น เพื่อที่ร่างกายจะได้มีแรงทำงานตลอดทั้งวัน ฉะนั้นแล้วอาหารเช้าจึงถือเป็นมื้ออาหารที่ขาดไม่ได้ที่จะช่วยให้สมองจัดการความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังไม่ทำให้เราอ้วนอีกด้วย
สำหรับในส่วนของอาหารเย็น แนะนำให้ควรงดรับประทานอาหารหลัง 18:00 น เพราะร่างกายของเราจะเริ่มเผาผลาญน้อยลง ดังนั้นหากต้องการรับประทานควรทานก่อน 18:00 น จะเป็นเวลาที่ดีกว่า แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรเน้นอาหารประเภทผัก ผลไม้ สลัด หรือเน้นอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อที่ร่างกายจะได้มีระบบขับถ่ายที่ดีในตอนเช้า แถมยังเป็นการช่วยลดคอเลสเตอรอล และลดโรคความดันโลหิตสูงได้เป็นอย่างดี
สรุป การรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อและรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายก่อน 18:00 น จะช่วยทำให้ร่างกายมีระบบเผาผลาญที่เป็นปกติ ทำให้การรับประทานอาหารอยู่ในระดับที่มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ช่วยให้เราไม่หิวจนเกินไป ถ้ามื้อไหนเราอดอาหารเราจะรู้สึกว่าร่างกายเกิดการกินในปริมาณที่มากกว่าเดิม และนั่นจึงเป็นสาเหตุของน้ำหนักที่เพิ่มตามมา
อันดับ 2 หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รวมทั้งอาหารผัด ทอด
โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราต้องการไขมันดี เพื่อให้กระบวนการภายในร่างกายสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ เพราะร่างกายของเรายังคงต้องการพลังงาน แต่ไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายจะเป็นประเภทไขมันทรานส์
ร่างกายของมนุษย์ถ้าหากได้รับไขมันทรานส์เข้าไปในปริมาณการบริโภคที่สูงจนเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะไขมันประเภทนี้เกิดจากการแปรรูปอาหาร ซึ่งถือเป็นประเภทของไขมันที่มีอันตรายต่อร่างกายมนุษย์เยอะที่สุด ทำให้เกิดโรคร้ายไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดตีบ โรคไขมันอุดตัน เบาหวาน และมะเร็ง
สรุป ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีการปรุงด้วยน้ำมัน หรือการผัด การทอด เพราะมีโอกาสที่เราจะได้รับไขมันทรานส์ซึ่งเป็นไขมันตัวร้ายที่จะส่งผลทำให้เกิดโรคร้ายตามมาได้
อันดับ 3 พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก
ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบ การพักผ่อนถือเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม โดยการอดนอนเป็นเวลานาน ๆ จะส่งผลทำให้ร่างกายนอนไม่เพียงพอ เกิดปฏิกิริยาหิวมากกว่าปกติ ซึ่งนั่นทำให้น้ำหนักของร่างกายเพิ่มขึ้น และในระหว่างที่เราหลับนั้น ร่างกายจะมีการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ เพราะฉะนั้นหากร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่นอนดึก ระบบภายในของร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนช่วยกดความอยากอาหาร ช่วยให้การรับประทานในแต่ละมื้ออยู่ในปริมาณที่เป็นปกติเหมาะกับความต้องการของร่างกาย ทำให้เราไม่รู้สึกหิวมากจนเกินไป
การนอนไม่หลับ ถือเป็นเรื่องที่ชาวออฟฟิศในยุคปัจจุบันได้รับผลกระทบกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาวะการทำงานที่เร่งรีบ และการทำงานที่มีความกดดัน ทำให้ร่างกายเกิดความเครียดจนนอนไม่หลับ ซึ่งเมื่อเกิดภาวะนอนไม่หลับก็ส่งผลทำให้ร่างกายของเราเกิดความวิตกกังวล และยิ่งถ้านอนดึกก็ยิ่งจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความหิว เป็นสาเหตุที่ทำให้กินจุกจิก และเกิดน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกินมาตรฐานตามมา
สรุป การนอนพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันจะช่วยทำให้ร่างกายของเราสดชื่น ช่วยให้ระบบเผาผลาญภายในร่างกายทำงานเป็นปกติ ร่างกายของเราจะไม่หิวจนเกินไป และยังทำให้ผิวพรรณสดใสแต่งตึงจากการนอนหลับอย่างเพียงพอ
อันดับ 4 งดการทานอาหารที่มีรสหวาน
การทานหวานหรือผู้ที่ชื่นชอบทานของหวาน ถือเป็นหนึ่งในภัยเงียบของสังคมไทย ด้วยรสชาติที่แสนอร่อยแต่ซ่อนภัยอันตรายเงียบ ๆ เพราะการบริโภคน้ำตาลที่มากจนเกินไป ส่งผลทำให้ร่างกายมีแคลอรี่สูงกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น แนะนำให้ทุกท่านทดลองงดของหวาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำชานมไข่มุก หรือน้ำที่มีรสหวาน รวมถึงอาหารที่มีรสชาติหวาน คุณจะสามารถเห็นน้ำหนักตัวของคุณลดลงได้อย่างชัดเจนใน 7 วัน เพราะอาหารที่มีรสหวานจะมีผลทำให้แคลอรี่ของร่างกายสูง และน้ำตาลในเลือดสูงตามไปด้วย แถมยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน ถ้าในระยะ 7 วัน คุณลดการทานน้ำตาลให้น้อยลง คุณจะเห็นได้อย่างชัดว่าน้ำหนักคุณก็จะลดตามลงไปด้วย
สรุป ควรงดแบบเด็ดขาด ไม่ควรรับประทานน้ำหวาน หรืออาหารที่มีรสชาติหวาน รวมถึงควบคุมปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันไม่ให้เกิน 2 ช้อนโต๊ะ ซึ่งเป็นปริมาณที่ร่างกายต้องการ ถ้าหากรับประทานมากเกินไปจะช่วยกระตุ้นทำให้น้ำหนักภายในร่างกายของเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังเป็นผลเสียที่อาจทำให้เราป่วยเป็นโรคเบาหวานได้
อันดับ 5 ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายมีระบบการเผาผลาญที่ดี ซึ่งร่างกายของเราต้องการน้ำในปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน นี้จึงเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญและลดน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น คือ การเลือกดื่มน้ำสะอาดในตอนเช้าทันทีที่ตื่น เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเรามีเลือดค่อนข้างเข้มข้น การได้น้ำจะไปกระตุ้นให้ระบบภายในร่างกายไหลเวียนได้ดี แถมจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีระบบขับถ่ายที่ดี ช่วยให้ระบบลำไส้ไม่มีของเสียตกค้าง
สรุป น้ำดื่มสะอาดส่งผลดีต่อร่างกาย สามารถช่วยให้เรามีระบบไหลเวียนที่ดี ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ทำให้ร่างกายมีระบบไหลเวียนที่ดีขึ้น
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ สำหรับวิธีลดน้ำหนักแบบง่าย ๆ โดยสามารถเริ่มต้นเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมได้ด้วยตัวคุณเอง ซึ่งทางเลือกนี้อาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามพอสมควร แต่สำหรับท่านที่ไม่มีเวลาและต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินแบบเร่งด่วน ทางคลินิกของเรามีบริการนวัตกรรมสลายไขมัน โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ดูแลทุกขั้นตอนโดยอาจารย์หมอที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บริการมีความปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่าตัด สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลพร้อมรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ตามช่องทางการติดต่อที่หน้าเว็บไซต์ค่ะ