หลายคนเข้าใจว่าปัญหาใต้ตาดำคล้ำมักเกิดจากการพักผ่อนน้อย นอนดึก อายุมากขึ้น หรือแม้แต่การละเลยบำรุงผิวรอบดวงตา แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้” ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเกิดภาวะใต้ตาคล้ำเพราะโรคภูมิแพ้แบบที่ไม่รู้ตัวมาก่อน อาจทำให้บางคนดูแลรักษาได้ไม่ตรงจุด วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอาการตาคล้ำจากภูมิแพ้กันว่าคืออะไร มีสาเหตุจากอะไร ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นมีอะไรบ้าง รวมถึงตอบคำถามว่า “ใต้ตาดำเพราะภูมิแพ้แก้ยังไงได้บ้าง”
สารบัญบทความ
- ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้คืออะไร
- สาเหตุใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้มีอะไรบ้าง
- ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้
- วิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้
- ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้เป็นอันตรายไหม
- แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ที่ Doctor Mek Clinic ดีอย่างไร
ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้คืออะไร
ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ คือ ภาวะที่ร่างกายปล่อยสารที่เรียกว่า “ฮีสตามีน” ออกมาเมื่อร่างกายมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าหรือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ภูมิแพ้กำเริบ เช่น ฝุ่น, ขนสุนัข ขนแมว, เกสรดอกไม้ ซึ่งสารฮีสตามีนที่ถูกปล่อยออกมานั้นจะทำให้เกิดกลไกการนำเลือดไปเลี้ยงที่หลอดเลือดดำมากขึ้น จึงทำให้ใต้ตามีสีดำคล้ำขึ้น นอกจากนี้ ผู้ที่มีขอบตาคล้ำเพราะภูมิแพ้มักจะมีสาเหตุจากอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันจนต้องขยี้ตาแรง มีอาการจามบ่อย ส่งผลให้เยื่อบุจมูกบวมอักเสบ ทำให้เกิดเลือดคั่งที่หลอดเลือดดำบริเวณขอบตาด้านล่าง จึงทำให้เห็นผิวใต้ตาดำคล้ำ
สาเหตุใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้มีอะไรบ้าง
ใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้ไม่ใช่เป็นเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ใต้ตาดำคล้ำ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วมักเกิดจากปัจจัยภายในและการใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ ดังนี้
- อายุที่มากขึ้น ทำให้ใต้ตาหย่อนและมีถุงใต้ตาที่คล้อยลงมาทำให้เห็นเงาสีดำที่ขอบตาล่าง ผิวหนังรอบดวงตาบางลงจนทำให้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้น ส่งผลเห็นรอยคล้ำมากขึ้น
- ร่างกายขาดน้ำ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เซลล์ผิวไม่แข็งแรง ทำให้ผิวใต้ตาไม่สดใส จนมีรอยดำใต้ตา
- รังสี UV จากแสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น ทำให้ขอบตาดำ
- พักผ่อนน้อยและความเครียดสะสม ทำให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวได้ไม่เต็มที่ โครงสร้างผิวจึงเสื่อมโทรมเร็ว รวมถึงผิวใต้ตาที่ไม่กระจ่างใส
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ตัวการที่ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ รวมถึงส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวผิดปกติ จนทำให้เห็นรอยคล้ำที่ใต้ตา
- โรคประจำตัวบางชนิด อย่างภาวะใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองรอบดวงตา ทำให้คันจนเผลอขยี้ตาแรง รวมถึงหลอดเลือดมีการขยายตัว
- ภาวะตั้งครรภ์ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงและภาวะหลอดเลือดใต้ผิวขยายตัว
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้
ภาวะโรคใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้มีสาเหตุหลัก ๆ จากการที่ร่างกายได้รับสารกระตุ้นที่เป็นตัวการทำให้โรคภูมิแพ้กำเริบขึ้นมาได้ ดังต่อไปนี้
- ไรฝุ่น เป็นแมลงที่มีขนาดเล็กมาก ๆ จนอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ซึ่งปะปนมากับฝุ่นที่อยู่ในบ้าน เป็นตัวการภูมิแพ้และขอบตาดำ
- สภาพอากาศเย็นและแห้ง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้
- เส้นขนของสัตว์เลี้ยง เมื่อเข้าจมูกแล้วทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย จนมีอาการจาม คันจมูก มีน้ำมูกไหล ซึ่งเป็นอีกสาเหตุของใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้
- น้ำหอม โดยเฉพาะน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุนมาก ๆ หรือแม้กระทั่งการดมกลิ่นแรง ๆ ทำให้มีอาการจามบ่อย มีน้ำมูกไหลมาก
- เกสรดอกไม้ เมื่อสูดนำเอาเกสรดอกไม้เข้าไปจะทำให้เกิดอาการคัดจมูก จาม คัน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นตาจนขอบตาดำจากการขยี้ตา
วิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้
“ภูมิแพ้ทำให้ขอบตาดำ รักษาอย่างไร” โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถป้องกันและรักษาภาวะใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ได้ง่าย ๆ ด้วยการดูแลตัวเอง รวมถึงรักษาขอบตาดำเพราะภูมิแพ้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
เพื่อป้องกันใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้และช่วยไม่ให้โรคภูมิแพ้กำเริบ แนะนำให้หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น สวมหน้ากากอนามัยในที่ที่มีฝุ่นควันและฝุ่นละออง, ทำความสะอาดบ้านเพื่อป้องกันไรฝุ่นเป็นประจำ, ใช้เครื่องกรองอากาศภายในบ้าน เป็นต้น
งดสัมผัสบริเวณรอบดวงตา
เมื่อเกิดอาการคันระคายเคืองบริเวณผิวรอบดวงตา ไม่ควรเกาและขยี้ตาแรง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
พักผ่อนให้เพียงพอ
แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงการอดนอน นอนน้อย เพื่อให้ร่างกายมีการฟื้นฟู ซ่อมแซม รวมถึงช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ไม่ก่อให้ใต้ตาดำจากโรคภูมิแพ้กำเริบ
ดื่มน้ำเปล่า
การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือประมาณ 8 – 10 แก้วต่อวัน จะช่วยให้ผิวพรรณสดใส มีความชุ่มชื่น ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดปัญหาใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้
หลีกเลี่ยงแสงแดด
การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดเป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันใต้ตาคล้ำ แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรทาครีมครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากเกินไป
ทาครีมบำรุงใต้ตา
นอกจากการหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นให้เกิดภาวะใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ การบำรุงผิวรอบดวงตายังเป็นการป้องกันและลดปัญหาขอบตาดำได้ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวบอบบางรอบดวงตาโดยเฉพาะ
ประคบเย็น
หากมีอาการภูมิแพ้กำเริบที่ทำให้ระคายเคืองจนบวมและมีปัญหาใต้ตาคล้ำ แนะนำให้ใช้วิธีประคบเย็นอย่างเบามือเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว และลดปัญหาใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้
เลเซอร์ใต้ตา
การทำเลเซอร์สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาดำจากภูมิแพ้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผิวใต้ตากลับมาเต่งตึงยกกระชับ ลดเลือนปัญหาริ้วรอยใต้ตา และทำให้ใต้ตากระจ่างใสยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มผิวใต้ตาให้เรียบเนียน และยังสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุมและจากทุกสาเหตุ รวมถึงฉีดใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ช่วยปกปิดความหมองคล้ำใต้ตา หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นผลได้เลย เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3 – 5 วัน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี จึงช่วยลดโอกาสที่โรคภูมิแพ้กำเริบ และยังช่วยลดปัญหาใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ได้อีกด้วย
ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้เป็นอันตรายไหม
ภาวะของใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้ส่งผลต่อความสวยงามจนทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะคนเป็นภูมิแพ้ทำให้ขอบตาดำคล้ำมาก ๆ ทำให้ใบหน้าดูโทรมและแก่ก่อนวัย ซึ่งหากเป็นโรคภูมิแพ้ในระดับไม่มากหรือรักษาแล้วกลับมาเป็นปกติก็ไม่อันตราย แต่หากมีภาวะอื่น ๆ แทรกซ้อนตามมา เช่น ไซนัสอักเสบ, ภาวะหูน้ำหนวก, อาการปวดข้อ ก็อาจเกิดอันตรายตามมาได้เช่นกัน ดังนั้น ควรป้องกันและรักษาโรคภูมิแพ้ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าว
แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ที่ Doctor Mek Clinic ดีอย่างไร
ถึงแม้ว่าปัญหาใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้จะทำให้หลายคนเป็นกังวล แต่หากเรารู้สาเหตุของการเกิดขอบตาดำเพราะภูมิแพ้แล้วก็จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว
สำหรับใครที่เคยลองมาหมดทุกวิธีแล้วแต่ปัญหาใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้ยังคงอยู่ แนะนำให้เข้ามาพูดคุยปรึกษาแพทย์ที่ Doctor Mek Clinic โดยมาพร้อมการตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุใต้ตาดำจากต้นตอ และการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงตรงกับความต้องการของคนไข้ ผสานกับเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ที่โดดเด่น “Triple Layer Lift” ตอบโจทย์ทุกปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด และมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ทันสมัยอีกมากมาย ช่วยเคลียร์ปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม
References
Atopy. (2024, March 10). Clevelandclinic.https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/atopy
Kui Young Park, Hyun Jung Kwon, Choon Shik Youn, Seong Jun Seo, Myeong Nam Kim. (2018, August).Treatments of Infra-Orbital Dark Circles by Various Etiologies. ncbi.https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC7992473/