เชื่อว่าหลายคนที่กำลังตัดสินใจฉีดใต้ตาคงยังลังเลว่า “ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีสุด” เพราะในปัจจุบัน มีสารเติมเต็มหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ และแต่ละยี่ห้อก็ยังแบ่งออกเป็นรุ่นให้เลือกอีกมากมาย โดยมีจุดเด่นที่แตกต่าง ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันทุกซอกทุกมุมของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับหัตถการนี้ว่าฉีดแล้วช่วยเรื่องอะไร ต้องใช้ปริมาณกี่ CC ราคาเท่าไหร่ ฉีดแล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้างที่ควรรู้ การเช็กฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานเพื่อหลีกเลี่ยงของปลอมต้องดูอย่างไร สรุปแล้วเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตัวไหนดี และการเลือกคลินิกที่มีคุณภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ไม่เสี่ยงอันตราย
สารบัญบทความ
- แนะนำฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี รุ่นไหนฉีดแล้วเนียนสวย
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ cc
- ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอม
- วิธีการสังเกตฟิลเลอร์ใต้ตาแท้-ปลอม
- เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี มีเกณฑ์อะไรบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Doctor Mek Clinic ราคาเท่าไหร่
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ต้องดูจากอะไรบ้าง
- สรุป ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ที่ Doctor Mek Clinic มีคำตอบ!
แนะนำฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี รุ่นไหนฉีดแล้วเนียนสวย
“เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีสุด” ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาและแนะนำจากลักษณะปัญหาใต้ตาและสภาพผิวของคนไข้ที่แตกต่างกัน ซึ่งหากเป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ต้องใช้เทคนิคการฉีดในชั้นตื้นจะต้องเลือกใช้สารเติมเต็มชนิดที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อละเอียด ฉีดแล้วเกลี่ยง่ายเรียบเนียนไปกับผิว ฉีดแล้วต้องไม่ฟูมาก เพราะผิวใต้ตาจะบางกว่าส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า หากเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่ค่อนข้างฟูจะทำให้ใต้ตาบวมและเป็นก้อน หากในกรณีที่ต้องใช้เทคนิคการฉีดเติมเต็มในส่วนที่กระดูกทรุดตัวจะต้องเลือกใช้สารเติมเต็มที่มีโมเลกุลหรือเนื้อที่ค่อนข้างมีความคงตัวและแน่น
สำหรับในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มใบหน้าหรือฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อทั้งจากฝั่งอเมริกา, ยุโรป และเกาหลี โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อนั้นต่างก็มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่าง รวมถึงมีรุ่นให้เลือกใช้ตามลักษณะปัญหาใต้ตา หากอยากรู้ว่าฟิลเลอร์ใต้ตาตัวไหนดี เดี๋ยวเราไปดูยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรากันว่ามีรุ่นไหนบ้างที่ฉีดออกมาแล้วใต้ตาแลดูสวยเนียนเป็นธรรมชาติ
1. ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane
มาประเดิมกันที่ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane ตัวฮิตจากสวีเดน ซึ่งมีความโดดเด่นที่สารเติมเต็มมีความยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่สวยดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าจะถามว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ส่วนมากแพทย์ก็มักจะแนะนำยี่ห้อนี้เป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ โดยมีรุ่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อการนำมาใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่หลากหลายรุ่น ดังนี้
- Restylane Classic มีการยึดเกาะกับผิวและกระจายตัวได้ดี เหมาะกับการเติมริ้วรอยตื้น ๆ ใต้ตา หลังฉีดอยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน*
- Restylane Lyft เนื้อเจลมีความคงตัวสูง มีแรงยกกระชับดี ฉีดแล้วไม่ฟู จึงนิยมนำมาใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลังฉีดอยู่ได้นาน 12 เดือน*
- Restylane Vital / Vital Light ด้วยเนื้อเจลที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ฉีดแล้วเกลี่ยง่าย เหมาะกับการแก้ไขร่องน้ำตา ปรับผิวให้อิ่มน้ำ และยังช่วยแก้ไขปัญหาขอบตาดำได้อีกด้วย หลังฉีดอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน*
- Restylane Defyne เนื้อเจลนิ่มระดับปานกลาง นำมาฉีดใต้ตาที่มีปัญหาจากการยุบตัวของกระดูกและเติมเต็มริ้วรอยใต้ตาซึ่งเป็นบริเวณที่มีการขยับบ่อย หลังฉีดอยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน*
2. ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm
ยี่ห้อต่อมา คือ ฟิลเลอร์ Juvederm ยี่ห้อดังจากอเมริกาที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี มาพร้อมคุณสมบัติเด่น คือ ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน สลายตัวได้ช้า ฉีดแล้วเกลี่ยง่ายเรียบเนียน ใครยังเล็ง ๆ อยู่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตัวไหนดี ยี่ห้อนี้เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยรุ่นที่นิยมนำมาใช้กับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่
- Juvederm Volite มีจุดเด่นตรงที่โมเลกุลละเอียด ช่วยจัดการริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ใต้ตา หลังฉีดอยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน*
- Juvederm Voluma มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อเคลียร์ปัญหาใต้ตาที่เกิดจากกระดูกยุบตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก หลังฉีดอยู่ได้นาน 18 เดือน*
- Juvederm Volift ลักษณะเนื้อเจลนิ่มปานกลาง มีโมเลกุลเล็กละเอียด เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยใต้ตา หลังฉีดอยู่ได้นาน 12 เดือน*
- Juvederm Volbella เหมาะกับนำมาฉีดบริเวณที่ไม่เน้นความอิ่มฟู ให้ผลลัพธ์ที่เนียนสวยแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน เน้นเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาชั้นลึก หลังฉีดอยู่ได้นาน 12 – 15 เดือน*
3. ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero
อยากแก้ไขปัญหาใต้ตาแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี แนะนำ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์อีกหนึ่งยี่ห้อสารเติมเต็มที่หลายคนติดใจ มาพร้อมคุณสมบัติที่ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนกลืนไปกับผิว และรุ่นที่นิยมนำมาแก้ไขปัญหาใต้ตา ได้แก่
- Belotero Soft เนื้อเจลละเอียด เหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ตื้น ๆ หลังฉีดอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน*
- Belotero Revive เนื้อเนียนละเอียด เหมาะกับงานผิวที่เน้นความชุ่มชื่นและเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ หลังฉีดอยู่ได้นาน 18 เดือน*
- Belotero Volume เป็นรุ่นที่มีความยืดหยุ่นสูง จึงเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาที่เกิดจากกระดูกยุบตัว หลังฉีดอยู่ได้นาน 18 เดือน*
4. ฟิลเลอร์ใต้ตา Yvoire
มาในฝั่งของเกาหลีกันบ้าง สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา Yvoire หรือ อีโวร์ มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานต่อเนื่อง จนได้สารเติมเต็มที่มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วเรียบเนียนไม่เป็นก้อน เรียกได้ว่ามีคุณภาพสูงเทียบเท่ากับฟิลเลอร์ฝั่งอเมริกาและยุโรป แต่มาในราคาน่ารักสบายกระเป๋า โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ
- YVOIRE Classic Plus มีโมเลกุลที่เล็กละเอียดที่สุดในบรรดา 3 รุ่นของยี่ห้อ Yvoire และยังช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะกับการนำมาฉีดผิวชั้นบน ช่วยเติมเต็มรอยตีนกา เก็บริ้วรอยเล็ก ๆ ตื้น ๆ ที่ใต้ตา หลังฉีดอยู่ได้นาน 6 – 9 เดือน*
5. ฟิลเลอร์ใต้ตา Neuramis
สำหรับใครที่ยังลังเลไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ถ้ายังไม่มั่นใจอยากให้ลองเปิดใจให้กับฟิลเลอร์ Neuramis จากเกาหลีที่มาในราคาที่เบากว่าฝั่งอเมริกาและยุโรป ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีความบริสุทธิ์ เติมเต็มร่องลึกให้ดูเรียบเนียนอิ่มเอิบขึ้น ส่วนรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ
- Neuramis Deep Lidocaine มาพร้อมกับยาชาในตัว เป็นรุ่นที่มีความหนืดในระดับกลาง เติมเต็มร่องลึกได้ดี เหมาะกับการแก้ไขใต้ตาลึก หลังฉีดอยู่ได้นาน 9 – 12 เดือน*
6. ฟิลเลอร์ใต้ตา Ultra V Hyal Filler
ใครที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อจากฝั่งเกาหลี Ultra V Hyal Filler เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่แนะนำ ซึ่งเป็นยี่ห้อแรกที่มีนวัตกรรมรวม 2 อนุภาคของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยคุณสมบัติเด่นที่มีการยึดเกาะกับผิวได้ดีและคงรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉีดแล้วเกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และรุ่นที่เหมาะกับการนำมาช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาต่าง ๆ คือ
- Ultra V Hyal Filler Fine เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลบางเบา เหมาะกับการฉีดในชั้นผิวหนังแท้ส่วนกลาง เพื่อเติมเต็มริ้วรอยตื้น ๆ ช่วยเติมใต้ตาให้ดูอ่อนวัย หลังฉีดอยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน*
7. ฟิลเลอร์ใต้ตา Teoxane
อีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเพราะให้ผลลัพธ์ที่สวยดูเป็นธรรมชาติ สำหรับ Teoxane จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในรุ่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและรอบดวงตาโดยเฉพาะ นั่นก็คือ
- Teoxane REDENSITY 2 มีความยืดหยุ่นและคงรูปได้ดีเมื่อต้องมีการขยับหรือเคลื่อนไหวบนใบหน้า เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ร่องน้ำตา แก้ไขขอบตาดำ ใต้ตาหมองคล้ำ และช่วยเติมริ้วรอยให้ตื้นขึ้น หลังฉีดอยู่ได้นาน 12 เดือน*
8. ฟิลเลอร์ใต้ตา Revolax
Revolax ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อพรีเมียมที่ขึ้นแท่นเป็นขวัญใจคนในอังกฤษ ด้วยความโดดเด่นจากสารเติมเต็มที่มีความบริสุทธิ์สูง มีความยืดหยุ่น และยึดเกาะติดกับผิวได้เป็นอย่างดี ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี สำหรับแบรนด์ Revolax ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาใต้ตาได้ดีมาก ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการแก้ไขปัญหาใต้ตา คือ
- Revolax Fine with Lidocaine ด้วยเนื้อเจลโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อบางเบา เหมาะกับการเติมเต็มผิวในชั้นตื้น แก้ไขริ้วรอยเล็ก ๆ รอยตีนกา หลังฉีดอยู่ได้นาน 12 -18 เดือน*
9. ฟิลเลอร์ใต้ตา Mesofiller
Mesofiller ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มาจากสเปน มาพร้อมจุดเด่นของสารเติมเต็มที่ใช้ในปริมาณที่น้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ให้ผลลัพธ์ที่อิ่มฟู มีค่าความบริสุทธิ์สูง นอกจากนี้ ด้วยโมเลกุลขนาดเล็กยังช่วยให้ฉีดแล้วรู้สึกเจ็บน้อยกว่า ฉีดง่าย การกระจายตัวยาสม่ำเสมอ และช่วยลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ ใครที่กำลังตามหาว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีสุด ถ้าได้ลองแบรนด์นี้แล้วก็อาจจะหลงรักเลยก็ว่าได้ โดยในส่วนของรุ่นที่นำมาใช้ฉีดใต้ตา คือ
- Mesofiller Global เนื้อเนียน เมื่อฉีดแล้วเกลี่ยและเบลนเข้ากับผิวได้ง่าย เหมาะกับการฉีดในชั้นผิวตื้น แก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ปรับผิวใต้ตาให้เรียบเนียน หลังฉีดอยู่ได้นาน 9 -12 เดือน*
หมายเหตุ : *ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยจัดการปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม โดยที่ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตา ดังนี้
- แก้ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ขอบตาดำ ปรับสีผิวใต้ตาให้กระจ่างใสขึ้น
- แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล มีร่องลึกใต้ตา (ร่องน้ำตา) ที่เกิดจากกระดูกเบ้าตาทรุดตัว
- แก้ปัญหาถุงใต้ตา หลังฉีดแล้วจะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ใต้ตาดูสดใส ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัย
- แก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ รอยพับใต้ตา ช่วยให้ใต้ตาเรียบเนียนเต่งตึง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ cc
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ปริมาณสารเติมเต็มประมาณ 1 – 2 cc ต่อข้าง ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาการใช้สารเติมเต็มในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาใต้ตาที่แตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละราย เช่น ในคนไข้ที่มีกระดูกใต้ตายุบตัวที่ค่อนข้างมากส่งผลให้ใต้ตาลึก ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาเลือกใช้ปริมาณสารเติมเต็ม 2 -3 cc ต่อข้าง
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอม
นอกจากการศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับหัตถการรวมถึงข้อมูลการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีแล้ว สิ่งสำคัญที่หลายคนสงสัยและต้องการหาคำตอบคือ ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่เสี่ยงต่ออันตรายจะต้องใช้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ซึ่งฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มใบหน้าที่มีมาตรฐานจะเป็นสารประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่มีคุณสมบัติสลายได้เองตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ และผสานกับเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเนียน ไม่เป็นอันตราย
แต่หากพลาดไปฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาของปลอม หรือสารแปลกปลอมมักจะเป็นสารจำพวกซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือสารอื่น ๆ ที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ (ฟิลเลอร์ถาวร Permanent Filler) และต้องทำการผ่าตัดขูดสารออกเท่านั้น นอกจากนี้ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วระยะหนึ่งจะส่งผลร้ายแรงได้ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนแข็ง ใต้ตาผิดรูปไหลย้อย ในบางรายอาจเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ตามมาได้ ซึ่งจะมีอาการผิวบวมแดงอักเสบ มีเนื้อตาย มีพังผืด หรือถึงขึ้นเกิดการอุดตันในเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงดวงตา ส่งผลให้เกิดอันตรายถึงขั้นตาบอดได้
วิธีการสังเกตฟิลเลอร์ใต้ตาแท้-ปลอม
เมื่อเลือกหรือตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี เรื่องต่อมาที่ควรให้ความสำคัญคือ การสังเกตหรือเช็กฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าเป็นสารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่ของปลอม โดยมีวิธีการสังเกตง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
เลข Lot ของฟิลเลอร์
สิ่งแรกที่ควรสังเกต คือ เลข Lot. การผลิตและมีวัน / เดือน / ปีที่ผลิตและหมดอายุแสดงอย่างชัดเจน โดยจะต้องเป็นตัวเลขที่ตรงกันทั้งที่บริเวณกล่องผลิตภัณฑ์และที่หลอดฟิลเลอร์ รวมถึงต้องมีการระบุบริษัทที่ผลิตฟิลเลอร์อย่างชัดเจน
ข้อมูลของฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจะต้องมีฉลากกำกับยาเป็นภาษาไทยรวมถึงเลขทะเบียนจากอย. แสดงอยู่บนกล่องผลิตภัณฑ์ ซึ่งภายในกล่องจะมีเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสารเติมเต็มพร้อมเลขทะเบียนอย.
องค์กรรับรองความปลอดภัย
ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจะต้องมีการรับรองด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยโดยตรงจากแหล่งการผลิตนั้น ๆ เช่น สารเติมเต็มจากอเมริกาจะต้องได้รับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือสารเติมเต็มที่มาจากสวิตเซอร์แลนด์ก็จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป และสิ่งสำคัญ คือ ต้องผ่านอย. ไทยด้วย
ราคาฟิลเลอร์ที่สมเหตุสมผล
ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งใด รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะต้องมีราคาไม่ถูกจนเกินไป อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หากพบว่ามีราคาที่ถูกมาก ๆ ก็อาจเสี่ยงที่จะเจอกับฟิลเลอร์ปลอม
แหล่งจำหน่ายฟิลเลอร์
ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มและการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีให้บริการในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการซื้อผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มโดยตรงจากบริษัทผู้ผลิต นอกจากนี้ ต้องให้การรักษาโดยแพทย์ ไม่ควรที่จะซื้อสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์จากแหล่งอื่น ๆ มาใช้เอง เช่น ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ โดยอาจเสี่ยงที่จะเจอยาหิ้ว ยาปลอม
เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี มีเกณฑ์อะไรบ้าง
สำหรับใครที่ยังลังเลหรือเลือกไม่ได้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีสุด แนะนำให้พูดคุยและปรึกษาแพทย์ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วอาจจะเช็กลิสต์คร่าว ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ ดังนี้
- ปัญหาใต้ตาที่ต้องการแก้ไข ก่อนอื่นจะต้องสำรวจปัญหาใต้ตาของตัวเราเองว่ามีปัญหาเรื่องใดบ้าง เพื่อการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ซึ่งเป็นปัจจัยในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตัวไหนดีหรือรุ่นไหนดี เพราะสารเติมเต็มของแต่ละยี่ห้อจะมีรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการแก้ปัญหาใต้ตาที่แตกต่างกัน
- งบประมาณที่ตั้งไว้ เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นนั้นมีเรตราคาที่แตกต่างกันออกไป แนะนำให้พิจารณาเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีจากงบประมาณที่เรามีไว้ในใจ ทั้งนี้ ควรเลือกฟิลเลอร์ชนิดที่สามารถจัดการปัญหาใต้ตาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
- ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นต่างก็มีคุณสมบัติที่อาจแตกต่างกัน เช่น เน้นเรื่องเพิ่มอิ่มฟู, เติมเต็มริ้วรอย, แก้ไขร่องลึกใต้ตา, หรือปรับผิวใต้ตาให้กระจ่างใส นอกจากนี้ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นยังมีข้อแตกต่างในเรื่องของระยะเวลาของผลลัพธ์อีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Doctor Mek Clinic ราคาเท่าไหร่
ที่ Doctor Mek Clinic เรามีบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเพียง 13,900 บาท* ทั้งนี้ราคาอาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีซึ่งพิจารณาจากความเหมาะสมกับปัญหาใต้ตาและความต้องการของคนไข้ รวมถึงปริมาณของฟิลเลอร์ที่แพทย์พิจารณาเลือกใช้ นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่จัดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา โดยแนะนำให้คนไข้เข้ามาพูดคุย ปรึกษา และรับการประเมินปัญหาใต้ตากับแพทย์ด้วยตัวเองเพื่อรับทราบข้อมูลเรื่องราคาอย่างละเอียด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ต้องดูจากอะไรบ้าง
สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีสุดแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด นั่นก็คือ การเลือกเข้ารับบริการฟิลเลอร์ใต้ตากับใครและฉีดที่ไหน ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ออกมาดี แก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด และต้องไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมา โดยแนะนำให้พิจารณาเลือกจากปัจจัย ดังนี้
- เลือกใช้บริการฟิลเลอร์ใต้ตาซึ่งให้การรักษาโดยแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์
- เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข
- เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่สะอาด มีความน่าเชื่อถือ และมีรีวิวจากคนไข้จริงให้เลือกดู
- เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถตรวจสอบได้ทุกกล่อง
สรุป ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ที่ Doctor Mek Clinic มีคำตอบ!
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีสุดนั้นจะต้องเลือกจากปัญหาใต้ตาที่มี, งบในกระเป๋าที่มีอยู่ในใจ, ผลลัพธ์ของการรักษา รวมถึงระยะเวลาของผลลัพธ์ หรือใครที่ยังไม่แน่ใจว่าเราเหมาะกับฟิลเลอร์ใต้ตาตัวไหนดี แนะนำให้เข้ามาพูดคุย สอบถามรายละเอียด และรับการตรวจประเมินสภาพผิวใต้ตากับแพทย์ เพื่อให้แพทย์เป็นผู้แนะนำเลือกชนิดฟิลเลอร์และยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาใต้ตารวมถึงตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุด
นอกจากนี้ เรายังมีผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ทั้งจากฝั่งอเมริกา ยุโรป และเกาหลี ผสานกับเทคนิคการฉีดแบบ Triple Layer Lift ที่นำมาประยุกต์ใช้ให้ตรงกับปัญหาใต้ตาที่แตกต่างกัน เพื่อผลลัพธ์ที่สวยแลดูเป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วไม่โป๊ะ มาพร้อมโปรโมชั่นราคาดี โดยสามารถนัดคิวแพทย์ / สอบถามรายละเอียด / ปรึกษาแพทย์ได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)
References
Mortada, H. Al Saud, N. Alaithan, B. & Alhumsi, T. (2022, November 28). Complications following Permanent Filler Injection: A Prospective Cohort Study and Protocol of Management. ncbi. https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9699653/
Restylane®. (n.d.). Restylane. https://www.restylaneusa.com/