ไม่ใช่เฉพาะในคนสูงวัยเท่านั้นที่มีปัญหาถุงใต้ตาบวม แต่ยังพบได้ในคนที่อายุยังน้อยได้อีกด้วย ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจเพราะทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ดูโทรมเหมือนคนป่วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมปัญหาริ้วรอย ร่องลึก รวมถึงใต้ตาหย่อนคล้อย ในบทความของ Doctor Mek Clinic วันนี้จะขอพาทุกคนไปเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหานี้กันแบบเจาะลึกว่าเกิดจากอะไร ถุงใต้ตามีกี่ประเภท รวมถึงการรับมือแก้ไขทั้งวิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติรวมถึงวิธีรักษาถุงใต้ตาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลได้จริง
สารบัญบทความ
- ทำความรู้จัก “ถุงใต้ตา คืออะไร”
- ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร
- ถุงใต้ตาแท้หรือเทียม เช็กก่อนรักษา!
- 7 วิธีรักษาถุงใต้ตา เคลียร์ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย
- การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดถุงใต้ตา
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถุงใต้ตา
- สรุป ลดถุงใต้ตา
ทำความรู้จัก “ถุงใต้ตา คืออะไร”
ถุงใต้ตา (Lower Eyelid Bags) คือ ลักษณะของถุงไขมันใต้ตาหรือขอบตาด้านล่างที่ป่องนูนออกมา จนทำให้เห็นผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อย ยิ่งอายุมากขึ้นจะส่งผลให้กล้ามเนื้อเปลือกตาที่เคยแข็งแรงและทำหน้าที่กั้นหรือพยุงไขมันใต้ตาไว้ก็อ่อนแรงลง รวมถึงผิวหนังขาดความยืดหยุ่น ทำให้เห็นถุงใต้ตาบวมและมีความหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูสูงวัย ขาดความสดใส ใบหน้าดูเหมือนอ่อนเพลียตลอดเวลา
ถุงใต้ตาบอกโรคอะไรบ้าง? สำหรับในบางรายที่มีถุงใต้ตาบวมอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกของโรคหัวใจ, ถุงใต้ตาบวมเพราะโรคไต, ถุงใต้ตาบวมเพราะภูมิแพ้ นอกจากนี้ ยังเป็นสัญญาเตือนของภาวะร่างกายอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ โดยปัญหาใต้ตาที่มักจะมาร่วมกันคือ ใต้ตาดำคล้ำและตาโหล นอกจากนี้คนที่มีถุงใต้ตายังพบได้ในวัยรุ่นและจะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นเมื่ออายุเยอะขึ้น
ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร
ในบางรายอาจพบว่าใต้ตาบวม ใต้ตาหย่อนคล้อย ซึ่งสาเหตุของถุงใต้ตาเกิดจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ดังนี้
- ถุงใต้ตาบวมจากภูมิแพ้ จากของเหลวคั่งที่บริเวณถุงไขมันใต้ตา และจากการขยี้ตาจากการระคายเคืองในช่วงโรคภูมิแพ้กำเริบ ทำให้เห็นใต้ตาบวม
- ใช้สายตามากเกินไป โดยเฉพาะในคนที่ต้องทำงานที่ใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่งผลให้ดวงตามีความเหนื่อยล้า ทำให้ใต้ตาดำคล้ำและมีถุงใต้ตา
- อายุที่เพิ่มขึ้น จากการสะสมของไขมันใต้ตาที่มากขึ้น รวมถึงคุณภาพผิวที่เสื่อมโทรมลง ทำให้มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ถุงใต้ตาบวมปูดจนเห็นได้ชัด
- กรรมพันธุ์ ที่มีภาวะความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ทำให้ของเหลวคั่งที่ใต้ตา มีไขมันใต้ตามาก ทำให้ใต้ตาบวมป่อง
- ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เช่น การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง และดื่มน้ำน้อย เป็นต้น
ถุงใต้ตาแท้หรือเทียม เช็กก่อนรักษา!
หลายคนยังไม่ทราบว่าถุงใต้ตาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ถุงใต้ตาแท้และเทียม โดยก่อนที่จะรักษาถุงใต้ตาเราควรที่จะเรียนรู้และเช็กตัวเองก่อนว่า ปัญหาใต้ตาบวมที่เกิดขึ้นนั้นจัดอยู่ในประเภทใด ทั้งนี้ก็เพื่อการแก้ไขได้อย่างตรงจุด
- ถุงใต้ตาแท้ เกิดจากปัจจัยของอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวหนังใต้ตาเสื่อมสภาพและมีไขมันใต้ตาสะสมอยู่มาก ส่งผลให้มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อย รวมถึงกรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- ถุงใต้ตาเทียม เกิดจากพฤติกรรมใช้ชีวิตประจำวันและเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น อาทิ ร้องไห้เยอะทำให้ตาบวมปูด ชอบขยี้ตาบ่อย ๆ การใช้สายตาหนักเกินไป อดนอน นอนน้อย รวมถึงคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ผิวใต้ตาบวมน้ำและเกิดเป็นถุงใต้ตา นอกจากนี้ ในบางรายอาจพบว่าถุงใต้ตาบวมข้างเดียวเกิดจากการติดเชื้อที่เยื่อบุตา ทำให้ตาบวมแดง มีไข้
7 วิธีรักษาถุงใต้ตา เคลียร์ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย
ในกรณีที่มีถุงใต้ตาเทียมจะสามารถใช้วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติได้เท่านั้น ส่วนถุงใต้ตาแท้นั้นจะต้องใช้วิธีแก้ไขถุงใต้ตาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่มีหลากหลายวิธี ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องและตรงจุด
1. ลดถุงใต้ตาด้วยการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์
ลดถุงใต้ตาด้วยตัวเองง่าย ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ใต้ตาบวม เช่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้โรคภูมิแพ้กำเริบ ดื่มน้ำเยอะ ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้การไหลเวียนเลือดทำงานได้เป็นปกติ หากต้องทำงานที่ต้องใช้สายตาเป็นเวลานาน ควรหยุดพักเป็นระยะ ๆ รวมถึงลด-ละ-เลิกการดื่มแอลกอฮอล์
2. ลดถุงใต้ตาด้วยการประคบเย็น
ด้วยการใช้ถุงเจลเย็นหรือการใช้น้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนู จากนั้นนำมาประคบบริเวณรอบดวงตาประมาณ 10 – 15 นาที เป็นอีกหนึ่งวิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติที่ให้ผลดี โดยเฉพาะใต้ตาบวมที่เกิดจากการร้องไห้เยอะ จากการดื่มแอลกอฮอล์ จากการพักผ่อนน้อย หลังทำแล้วจะช่วยลดอาการบวมได้ดีและยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สำลีแล้วชุบกับน้ำอุ่นที่ผสมเกลือแล้วนำมาประคบที่บริเวณถุงใต้ตา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี
3. ลดถุงใต้ตาด้วยทาครีมบำรุง
การใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิวใต้ตาหรืออายครีม รวมถึงการใช้มาส์กใต้ตา เป็นการแก้ถุงใต้ตาเทียมได้และเมื่อใช้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ใต้ตากลับมาสดใส แต่ทั้งนี้อาจเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลาและเหมาะกับปัญหาถุงใต้ตาบวมระดับที่ไม่รุนแรง โดยแนะนำให้ดูแลตัวเองด้วยวิธีนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกันจึงจะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4. รักษาถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เจ็บน้อย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทำให้มีแผลเป็น ด้วยวิธีการใช้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) โดยการใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ในชั้นกระดูกใต้ตา หลังจากฉีดแล้วจะช่วยลดถุงใต้ตาพร้อมกับแก้ไขปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย รวมถึงร่องลึกและริ้วรอยใต้ตา นอกจากนี้ ในเคสที่มีใต้ตาดำคล้ำ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังช่วยเคลียร์ปัญหานี้ได้อีกด้วย หลังทำเห็นผลได้เลยไม่ต้องรอนาน นับว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่หลายคนเลือกใช้
แต่ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเทคนิคที่ต้องเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น และต้องเลือกใช้สารเติมเต็มที่มีคุณภาพ เพราะหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปลอม ยาหิ้ว ฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีทักษะหรือฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมาได้ อย่างเช่นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนที่ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร
5. รักษาถุงใต้ตาด้วยการผ่าตัด
ผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นวิธีแก้ไขถุงใต้ตาด้วยการตัดนำไขมันใต้ตาออกไปพร้อม ๆ กับการตัดผิวหนังส่วนเกินออก นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคการจัดเรียงไขมัน โดยเป็นการย้ายตำแหน่งไขมันใต้ตาให้มีความนูนลดลงและยังสามารถเติมเต็มในบริเวณที่ลึกให้ตื้นขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ได้ถาวร เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาเยอะ แต่ทั้งนี้ วิธีนี้ไม่สามารถแก้ไขใต้ตาดำคล้ำได้ รวมถึงต้องเลือกผ่าตัดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดในการผ่าตัดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมา เช่น การตัดนำผิวหนังส่วนเกินออกมากเกินไปอาจส่งผลให้มีปัญหาหลับตาได้ไม่สนิท เปลือกตาปลิ้น มีร่องลึกใต้ตา นอกจากนี้ หลังการผ่าตัดแล้วคนไข้จะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะไม่เช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อที่บริเวณแผลผ่าตัด
6. รักษาถุงใต้ตาด้วยการดูดไขมัน
วิธีการดูดไขมันเพื่อลดถุงใต้ตาเป็นการเปิดแผลขนาดเล็กด้านในเปลือกตา จากนั้นดูดไขมันเพื่อนำไขมันใต้ตาออก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวร ไม่ต้องตัดไหม แต่ทั้งนี้มีข้อควรระวังที่ควรศึกษาอย่างละเอียด คือ ไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำได้ และยังต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง ทำในคลินิกที่ปลอดเชื้อ ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือที่ทันสมัย เพราะหากพลาดไปทำกับแพทย์ที่ไม่มีทักษะและไม่มีประสบการณ์การรักษาอาจส่งผลให้มีปัญหาตามมาได้ เช่น ภาวะอักเสบติดเชื้อ หรือหากนำไขมันออกมามากเกินไปก็จะทำให้เกิดร่องลึกใต้ตา เปลือกตาและหนังตาปลิ้น
7. รักษาถุงใต้ตาด้วยการทำ Hifu
การใช้เลเซอร์ลดถุงใต้ตาด้วยเทคโนโลยี Hifu แบบที่ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่ต้องมีการพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เหมาะกับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาในระดับเล็กน้อยและในคนที่อายุไม่มาก ด้วยการปล่อยคลื่นเสียงและเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่จะช่วยให้ผิวมีการหดตัว ดูแลปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อยให้กลับมากระชับเรียบเนียน ช่วยลดไขมันใต้ตาได้บางส่วน ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวใต้ตามีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บางเคสอาจต้องเข้ามาทำซ้ำเรื่อย ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ แต่มีข้อควรระวัง คือ ต้องทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความรู้การทำเลเซอร์ เพราะเป็นบริเวณที่ต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเลือกใช้ค่าพลังงานและเทคนิคการยิงเลเซอร์ที่ถูกต้อง
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดถุงใต้ตา
ถ้าไม่อยากมีถุงใต้ตาบวม เราจะทำอย่างไรได้บ้าง? การดูแลผิวบริเวณรอบดวงตานับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดถุงใต้ตาและใต้ตาหย่อนคล้อย โดยสามารถทำได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เมื่ออายุยังน้อย ด้วยวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังต่อไปนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับที่มีคุณภาพและเพียงพอทำให้ร่างกายมีการฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ รวมถึงโครงสร้างผิวที่สุขภาพดี
- ทาอายครีม เพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื่น หลีกเลี่ยงผิวรอบดวงตาที่แห้งกร้าน อันเป็นสาเหตุของใต้ตาหย่อนคล้อย มีถุงใต้ตา ริ้วรอยร่องลึก
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามินรวมถึงสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อป้องกันผิวใต้ตาที่เสื่อมโทรมก่อนวัย นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิว
- หลีกเลี่ยงแสงแดด โดยการใส่แว่นตากันแดด เพื่อป้องกันผิวพรรณจากแสงยูวี
- หลีกเลี่ยงการใช้สายตาหนัก เมื่อต้องทำงานที่ต้องใช้สายตาเป็นระยะเวลานาน ควรมีการพักสายตา
- รักษาอาการภูมิแพ้ ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายแล้ว ยังช่วยป้องกันถุงใต้ตาบวมจากภูมิแพ้
- ดูแลและสังเกตผิวพรรณสม่ำเสมอ โดยหากพบความผิดปกติของผิวพรรณใต้ตา ถุงใต้ตาบวม ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถุงใต้ตา
แก้ปัญหาถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์ ด้วยการใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง รวมถึงมีการใช้สารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ ซึ่งสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติจะไม่ทำให้เกิดอันตราย หลังรักษาถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะทำให้ผิวเรียบเนียน ใต้ตาดูอิ่มเต็ม รอยคล้ำที่เคยมีแลดูกระจ่างใสขึ้น และเติมเต็มร่องลึกได้ตื้นขึ้น
ข้อควรระวังในการรักษาถุงใต้ตามีอะไรบ้าง
ก่อนตัดสินใจรักษาถุงใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นวิธีผ่าตัดถุงใต้ตา การดูดไขมันใต้ตา การใช้เลเซอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณานั่นคือ เลือกรักษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะหากขาดทักษะและเทคนิคการรักษาที่ถูกต้อง อาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การผ่าตัดผิวหนังใต้ตาและไขมันออกเยอะมากเกินไป อาจทำให้ใต้ตาลึกโบ๋ หรือในกรณีที่เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์อาจทำให้เป็นก้อน หรือการใช้สารเติมเต็มของปลอมก็อาจเสี่ยงอันตรายได้เช่นกัน
สรุป ลดถุงใต้ตา
การแก้ถุงใต้ตาสามารถทำได้หลากหลายวิธี ซึ่งมีทั้งวิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และการรักษาถุงใต้ตาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ ในรายที่มีถุงใต้ตาบวม ใต้ตาหย่อนคล้อย ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีธรรมชาติได้หรือเคยลองมาทุกวิธีแล้วไม่ได้ผล รวมถึงไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น
แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ของ Doctor Mek Clinic ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาลดถุงใต้ตา เคลียร์จบปัญหาใต้ตา ด้วยผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบได้ทุกกล่อง ผสานกับเทคนิคการฉีดแบบ Triple Layer Lift ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับปัญหาใต้ตาของคนไข้แต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด รวมถึงมีรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากคนไข้จริงที่เคยรับบริการให้เลือกดูแบบจุใจ ใครที่ไม่รู้จะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี สามารถแอดไลน์เข้ามาพูดคุย / นัดคิวแพทย์ / สอบถามรายละเอียด / รับการวิเคราะห์สภาพผิวกับแพทย์ฟรีได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)
References
Bags under eyes. (2024, January 26). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bags-under-eyes/symptoms-causes/syc-20369927
Boyd, K. (2023, July 11). How to Get Rid of Bags Under the Eyes. aao. https://www.aao.org/eye-health/tips-prevention/bags-under-eyes