ตาโหล เบ้าตาลึก เกิดจากอะไร ? บอกลาเบ้าตาโทรมด้วยวิธีไหนดี

ตาโหล คือหนึ่งในปัญหาที่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ส่งผลอะไรกับร่างกาย แต่กลับส่งผลต่อความมั่นใจรวมไปถึงบุคลิกภาพ เพราะใครที่มีลักษณะเบ้าตาลึกและมีถุงใต้ตามักจะทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูไม่สดใส อิดโรย เสมือนคนพักผ่อนน้อยอยู่ตลอดเวลา แต่ ! ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ เราจะพาไปไขข้อสงสัยถึงที่มาว่าร่องตาลึก หรือตาลึกโหลเกิดจากอะไร พร้อมวิธีบอกลาเบ้าตาลึกโทรมแบบจัดเต็ม

สารบัญบทความ

• ไขข้อสงสัย ! ตาโหล เบ้าตาลึก คืออะไร
• ลักษณะตาโหล เบ้าตาลึก เป็นแบบนี้ !
• ปัญหาตาโหล เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง
• วิธีแก้ตาโหล เบ้าตาลึกด้วยเทคนิคทางการแพทย์
• วิธีบอกลาตาโหล ร่องตาลึกด้วยตัวเรา
• ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกอันตรายไหม
• อยากแก้ไขปัญหาตาโหล ควรเลือกคลินิกยังไงดี
• ปัญหาตาโหลกับคำถามที่พบบ่อย
• แก้ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกที่ Doctor Mek Clinic ดียังไง

ตาโหล ตาโบ๋ หรือเบ้าตาลึก (Sunken Eyes) เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดร่องลึกบริเวณรอบดวงตา ซึ่งบางรายจะมีลักษณะเบ้าตาที่ดูลึกมากจนเห็นขอบกระดูกเบ้าตาหรือเห็นชั้นตาอย่างชัดเจนจนทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ปัญหานี้นอกจากจะทำให้เห็นร่องตาลึกแล้วยังทำให้ขอบตาดำ คล้ำ ไม่สดใสอีกด้วย

ลักษณะของตาโหล ตาโบ๋ หรือเบ้าตาลึก สามารถสังเกตได้จาก

• เบ้าตาลึกลงเป็นร่องจนเห็นขอบกระดูกรอบดวงตาอย่างชัดเจน
• มีชั้นตาซ้อนกันหลายชั้น หรือมีลักษณะตาปรือ
• บางรายมีลักษณะเบ้าตาลึกบริเวณหัวตา ทำให้ใบหน้าดูเศร้า อิดโรยตลอดเวลา
• ผิวบริเวณรอบดวงตามีความหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ
• บริเวณขอบตาหรือรอบดวงตามีความคล้ำ และมีริ้วรอยร่วมด้วย

สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด โครงสร้างกระดูกที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต

• กรรมพันธุ์ – ส่วนใหญ่คนที่มีลักษณะร่องตาลึกหรือใต้ตาโหลมักเกิดจากโครงสร้างกระดูกหรือมีไขมันใต้ตาน้อยที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด หลัก ๆ ก็มาจากกรรมพันธุ์จากคนในครอบครัว อาจเห็นได้บ่อยในกลุ่มคนที่มีเชื้อแขก หรือมีเชื้อทางฝั่งยุโรป เป็นต้น
• อายุ – พออายุมากขึ้นทำให้เกิดการยุบตัวลงของกระดูกไปพร้อม ๆ กับไขมันที่ฝ่อตัวลงทำให้บริเวณใต้ตามีความลึกลงไปเป็นร่อง จนเกิดเป็นปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก หรือเห็นขอบตาดำ สามารถสังเกตได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 30-40 ปี
• ภูมิแพ้ – อาการภูมิแพ้หรือโรคภูมิแพ้ ทำให้เส้นเลือดฝอยคั่งที่โพรงจมูกจนเกิดการปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ใต้ตาหมองคล้ำ
• การใช้ชีวิต – เช่น การพักผ่อนน้อย ความเครียด การขยี้ตา ตากแดด หรือสูบบุหรี่ ทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพ และไขมันฝ่อตัวลงเร็วกว่าปกติจนทำให้เป็นร่องใต้ตา นอกจากนี้ยังทำให้เกิดรอยคล้ำ ริ้วรอยได้อีกด้วย
• น้ำหนักตัวลดลง – หากน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการสูญเสียไขมันตามร่างกายไปจนถึงบริเวณใบหน้า จนเกิดปัญหาตาโหล
• กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง – ภาวะนี้ทำให้เปลือกตาไม่สามารถเปิดได้อย่างเต็มที่ ทำให้เบ้าตามีความลึกกว่าปกติ
• เคยผ่าตัดทำตาสองชั้น – คนที่เคยผ่าตัดทำตาสองชั้นมาก่อน ทำให้ไขมันที่เปลือกตาเหลือน้อยทำให้เกิดปัญหาตาโหลได้
• การขาดน้ำ – ตาโหลจากการขาดน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย เนื่องจากร่างกายมีการสูญเสียคอลลาเจน ทำให้เกิดผิวบางผิวแห้งจนทำให้เกิดปัญหาตาลึกโหล

วิธีแก้ไขปัญหาตาโหล สามารถทำได้หลายวิธี แต่เบื้องต้นต้องดูก่อนว่าสาเหตุของการเกิดปัญหาใต้ตาโหลมาจากอะไร เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินและใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันวิธีแก้ขอบตาลึก ตาโหลด้วยเทคนิคการแพทย์ก็มีให้เลือกใช้ในการรักษาหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การเติมไขมัน การผ่าตัด และการทำตาสองชั้น

1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ตาโหล

ฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีปัญหาร่องลึก จากไขมันหรือกระดูกที่ยุบตัวลงให้มีความอิ่มเอิบขึ้น ด้วยการใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ฉีดไปที่ใต้ตาเพื่อแก้ไขปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก ความหมองคล้ำใต้ตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์จะอยู่ได้ราว ๆ 6-24 เดือน (*ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้) หลังจากนั้นมันจะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ และนอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้อีกด้วย 

2. ฉีดเติมไขมันแก้ตาโหล

เป็นการใช้ไขมันส่วนเกินในร่างกายของเราเองนำไปปั่นคัดแยกเพื่อเอาเซลล์ไขมันดีมาฉีดบริเวณที่มีปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ซึ่งวิธีนี้ก็จะเหมาะสำหรับคนที่เคยมีอาการแพ้สารเติมเต็มอย่าง HA Filler หรือคนที่ต้องการใช้เซลล์ไขมันในร่างกายมาฉีดเพื่อความปลอดภัย แต่ข้อจำกัดคืออาจไม่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และไขมันสลายไม่เท่ากันจึงอาจทำให้ผิวไม่เรียบเนียนได้

3. ผ่าตัดแก้ปัญหาตาโหล

การผ่าตัดจะใช้ในกรณีที่มีปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกจากโรคประจำตัวอย่างกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งก่อนทำการรักษาจะต้องมีการปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านเพื่อวินิจฉัย และวางแผนการรักษาให้เหมาะสม โดยการผ่าตัดนี้แพทย์มักจะทำร่วมกันการย้ายไขมันเพื่อให้ผิวบริเวณรอบดวงตาดูเรียบเนียนขึ้น ข้อกำจัดของวิธีนี้คือต้องพักฟื้น และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากแผลหายดีแล้วในระยะเวลา 3-6 เดือน

4. ทำตาสองชั้นแก้ตาโหล 

วิธีสุดท้ายก็คือการทำศัลยกรรมตาสองชั้นเพื่อแก้ไขปัญหาตาโหล ถึงวิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีร่องตาไม่ลึกมาก เป็นการเย็บกล้ามเนื้อตาให้มีความกระชับ พร้อมตัดผิวหนังที่หย่อนคล้อยออก ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์เฉพาะทางเพื่อความปลอดภัย และเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการพักฟื้น

นอกจากเทคนิคทางการแพทย์ที่จะสามารถฟื้นฟูหรือแก้ไขปัญหาตาโหลให้ดีขึ้นได้แล้วก็ยังมีวิธีแก้เบ้าตาลึกที่เราสามารถจัดการฟื้นฟูให้ดีขึ้นได้เองในกรณีที่มีปัญหาจากการพักผ่อนน้อย ความเครียด หรือจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยวิธีการฟื้นฟูง่าย ๆ มีดังนี้

1. ป้องกันตาโหลด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนแม้จะไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาที่เห็นผลได้ในทันที แต่การพักผ่อนอย่างเต็มที่อย่างน้อย ๆ 7-8 ชั่วโมง หากทำเป็นประจำก็จะส่งผลดีขึ้นในระยะยาว ดวงตากลับมาสดชื่น และถ้าหากควบคู่ไปกับการบำรุงผิวด้วยก็จะยิ่งทำให้ใต้ตากลับมาดูสดใสมากยิ่งขึ้นด้วย

2. ดูแลใต้ตาด้วยการทาครีมบำรุงใต้ตา

เป็นวิธีเบสิคที่เราสามารถทำได้ เพราะปัจจุบันครีมบำรุงสำหรับบริเวณรอบดวงตามีให้เราเลือกซื้อเยอะแยะมากมาย แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว หรือเลือกที่มีส่วนผสมวิตามินซี เรตินอล อาร์บูติน แนะนำให้ทาทุกวันเป็นประจำ นอกจากนี้การมาส์กใต้ตาจากวัตถุดิบในครัวเรือนก็ช่วยแก้ไขปัญหาได้เหมือนกัน เช่น แตงกวา ถุงชา เป็นต้น 

3. ป้องกันตาโหลด้วยการหลีกเลี่ยงการขยี้ตา

เพราะการขยี้ตาทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพลงได้เร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิว รวมไปถึงความหมองคล้ำได้ง่าย หากเราหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณรอบดวงตาก็จะช่วยลดโอกาสไม่เกิดปัญหาตาโหลได้ค่ะ

4. จัดการกับความเครียดเพื่อแก้ปัญหาตาโหล 

ความเครียดทำให้ทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวแย่ลง อีกทั้งยังส่งผลให้ไขมันบริเวณใต้ตาลดลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนั้นหากไม่อยากให้ใต้ตาดูโหลลึกลงไปมากกว่านี้แนะนำให้จัดการความเครียดของตัวเองให้น้อยลง เช่น การหากิจกรรมสนุก ๆ เพื่อบรรเทาความเครียด

5. ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ ป้องกันไม่ให้เกิดตาลึกโหลจากการขาดน้ำ

การดื่มน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวมของเราให้ดีขึ้น แนะนำให้ดื่มวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการยุบตัวลงได้เร็ว

จริง ๆ แล้วปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายค่ะ แต่ในทางกลับกันมันอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ความมั่นใจ รวมไปถึงบุคลิกภาพภายนอก เนื่องจากลักษณะดวงตาเช่นนี้จะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย โทรม ไม่สดใส

หากต้องการแก้ไขปัญหาตาโหลด้วยเทคนิคทางการแพทย์ การเลือกคลินิกจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราสามารถเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือได้จากปัจจัยเหล่านี้

• คลินิกมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง สังเกตจากป้ายสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต และใบอนุญาตประกอบกิจการ
• แพทย์มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ด้านการรักษา มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง
• ภายในคลินิกต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์สะอาด ทันสมัย
• มีรีวิวที่มาจากผู้มาใช้บริการจริง
• มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน
• มีการติดตามผลหลังทำ พร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
• หากเป็นวิธีการฉีดฟิลเลอร์ จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมให้ตรวจสอบกล่องได้ทุกเคส

แก้ปัญหาตาโหลด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีไหม?

การแก้ไขใต้ตาโหลด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีและเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาที่สั้นกว่าหัตถการอื่น ๆ เพราะหลังฉีดเราสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกโดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีขั้นตอนการรักษาที่ยุ่งยาก ซับซ้อน อีกทั้งตัวสารเติมเต็มยังสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ 

หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่ถูกใจ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้หรือไม่?

หากได้รับสารเติมเต็มที่เป็น HA Filler ก็สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ค่ะ ซึ่งหลังจากที่ฉีดสลายไปแล้วบริเวณใต้ตาก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนตอนก่อนฉีด ทำให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีการแก้ไขการรักษาได้ง่ายกว่าวิธีอื่น

ปัญหาตาโหลหรือเบ้าตาลึกเป็นปัญหากวนใจที่ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายแต่อาจส่งผลต่อบุคลิกภาพจนทำให้สูญเสียความมั่นใจลงได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาตาโหลก็มีให้เลือกหลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เป็น แต่สำหรับใครที่มีปัญหาเบ้าตาลึกร่วมกับใต้ตาคล้ำ ที่ Doctor Mek Clinic มีให้บริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้โครงสร้างผิว พร้อมใช้เทคนิคการรักษาที่ออกแบบโดยคุณหมอเมฆ ร่วมกับการใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและให้ความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน สามารถเข้ามาขอคำปรึกษาหรือให้แพทย์ช่วยประเมินใบหน้าก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ 

อ้างอิง

Barhum, L. (2024, April 23). What to know about sunken eyes. Medical news today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/320134 

Cafasso, J. (2022, June 2). What Causes Sunken Eyes?. Healthline. https://www.healthline.com/health/sunken-eyes#outlook