นอกจากใบหน้ากระจ่างใส มีออร่าแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถช่วยเสริมบุคคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจให้เราได้มากขึ้น นั่นก็คือ รูปร่างที่ดูดี สมส่วน ไม่ว่าเราจะมีโครงสร้างแบบไหนก็สามารถดูดีได้ในแบบที่เป็นตัวเรา พร้อมที่จะสนุกกับการใช้ชีวิต แฟชั่น การแต่งตัวได้อย่างจัดเต็ม ฉะนั้นเราไปทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบกับรูปร่างของเรากันค่ะ
ไขมันส่วนเกินคืออะไร? มาจากไหน?
ไขมันนอกจากจะมีประโยชน์และความสำคัญกับร่างกายแล้ว หากเป็นไขมันสะสมที่มากเกินไปก็จะส่งผลเสียได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเรื่องของสุขภาพ ผิวพรรณ รูปร่าง โดยสามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ของไขมันส่วนเกินได้ดังนี้
- ไขมันที่สะสมใต้ผิวหนัง คือไขมันที่อยู่ระหว่างชั้นผิวหนังกับชั้นกล้ามเนื้อ โดยสามารถสังเกตได้จากขนาดที่ใหญ่ขึ้นของบริเวณนั้น ๆ เช่น หน้าท้อง ใบหน้า ต้นขา เป็นต้น
- ไขมันที่สะสมในช่องท้อง โดยจะมีการสะสมที่อวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น ลำไส้ ตับ หัวใจ เป็นต้น ซึ่งส่งผลกับสุขภาพได้มาก ไม่ว่าจะเป็นไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตับ โรคหัวใจ เป็นต้น
ที่มาของไขมันส่วนเกิน
ร่างกายของเราเมื่อมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา การเติมพลังงานกลับเข้าไปก็เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยวิธีการนั้นก็คือ การรับประทานอาหารนั่นแหล่ะค่ะ คือจุดเริ่มต้นของต้นตอไขมันสะสม เพราะปริมาณพลังงานที่เติมเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป ก็จะเกิดการเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามจุดต่าง ๆ เพื่อที่ร่างกายจะได้ดึงกลับมาใช้ในภายหลัง แต่เมื่อเกิดการสะสมมากเกินไปร่างกายจึงดึงออกมาใช้ไม่ทัน ก็จะกลายเป็นไขมันส่วนเกินที่เห็นได้ชัดก็คือ ห่วงยางรอบเอว หรือท้องแขนแกว่งเวลายกแขน เป็นต้น เพราะร่างกายของเราแต่ละคนนั้นมีความต้องการพลังงานที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคนและโครงสร้างร่างกายที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงการดูดซึมและเผาผลาญที่ไม่เท่ากันก็ส่งผลกับปัญหานี้ได้ด้วยค่ะ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง
- ปัจจัยจากอายุ อย่างที่ทราบกันดีว่าร่างกายของเราเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในระบบร่างกาย รวมไปถึงระบบการเผาผลาญก็จะน้อยลงเช่นกัน จึงเกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินได้ง่ายและมากขึ้น
- ปัจจัยจากกรรมพันธุ์ โดยหากคนในครอบครัว เช่น พ่อหรือแม่เป็นคนที่อ้วน ย่อมมีความเสี่ยงที่จะส่งต่อลักษณะนั้น ๆ ให้กับลูกมากขึ้นได้ด้วย
- ปัจจัยจากลักษณะทางกายภาพ เช่น ในผู้ชายมักพบว่ามีไขมันบริเวณช่องท้องมากกว่าผู้หญิง โดยผู้ชายที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจะพบลักษณะของการลงพุง ในส่วนของผู้หญิงนั้นจะเกิดการสะสมที่บริเวณต้นขาและบริเวณสะโพกมากกว่า
- ปัจจัยจากอาหาร ในการกินอาหารที่มีพลังงานหรือแคลลอรี่สูง ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น จึงส่งผลให้เกิดการสะสมและนำกลับมาใช้ไม่ทัน เกิดการไม่สมดุลระหว่างการกินและการใช้พลังงานของร่างกายขึ้น อาหารที่ควรระวังมีดังนี้ ของทอด, เนื้อสัตว์ติดมัน, ของหวาน รวมไปถึงแอลกอฮอลล์ เป็นต้น
- ปัจจัยจากยาที่รับประทานอยู่ ในตัวยาบางชนิดมีผลกับการขึ้น-ลงของน้ำหนัก จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันขึ้นได้
- ปัจจัยจากโรคภัย บางโรคที่มีผลกับระบบเผาผลาญร่างกาย จึงทำให้เกิดการอ้วนขึ้นอย่างฉับพลันและลดลงได้ยาก รวมไปถึงอาการเจ็บป่วยที่ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายได้ ร่างกายก็จะเกิดการใช้พลังงานที่ไม่สมดุลกับการสะสมพลังงาน
- ปัจจัยจากการกินอาหารไม่เป็นเวลา พฤติกรรมเช่นนี้หากทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดผลเสียในเรื่องของสุขภาพและน้ำหนักตัว ที่ทำให้นาฬิกาในตัวเราคลาดเคลื่อนไปจากปกติ สามารถกระทบไปถึงเรื่องของความหิว ระบบเลือดและระบบย่อยอาหารได้เลยนะคะ
- ปัจจัยจากพฤติกรรมเร่งรีบในการกิน ซึ่งปัจจุบันด้วยเวลาที่เร่งรีบ หน้าที่การงานรัดตัวทำให้เราแทบจะไม่ค่อยมีเวลาได้นั่งกินข้าวแบบที่เรียกว่า ลิ้มรสชาติ ต้องรีบกินรีบไปทำงานต่อ นี่แหล่ะค่ะเป็นอีกต้นเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงของการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว ลองสังเกตดูนะคะเวลาที่รีบกินเราจะกินอาหารได้เยอะ เพราะสมองไม่ทันที่จะรับรู้ว่าร่างกายอิ่มแล้ว มารู้ตัวอีกทีท้องก็แน่น อึดอัดไม่ไหว ทั้งยังเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดก็จะส่งผลกับระบบย่อยได้ด้วยเช่นกัน
- ปัจจัยจากการไม่ชอบทานผักและผลไม้ เพราะไฟเบอร์ที่อยู่ในผักผลไม้ทำให้เราอิ่มนานขึ้น จึงไม่กินมากเกินความจำเป็นและไม่กินจุกจิก รวมถึงช่วยกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่เกิดอาการท้องผูกขึ้นตามมา
- ปัจจัยจากพฤติกรรมชอบทานน้ำหวาน เครื่องดื่มประเภทน้ำชง น้ำหวานต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำตาล นมข้น รวมไปถึงครีมเทียม เป็นแหล่งของต้นตอของไขมันที่สามารถเข้าไปสะสมในร่างกาย ทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพเสียในระยะยาวด้วยค่ะ
หากปรับพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเรื่องของไขมันส่วนเกินที่สะสมตามร่างกายได้ ก็จะส่งผลให้ร่างกายดึงพลังงานออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ช่วยทำให้ไม่เกิดปัญหาน้ำหนักเกิน มีห่วงยางรอบเอว ท้องแขนย้อย จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้เราสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้นค่ะ แต่หากเกิดปัญหาไขมันส่วนเกินขึ้นมาแล้ว บอกเลยว่าน่าหนักใจค่ะ เพราะหลาย ๆ คนทำอย่างไรก็กำจัดไขมันออกไปได้ไม่หมด วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีที่กำลังเป็นเทรนด์ในการดูแลรูปร่างได้อย่างเห็นผล นั่นก็คือ Sculpsure เครื่องเลเซอร์สลายไขมันได้มากถึง 24% ภายใน 25 นาที ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) สามารถเจาะจงเข้าทำลายเซลล์ไขมันต้นกำเนิดได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำร้ายเซลล์โดยรอบ ไม่เกิดแผล ไม่มีรอยแดง ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนั้นยังทำได้หลายจุดพร้อมกัน ทั้งยังช่วยกระชับผิวให้เรียบเนียน แม้ไขมันสลายตัวไปแล้ว ผิวจึงไม่เหี่ยว ไม่หย่อนคล้อย ไม่เหมือนกับการจำกัดไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) ที่ทำได้แค่ทีละจุด ทั้งยังเกิดอาการบวมแดงขึ้นได้ เพราะต้องดูดไขมันเข้าไปที่แอพพลิเคเตอร์ และไม่ได้ช่วยกระชับผิวอีกด้วย หากต้องการปรึกษาปัญหาการดูแลรูปร่าง สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอเมฆและทีมแพทย์ที่ Doctor Mek Clinic ได้เลยนะคะ เพื่อความสนุกกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมั่นใจ