ทำความรู้จัก Mesofiller แบรนด์น้องใหม่ทรงประสิทธิภาพจากสเปน

Mesofiller

Mesofiller ที่มีคุณภาพดี นำเข้าจากประเทศสเปน ที่ทำให้การฟื้นฟูเติมเต็มจุดซ่อนเร้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเมโสฟิลเลอร์เป็นแบรนด์เดียวในขณะนี้ที่ผ่านอย.ไทย สำหรับการฉีดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลเติมเต็มทั้งผิวหน้าและน้องสาวให้กลับมาอ่อนเยาว์ได้ในเวลาเดียวกัน มาพร้อมกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้สารเติมเต็มมีความปลอดภัยสูง ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ Filler คุณภาพดี ที่อยากพามาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกันในบทความนี้ค่ะ

Mesofiller คืออะไร

Mesofiller คือ หนึ่งในยี่ห้อที่มีส่วนประกอบหลักอย่างกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA Filler เป็นส่วนประกอบหลักโดยมีกระบวนการผลิตภายใต้ Densimatrix Technology ที่เป็นลิขสิทธิ์พิเศษเฉพาะ ให้สารเติมเต็มที่ได้มาสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดได้อย่างสมบูรณ์แบบและครอบคลุมมากที่สุด ตั้งแต่ใบหน้าไปจนถึงจุดซ่อนเร้น ซึ่งเมโสฟิลเลอร์เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในตอนนี้ที่ผ่านอย.ไทย สำหรับฉีดจุดซ่อนเร้นได้อย่างเฉพาะเจาะจง สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย มีความปลอดภัยสูงและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

ฉีดช่วยอะไรบ้าง

Mesofiller เป็นยี่ห้อที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุมในหลาย ๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาบนใบหน้า หรือบริเวณจุดซ่อนเร้นที่ยากจะแก้ไข ก็สามารถทำได้และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งจากการวิจัยของผู้ที่เคยใช้จริงให้ความเห็นว่า เมโสฟิลเลอร์สามารถลดเลือนริ้วรอยได้จริง 100% มีความคงตัวสูงถึง 94% และเกิดความพึงพอใจในผลลัพธ์อีก 90% เลยค่ะ

บริเวณใบหน้า

  • ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกตามบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้าให้เรียบเนียน
  • ช่วยปรับรูปหน้าให้มีความสมดุลกัน
  • ช่วยยกกระชับ ปรับสันกรามให้มีกรอบหน้าที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเติมเต็มความสดใสให้กับรอบดวงตา
  • ช่วยแก้ไขรอยย่นหรือรอยพับบริเวณลำคอ ระหว่างคิ้ว และหน้าผาก
  • ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ได้รูปทรงที่สวยงาม มีความอวบอิ่มและชุ่มชื้น

บริเวณจุดซ่อนเร้น

  • ช่วยฟื้นฟูกระบวนการทำงานภายในช่องคลอด
  • ช่วยปรับรูปทรงของน้องสาวให้ดูอิ่มฟู สวยงามมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเติมเต็มความกระชับ เพิ่มความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นให้กับน้องสาว
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอีลาสตินบริเวณจุดซ่อนเร้น
  • ช่วยปรับสีน้องสาวให้ดูกระจ่างใส มีความเรียบเนียนและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยลดการเกิดปัสสาวะเล็ด
  • ช่วยแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลกันภายในช่องคลอด

Mesofiller เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูดีและสมส่วนกันมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่าง ๆ
  • ผู้ที่ต้องการเก็บกรอบหน้าให้ดูยกกระชับ และได้กรอบหน้าที่ชัดเจน
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ไม่สดใส
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน มีรอยย่นหรือรอยพับ
  • ผู้ที่มีปัญหาบริเวณจุดซ่อนเร้น ต้องการเติมเต็มหรือฟื้นฟูบริเวณน้องสาว

จุดเด่นของ Mesofiller ที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

จุดเด่นของ Mesofiller

มีกระบวนการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ

Densimatrix เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ทำให้ได้สารเติมเต็มมาในโครงสร้าง Cross-linked 100% ปราศจาก Free HA และด้วยกระบวนการผลิตดังกล่าว ทำให้เนื้อของสารเติมเต็มที่ได้มาค่อนข้างฟู ถึงแม้จะฉีดเติมเต็มในปริมาณที่น้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน

ให้ความปลอดภัยสูง

เพราะกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานของทางแบรนด์ ทำให้ได้สารเติมเต็มบริสุทธิ์ที่มีค่า BDDE เหลือน้อยกว่า 0.05 ppm. จากค่ามาตรฐานที่ FDA ได้กำหนดไว้อยู่ที่ 2 ppm. ซึ่งเมโสฟิลเลอร์เป็นแบรนด์ที่มีค่า BDDE ที่ต่ำที่สุด หากเทียบกับ Filler ยี่ห้ออื่นตามท้องตลาด

ให้การรักษาที่หลากหลายด้วย 3 ความเข้มข้นที่แตกต่างกัน

สารเติมเต็มถูกออกแบบมาใน 3 ระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกัน ได้แก่ เนื้อแข็ง เนื้อนิ่ม และเนื้อที่มีความนิ่มระดับกลาง เพื่อนำไปเติมเต็มและแก้ไขได้อย่างตอบโจทย์กับทุกบริเวณ หรือทุกการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า ปั้นทรง หรือแม้แต่การฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้น ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บรรเทาอาการเจ็บขณะฉีด

ด้วยโมเลกุลขนาดเล็กกว่า 400 ไมครอน มันจึงช่วยลดแรงดันในการฉีดเข้าสู่ผิว ทำให้ผู้เข้ารับบริการมีอาการเจ็บน้อยลงกว่าการฉีดด้วยแบรนด์อื่น ฉีดง่าย และมีความสม่ำเสมอ นอกจากนี้ มันยังช่วยลดอาการบวมที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษา

Mesofiller ฉีดจุดไหนได้บ้าง

Mesofiller เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้การรักษาที่ครอบคลุมได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น จุดที่มีปัญหาซูบตอบอย่างแก้ม ขมับ หรือในจุดที่เกิดริ้วรอยร่องลึกอย่างหน้าผาก ร่องแก้ม ใต้ตา รวมไปถึงการเติมเต็มเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า เก็บกรอบหน้าให้ดูเรียว หรือปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น บริเวณจุดซ่อนเร้นสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการเติมเต็มให้ดูเต่งตึง กระชับ สุขภาพดี เมโสฟิลเลอร์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันทั้งภายนอกและภายใน เรียกได้ว่าสวยครบจบได้ในยี่ห้อเดียวไปเลยค่า

Mesofiller มีทั้งหมดกี่รุ่น แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร

ในปัจจุบัน เมโสฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทย มีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันค่ะ ซึ่งก็คือรุ่นที่เหมาะสำหรับนำไปฉีดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ (รุ่น Sensitive Plus) และรุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาฉีดใบหน้า (รุ่น Intense และรุ่น Global) โดยแต่ละรุ่นจะมีข้อแตกต่างกันดังนี้

Mesofiller Sensitive Plus

Sensitive Plus

รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่นำมาแก้ไขปัญหา หรือเติมเต็มบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ โดยมีความเข้มข้นสูงกว่ารุ่นอื่นอยู่ที่ปริมาณ 25 มิลลิกรัม Texture ค่อนข้างเป็นเนื้อแน่นเพราะตรงบริเวณจุดซ่อนเร้นต้องพบเจอกับความเสียดสีในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การใส่กางเกงรัด หรือการนั่งไขว่ห้าง แน่นอนว่ารุ่นนี้มันจึงออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูแก้ไขน้องสาวได้ทั้งภายนอกและภายใน สามารถฉีดได้หลายบริเวณด้วยจุดเปิดที่เดียวกัน และเมื่อเติมเต็มเข้าไปแล้ว จะสามารถกระจายออกไปได้อย่างครอบคลุม พร้อมกับกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินภายในเซลล์ด้านใน ให้ผลลัพธ์ที่มีความเรียบเนียนกันอย่างสม่ำเสมอ

Mesofiller Intense

Intense

สำหรับรุ่นนี้ จะใช้นำมาฉีดบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นรุ่นที่มี Texture ค่อนข้างแข็ง และมีความเข้มข้นของ HA อยู่ที่ 25 มิลลิกรัม เป็นปริมาณที่ค่อนข้างเยอะกว่าแบรนด์อื่น ๆ มีความยืดหยุ่นสูง มันจึงเหมาะสำหรับนำมาฉีดปรับโครงหน้า ปั้นทรง ยกกระชับกรอบหน้า หรือเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เช่น ขมับ คาง โหนกแก้ม หรือรอยพับลึกบริเวณจมูกและปาก

Global

รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มี Texture ที่นิ่มกว่ารุ่น intense โดยมีความเข้มข้นของ ha อยู่ในปริมาณ 20 มิลลิกรัม เป็นรุ่นที่ฉีดเข้าไปแล้ว เกลี่ยและเบนไปกับชั้นผิวง่าย ไม่เป็นก้อน ไม่หยาบ จึงเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาฉีดชั้นผิวตื้น เติมเต็มริ้วรอย หรือเพิ่มวอลลุ่มตามจุดต่าง ๆ เช่น ริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลางบริเวณริมฝีปาก ร่องแก้ม ขมับ หน้าผาก แก้มส้ม หรือรอยพับบริเวณลำคอก็สามารถทำได้ค่ะ

Mesofiller Periocular

Periocular

รุ่นนี้จะมีเนื้อเจลที่นิ่มกว่ารุ่นอื่น ๆ โดยให้ความเข้มข้นของ HA อยู่ที่ 15 มิลลิกรัม ฉีดเข้าไปแล้ว สามารถกลืนกับผิวไปได้ดี มีความหนืดน้อย เหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มผิวที่มีริ้วรอยตื้น ๆ อย่างเช่น หน้าผากหรือรอบดวงตา

Mesofiller ราคาเท่าไหร่

ราคาเริ่มต้นของการฉีดเมโสฟิลเลอร์ที่คลินิกของเราจะอยู่ที่ 9,900 บาท* อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้บริการ เนื่องจากว่าแพทย์จะต้องมีการประเมินแบบ case by case อย่างละเอียด เพื่อเลือกใช้สารเติมเต็มในชนิดที่เหมาะสม รวมไปถึงการใช้ปริมาณที่เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข ทำให้ค่าบริการในแต่ละเคส มีความแตกต่างกันออกไปค่ะ

เปรียบเทียบระหว่าง Mesofiller กับยี่ห้ออื่น ๆ แตกต่างกันอย่างไร

ถึงแม้ว่าการฉีดสารเติมเต็มในแต่ละยี่ห้อจะให้ผลลัพธ์ที่มีความคล้ายคลึงกันก็จริง แต่ในขณะเดียวกัน มันกลับมีคุณสมบัติ รวมไปถึงเทคโนโลยีในการผลิตที่ไม่เหมือนกันเลยค่ะ ดังนั้น เราก็เลยจะพามาดูข้อแตกต่างของเมโสฟิลเลอร์กับยี่ห้ออื่น ๆ ว่ามันมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างไร และฉีดตัวไหนดีกว่ากัน

การเตรียมตัวก่อนใช้บริการ

  • ก่อนใช้บริการ งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 3-5 วัน
  • ก่อนใช้บริการ 1 สัปดาห์ งดรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • ในวันที่เข้ามาฉีดบริเวณหน้า ไม่แนะนำให้แต่งหน้าเข้ามา เนื่องจากก่อนฉีดแพทย์จะลบเครื่องสำอางออกทั้งหมด
  • หากเข้ามาฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้น แนะนำให้กำจัดขนก่อนเข้ามาใช้บริการ
  • หากมีประวัติการแพ้ยา มีโรคประจำตัว หรือแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด

การดูแลตัวเองหลังใช้บริการ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือเกาในบริเวณที่ฉีด
  • หลังฉีด 48 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบหรือบวม
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหน้าได้รับความร้อนโดยตรง เช่น กลางแจ้ง หรือหน้าเตา
  • แนะนำให้บำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นและความอ่อนโยนต่อผิว
  • แนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • แนะนำให้ทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นด้วยความอ่อนโยน สำหรับผู้ที่ฉีดน้องสาว

เช็กให้ดีก่อนฉีด! Mesofiller แท้ ดูยังไง

เพราะของปลอมระบาดหนักมาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่เมื่อเรามองด้วยตาเปล่าก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่างกันเลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของปลอม เรามีวิธีการเช็กเมโสฟิลเลอร์แท้มาฝากค่ะ ไปดูกันชัด ๆ เลยว่า ของแท้ได้จากตรงไหนบ้าง

Mesofiller แท้ ดูยังไง
  1. ของแท้จะมีสติกเกอร์โฮโลแกรมสีทองของผู้ผลิตติดอยู่ที่มุมกล่อง
  2. มีสติกเกอร์โฮโลแกรมสีเงินของผู้นำเข้า ติดอยู่ด้านหน้ากล่อง
  3. ทุกกล่องจะมีฉลากภาษาไทยที่ข้างกล่อง ที่ระบุบริษัทนำเข้าที่ได้รับรองจากอย. อย่างชัดเจน
  4. ทุกกล่องจะต้องมีวันหมดอายุ และเลข lot. สินค้า พร้อม QR Code ที่สามารถสแกนตรวจสอบได้

เลือกฉีดที่คลินิกไหนดี

  • เลือกคลินิกที่เปิดให้บริการ โดยผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก
  • เลือกคลินิกที่ให้บริการครบวงจร รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่ครบครัน สะอาด
  • เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านฟิลเลอร์ มีใบวิชาชีพจริง
  • เลือกคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เป็นของแท้ สามารถตรวจสอบได้
  • เลือกคลินิกที่มีรีวิวหลาย ๆ แพลตฟอร์มและหลายรูปแบบ
  • เลือกคลินิกที่มีช่องทางการติดต่อชัดเจน มีการติดตามผลหลังทำอย่างใกล้ชิด

ฉีดกับอาจารย์หมอเมฆให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระยะยาว

ผลลัพธ์กับความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กันเป็นอันดับแรก เราเลยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่าง Mesofiller หรือยี่ห้ออื่น ๆ ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอย.ไทย และสามารถนำกล่องไปตรวจสอบเลข Lot. ได้ทุกชิ้น นอกจากนี้แล้ว เรายังให้บริการฉีด Filler ภายใต้มาตรฐานอาจารย์หมอเมฆ ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทาง และเป็นหนึ่งในอาจารย์แพทย์ที่สอนเทคนิคการฉีดที่สามารถวิเคราะห์ วางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ พร้อมผสานเข้ากับเทคนิคพิเศษเฉพาะไม่เหมือนใคร “Triple Layers Lift” ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลไว้ และดูดีขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ยืนยันมาตรฐานด้วยรางวัลระดับประเทศ ตลอดจนรางวัลระดับเอเชียอย่างรางวัลอันดับ 1 Single Clinic ที่มียอดฉีดสูงสุดรวมทุกแบรนด์ในประเทศไทย 6 สมัยซ้อน (ปี 2018-2023) และรางวัลอันดับ 1 ยอดฉีดสูงสุดในเอเชีย

รวมคำถามที่พบบ่อย

ทำไมเมโสฟิลเลอร์ถึงไม่มีส่วนผสมของยาชาหรือ Lidocaine

เนื่องจากว่า เมโสฟิลเลอร์ เป็นประเภท Hyaluronic Acid ที่มีอนุภาคที่ค่อนข้างเล็กมาก ทำให้เวลาที่ฉีดเข้าไปมันจะฉีดง่าย และทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ที่มี Lidocaine อีกทั้งยังทำให้หน้าไม่บวมและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ

ฉีดเมโสฟิลเลอร์เจ็บไหม

ต้องบอกก่อนว่า ความเจ็บแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน สำหรับใครที่กลัวเจ็บสามารถให้แพทย์ทายาชา หรือแปะยาชา เพื่อบรรเทาอาการเจ็บขณะฉีดได้ แต่เสียงส่วนใหญ่จากผู้ที่เข้ามาใช้บริการฉีดเมโสฟิลเลอร์ จะบอกว่าเป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ค่ะ

หลังฉีดกี่วันถึงจะเห็นผล

หลังทำครั้งแรกเห็นผลทันที* ตั้งแต่ครั้งแรก แต่อาจจะยังไม่เห็นอย่างชัดเจนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่า หลังฉีดเสร็จอาจมีอาการบวม หรือมีรอยแดงขึ้นเล็กน้อยในจุดที่ฉีด แต่มันจะสามารถจางและหายไปได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจน คนไข้จะสามารถเห็นได้ภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ

ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน

แต่ละคนจะมีผลลัพธ์ที่ไม่เท่ากันค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าฉีดไปกี่ cc และฉีดด้วยรุ่นไหนเข้าไปในตำแหน่งใด โดยส่วนใหญ่จะสามารถคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน นอกจากนี้ อาจขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย หากคนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้อย่างยาวนาน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด หรืออยู่ในที่ที่ให้ความร้อนเป็นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์หลังฉีด

หลังฉีดมีผลข้างเคียงไหม กี่วันหาย

ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากฉีดเมโสฟิลเลอร์ก็คือ อาการบวมหรือแดงที่เกิดจากรอยเข็มค่ะ ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นกับทุก ๆ เคส แต่ข้อดีของยี่ห้อนี้ก็คือ มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า 400 ไมครอน ทำให้เมื่อเวลาแพทย์ฉีดเข้าไปแล้ว มันจะช่วยลดแรงดัน นั่นเลยทำให้มันจะมีโอกาสบวมน้อยลง หรือเจ็บน้อยลงไปด้วยค่ะ

ฉีดไปแล้วไหลเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ไขได้ไหม

บางเคสถึงแม้จะฉีดสารเติมเต็มที่เป็นของแท้ไปแล้วก็ตาม แต่ยังเกิดปัญหาไหลย้อย หรือเป็นก้อน ซึ่งในกรณีนี้ มักจะเกิดขึ้นได้จากเทคนิคการฉีดของแพทย์ที่ยังไม่มีความชำนาญ ขาดประสบการณ์ในการรักษา ทำให้มีการคำนวนปริมาณ รวมไปถึงตำแหน่งที่คลาดเคลื่อนไป เมื่อสารเติมเต็มถูกฉีดเข้าไปในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจทำให้เกิดภาวะฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อนได้

วิธีการแก้ไขก็คือ ให้เข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ เพื่อให้แพทย์ทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยไฮยาลูโรนิคเดส (Hyaluronidase) ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่ต้องการแก้ไข ซึ่งอาจจะต้องกลับมาให้แพทย์ช่วยฉีดซ้ำ เพื่อให้สารเติมเต็มเดิมออกจนหมด ก็จะช่วยทำให้รูปหน้ากลับมาเป็นปกติแล้วค่ะ

หลังฉีดควรกินอะไร

ประเภทอาหารที่แพทย์จะแนะนำให้รับประทานในช่วงแรก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนมากยิ่งขึ้นก็คือ อาหารประเภทโปรตีน เช่น อกไก่ ปลา ถั่ว หรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน รวมไปถึงวิตามิน ผักใบเขียวหรือผลไม้ต่าง ๆ เพราะสารอาหารที่ได้จะเข้าไปช่วยสมานแผลจากรอยเข็ม และยังช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วมากขึ้นด้วยค่ะ

หลังฉีดไม่ควรกินอะไร

อาหารที่ยังไม่แนะนำให้รับประทานในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ก็คืออาหารประเภทของหมัก อาหารรสจัด อาหารที่ให้ความร้อนสูง ไม่ว่าจะเป็นยำต่าง ๆ หรือพวกปิ้งย่าง ชาบู เพราะความร้อนหรือความจัดจ้านที่อยู่ในอาหารเหล่านี้ จะมีส่วนทำให้เกิดอาการบวม เกิดการอักเสบ หรือทำให้แผลหายช้าได้ค่ะ

หลังฉีดกี่วันถึงจะสามารถกลับมาแต่งหน้าได้

หลังฉีดก็สามารถกลับมาแต่งหน้าได้ปกติเลยค่ะ เพียงแค่ว่าให้เว้นระยะในจุดที่มีรอยเข็ม แต่ถ้าเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด แพทย์จะแนะนำให้แต่งหน้าหลังจากฉีดไปแล้ว 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ตามแปรงแต่งหน้า หรือจากเครื่องสำอางเข้ามารบกวนรอยเข็ม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการอักเสบ หรือเข้าช้าได้ค่ะ

หลังฟิลเลอร์สลายไปแล้วหน้าจะเหี่ยวลงกว่าเดิมรึเปล่า

นอกจากจะเป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ก็ยังมีส่วนเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวด้วย ดังนั้น เมื่อเกิดการสลายไปแล้ว แต่เส้นใยคอลลาเจนที่มีการกระตุ้นยังคงทำงานอยู่ ทำให้ผิวหน้าจะดูดีขึ้นกว่าตอนก่อนฉีด และไม่ทำให้เหี่ยวลงอย่างแน่นอนค่ะ

ต่างจากเมโสหน้าใสไหม

มีหลายคนที่เข้าใจผิดคิดว่าเมโสฟิลเลอร์กับเมโสหน้าคืออันเดียวกัน เพราะชื่อเมโสเหมือนกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคนละอันกันค่ะ mesofiller คือหนึ่งในยี่ห้อที่มี Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบหลักในการเติมเต็มผิวที่มีร่องลึกให้ดูอิ่มฟูขึ้น เต็มขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่ม meso face หรือที่หลายคนเรียกว่าเมโสหน้าใส พวกนี้คือกลุ่มมัลติวิตามินต่าง ๆ ที่เข้ามาฟื้นบำรุงผิวให้สุขภาพดี กระจ่างใสขึ้น ดังนั้น ทั้งสองตัวนี้มันจึงมีความแตกต่างกัน ทำหน้าที่และให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกันอีกด้วยค่ะ

สามารถฉีดใบหน้าและจุดซ่อนเร้นพร้อมกันเลยได้ไหม

สามารถฉีดได้ค่ะ เนื่องจากเป็นการเติมเต็มกันคนละจุด สามารถใช้บริการในวันเดียวกันได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมกับการเติมเต็มในแต่ละจุด

สามารถทำร่วมกับโปรแกรมหรือหัตถการอื่นได้ไหม

เป็นหัตถการที่สามารถทำร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ ได้ เช่น Thermage Hifu Ulthera หรือบริเวณจุดซ่อนเร้นก็สามารถทำร่วมกับ Mini Repair หรือ Lady O-Shot เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคนไข้ต้องการทำร่วมกับหัตถการอื่น แนะนำให้แจ้งหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ก่อนใช้บริการ เพื่อให้แพทย์ได้วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

สรุป

Mesofiller (เมโสฟิลเลอร์) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามองมากในขณะนี้ เพราะนอกจากจะช่วยเติมเต็มใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย 3 ความเข้มข้นที่แตกต่างกันแล้วนั้น ยังออกแบบรุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาฉีดจุดซ่อนเร้นได้โดยเฉพาะอีกด้วย และยังมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูง ฉีดแล้วเจ็บน้อย บวมน้อย สำหรับใครที่สนใจฉีด Filler หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาเพิ่มเติม ก็สามารถทักมาได้เลยค่ะ หรือเข้ามาให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินใบหน้าให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายที่คลินิกค่ะ