มาแล้วค่ะ Botox จากเกาหลีตัวตึงยอดฮิต! โบท็อกซ์ Aestox ยี่ห้อระดับพรีเมียมเทียบเคียงกับโบฝั่งอเมริกาได้สบาย ๆ แต่มาในราคาสบายกระเป๋าค่ะ เหมาะสำหรับนำมาช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย ปรับหน้าเรียว ลดกราม นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ได้โบคุณภาพดีและมีคุณสมบัติอันโดดเด่น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงกลายมาเป็นลูกรักของใครหลาย ๆ คน วันนี้ใครที่กำลังเล็ง ๆ หรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับโบตัวดังตัวนี้อยู่ห้ามพลาด! เพราะทางเราได้นำรายละเอียดมาฝากกันแบบอัดแน่นว่าฉีดแล้วดีไหม ช่วยอะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ถ้าพร้อมแล้วเรามาติดตามไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
Botox Aestox คืออะไร
Botox Aestox (เอสท็อกซ์) คือ ผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) สัญชาติเกาหลี ซึ่งโบท็อกซ์ Aestox เป็นแบรนด์ที่นำเข้าโดยบริษัท Aestec Pharma (บริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด) โดยสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ เป็นสารสกัดที่ได้จากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum มีกลไกการทำงานออกฤทธิ์ที่การทำงานระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อมัดนั้น ๆ ที่หดเกร็งเกิดการคลายตัวและทำงานลดลงเพียงชั่วคราว ผิวหนังบริเวณนั้น ๆ จึงกลับมาเรียบตึง ไม่ยับย่น จึงถูกนำมาใช้เพื่อการลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ลดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเกิดเหงื่อที่รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นกาย กลิ่นเท้า รักษาภาวะเหงื่อออกมาก และยังช่วยลดน่อง รวมถึงนำมาใช้รักษาอาการปวดหัวไมเกรนได้ดีอีกด้วยค่ะ
โบท็อกซ์ Aestox ดีไหม
โบท็อกซ์ aestox ดีไหม สำหรับเอสท็อกซ์เป็นผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ที่ได้รับรองด้านมาตรฐานและความปลอดภัยจาก อย. ของไทย (Thai FDA), อย. เกาหลี (KFDA) รวมถึงยังเป็นแบรนด์ของเกาหลีหนึ่งเดียวที่ได้รับรองจากยุโรป (EU FDA) โดยมีความโดดเด่นตรงที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่การค้นคว้า วิจัย และได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชกว่า 5 ปี จนได้สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ที่มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ส่งผลให้ลดโอกาสของภาวะดื้อโบ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับการนำมาใช้กับผิวของคนไทยเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ลิฟกรอบหน้า ลดกราม ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัยแลดูเป็นธรรมชาติ นับว่าเป็นโบที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม ซึ่งออกฤทธิ์ได้เทียบเคียงกับโบฝั่งอเมริกา ถ้าจะถามว่าแบรนด์นี้ดีไหม ด้วยมาตรฐานของตัวผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาสามารถตอบคำถามนี้ได้ดีเลยค่ะ
โบท็อกซ์ Aestox มาพร้อม 4 คุณสมบัติที่โดดเด่น
โบท็อกซ์ Aestox มีคุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ 4 ตัว ดังนี้
- Stability เป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่ได้รับการพัฒนามาให้มีความเสถียร นอกจากนี้ ยังถูกควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ทำให้เกิดประสิทธิภาพการรักษา ได้จากการรับรองของ KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้), Thai FDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) และ EU FDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหภาพยุโรป)
- Safety & Efficacy มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษา ฉีดแล้วออกฤทธิ์เร็วและเห็นผลได้ไว
- Purity เป็นสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ที่ได้รับพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวยาที่มีความบริสุทธิ์กว่า 99.5% จึงช่วยลดโอกาสที่จะดื้อโบตามมาได้
- Natural Look ให้ผลลัพธ์ด้วยลุคที่แลดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ตึงโบ ฉีดแล้วไม่โป๊ะ ไม่แข็งทื่อ
โบท็อกซ์ Aestox มีกี่รุ่น Botox แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร
ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ Aestox จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น 3 สี ซึ่งหลานคนอาจสงสัยว่าแต่ละรุ่นน่าจะมีความแตกต่างกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้ง 3 รุ่นนี้ เป็นสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ที่เป็นตัวยาหมือนกัน เพียงแต่มีความแตกต่างกันตรงที่ปริมาณยูนิตที่บรรจุต่อขวดเท่านั้น ซึ่ง Botox Aestox กล่องสีชมพูบรรจุตัวยา 50 ยูนิต, เอสท็อกซ์กล่องสีฟ้า 100 ยูนิต และกล่องสีส้ม 200 ยูนิต ทั้งนี้ในแต่ละรายจะใช้ปริมาณเท่าไหร่ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะต้องใช้ตัวยาเท่าไหร่ ฉีดบริเวณไหน ใช้กี่ยูนิต
Botox Aestox ฉีดตรงไหนได้บ้าง ใช้โบท็อกซ์กี่ยูนิต ช่วยอะไร
โบท็อกซ์ Aestox สามารถใช้ฉีดในตำแหน่งต่าง ๆ ได้ดังนี้
- หน้าผาก ใช้ปริมาณ 15 – 20 ยูนิต ลดเลือนริ้วรอย รอยย่นหน้าผาก ปรับผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง
- ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ใช้ปริมาณ 10 – 15 ยูนิตต่อข้าง ลดเลือนริ้วรอยระหว่างคิ้ว ยกคิ้ว ยกหางคิ้ว
- ริ้วรอยบนหน้า ใช้ปริมาณ 15 – 25 ยูนิต (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด) ลดเลือนริ้วรอยใบหน้า เช่น สันจมูก ข้างจมูก ระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหางตา รอยตีนกา เป็นต้น
- ปีกจมูก ใช้ปริมาณ 5 – 10 ยูนิตต่อข้าง ลดปีกจมูก ทำให้ปีกจมูกกางออกได้น้อยลงเมื่อแสดงสีหน้า
- ยกมุมปาก ใช้ปริมาณ 10 – 15 ยูนิตต่อข้าง แก้ปัญหามุมปากตก ปรับยกมุมปากยกขึ้น ใบหน้าดูน่ารักเด็กลง
- กระชับรูขุมขน ใช้ปริมาณ 25 – 35 ยูนิต ปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน
- กราม ใช้ปริมาณ 50 – 80 ยูนิต ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ปรับรูปหน้าเรียว
- ลิฟกรอบหน้า ใช้ปริมาณ 30 – 50 ยูนิต ปรับผิวกรอบหน้าให้ดูยกกระชับขึ้น
- แขน ใช้ปริมาณ 50-100 ยูนิตต่อข้าง ช่วยลดกล้ามเนื้อ ทำให้แขนดูเรียวขึ้น
- น่อง ใช้ปริมาณ 100 – 200 ยูนิตต่อข้าง (ขึ้นอยู่กับขนาดของกล้ามเนื้อ) ช่วยลดกล้ามเนื้อน่องขา ให้ขาดูเรียวเล็ก
- ลดเหงื่อ ใช้ปริมาณ 50 – 100 ยูนิต (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด) ช่วยลดเหงื่อออกเยอะที่รักแร้, ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
- รักษาอาการปวดหัวไมเกรน ใช้ปริมาณ 100 – 150 ยูนิต คลายมัดกล้ามเนื้อในตำแหน่ง Trigger Point
เปรียบเทียบ Botox Aestox กับ Nabota อันไหนดีกว่ากัน
สำหรับ Botox Aestox กับ Nabota อันไหนดีกว่ากัน โดยทั้ง 2 แบรนด์นี้ ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา โดยเป็นโบสัญชาติเกาหลีเหมือนกัน ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA ของไทยและต่างประเทศ เพียงแต่อาจมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยดังนี้
จุดเด่นของเอสท็อกซ์
- มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% โอกาสดื้อโบน้อยมากกว่า
- ออกฤทธิ์วงแคบ มีความแม่นยำสูง เห็นผลค่อนข้างเร็ว
- ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- เหมาะกับคนที่ต้องการลดกล้ามเนื้อ ปรับรูปหน้า แบบยังคงความเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง
จุดเด่นของ Nabota
- มีความบริสุทธิ์สูง 98.7%
- มีการกระจายตัวยาและออกฤทธิ์ได้ไวกว่า เห็นผลไว
- ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 4 – 5 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- เหมาะกับคนที่รีบใช้หน้า ต้องการได้ผลลัพธ์แบบเร่งด่วน
สรุปเลือกยี่ห้อไหนดี
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า โบท็อกซ์ทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ มีคุณภาพใกล้เคียงกันมากเลยค่ะ สำหรับยี่ห้อเอสท็อกซ์นั้น จะมีความบริสุทธิ์ที่มากกว่า ช่วยให้คลายความกังวลใจเรื่องอาการดื้อโบ แต่จะเห็นผลช้ากว่านาโบตะเพียงเล็กน้อย รวมถึงผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า และยี่ห้อนาโบตะจะเหมาะกับคนที่อยากเห็นผลเร็ว อย่างคนที่รีบออกงานสำคัญ รีบใช้หน้า ตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดี แต่สำหรับระยะเวลาของผลลัพธ์ก็อาจอยู่ได้สั้นกว่ายี่ห้อเอสท็อกซ์เล็กน้อย ส่วนจะเลือกยี่ห้อไหนดีก็ต้องพิจารณากันตามความต้องการของแต่ละคน หรือหากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกตัวไหนดี แนะนำให้สอบถามเพิ่มเติมกับแพทย์ก่อนตัดสินใจค่ะ
วิธีเช็ก Botox Aestox โบท็อกซ์ของแท้เป็นอย่างไร
สำหรับวิธีการเช็คโบท็อกซ์ Aestox ของแท้ สามารถทำการตรวจสอบได้ตามขั้นตอนด้านล่างนี้
- ตรวจสอบฝาของกล่องถูกปิดสนิท อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแกะกล่อง
- มี QR Code ติดอยู่ที่บนกล่อง โดยสามารถขูดออกและทำการสแกนเช็กได้
- มีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย มีเลขทะเบียน อย. อยู่ด้านข้างกล่อง
- มีเลขรุ่นการผลิต (Lot.), วันเดือนปีที่ผลิต, วันหมดอายุ ที่ต้องตรงกันทั้งที่ใต้กล่องและฉลากข้างขวด
- ด้านข้างกล่องผลิตภัณฑ์มีรอยปรุสำหรับทำการแกะกล่อง
Aestox Botox ราคาเท่าไหร่
ทางคลินิกของเรามีโปรแกรมฉีด Aestox Botox ราคาเริ่มต้นที่ 1,999 บาท* ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส โดยขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมของคนไข้ในแต่ละคน นอกจากนี้ ในคนไข้บางรายแพทย์อาจพิจารณาเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการฉีดโบเพิ่มเติม ดังนั้น แนะนำให้คนไข้เข้ามาพบคุณหมอด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินอย่างละเอียด หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)
รีวิวโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ – Botox Aestox จากผู้ใช้บริการจริง
ส่วนหนึ่งของภาพรีวิวจากคนไข้จริงที่เข้ารับบริการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ด้วยผลิตภัณฑ์ Botox Aestox จะพบว่าก่อนฉีดโบท็อกซ์ Aestox คนไข้มีปัญหาริ้วรอย รอยย่น ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ซึ่งหลังจากฉีดแล้วเมื่อแสดงสีหน้าริ้วรอยที่เคยมีลดเลือน ผิวเรียบตึง ให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ – Botox Aestox
- หากคนไข้มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยารักษาโรคประจำตัวอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดหยุดยากและเสี่ยงต่อการเกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 1 สัปดาห์
- งดการใช้ยาทาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว กรดวิตามิน A, AHA, BHA และงดขัดผิว สครับผิว ก่อนเข้ารับบริการ 2-3 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับบริการ
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ รวมถึงผู้ที่มีภาวะโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรฉีด
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการ
- งดการสัมผัส กด นวด บริเวณที่ฉีดโบ
- งดการนอนคว่ำหน้าประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้ามากเกินไป เช่น การขมวดคิ้วหรือเลิกคิ้ว เพราะอาจทำให้ริ้วรอยกลับมาได้เร็วกว่าปกติ
- 2 วันแรกหลังฉีด งดทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายในที่ที่มีอากาศร้อนและเจอแสงแดดจัด
- 2 สัปดาห์หลังฉีด งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
- ในกรณีฉีดโบเพื่อลดเหงื่อ ควรสวมใส่เสื้อผ้าโปร่งสบาย และงดใช้โรลออนหรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายประมาณ 1 วันหลังฉีด
ทำไมต้องเลือกโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ – Botox Aestox ที่ Doctor Mek Clinic
ที่คลินิกของเรานอกจากจะเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น Home of Filler ที่มีโปรแกรมการฉีดเติมเต็มผิวด้วย HA แล้ว เรายังโดดเด่นในโปรแกรมฉีด Botox ด้วยการคัดสรรเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ได้รับรองจาก อย.ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุกกล่องสามารถเช็กตรวจสอบได้ นอกจากนี้ ยังผสานกับเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง มีการวิเคราะห์ วางแผนการรักษา และการวางตำแหน่งการฉีดโดยอาศัยหลักกายวิภาคศาสตร์ใบหน้า ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านผิวหนัง ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ เปลี่ยนลุคให้ดูดีขึ้นแต่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยการคำนึงถึงมาตรฐานการรักษาที่มาพร้อมความปลอดภัย รวมถึงมีการดูแลติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากคนไข้ทั่วไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังได้รับฉายา “หมอของดารา” เพราะเราเป็นหนึ่งในคลินิกความงามที่มีดารา นางแบบ นายแบบ และเซเลบริตี้ชื่อดังของไทย มาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่องอีกด้วยค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
นานไหมกว่าจะเห็นผล ฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม
ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ในผลิตภัณฑ์เอสท็อกซ์อาจให้ผลที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด เช่น การฉีดเพื่อลดริ้วรอย รอยยับย่น ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า หลังฉีดแล้วจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงใน 3 – 7 วัน, การฉีดลดกล้ามเนื้อ ลดกรามจะเริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์ และเห็นผลลัพธ์ที่เต็มที่ใน 2 – 3 เดือน, การฉีดเพื่อลดน่องจะเห็นผลประมาณ 1 เดือน ส่วนระยะเวลาของผลลัพธ์นั้นจะอยู่ได้นาน 3 – 6 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
ฉีดแล้วมีผลข้างเคียงไหม
หลังการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม อาจทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีอาการบวม ผิวแดง มีรอยช้ำ ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้ ไม่เป็นอันตราย รวมถึงอาการเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด โดยอาการดังกล่าวจะค่อย ๆ บรรเทาลงค่ะ
ฉีดแล้วอันตรายไหม
เอสท็อกซ์เป็นผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม มีความบริสุทธิ์สูง และยังถูกพัฒนาให้เทียบเคียงได้กับโบของอเมริกา ได้รับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจาก อย.ประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งจาก KFDA (เกาหลี) รวมถึง EU FDA (ยุโรป) แต่ทั้งนี้ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ยี่ห้อไหนก็ตาม จะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย แนะนำให้เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์ หากเลือกฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ ซื้อมาฉีดเอง หรือฉีดกับหมอที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ฉีดเทคนิคผิด ๆ รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ของปลอม ยาหิ้ว จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย เช่น การอักเสบติดเชื้อ หน้าเบี้ยว มุมปากตก หน้าแข็ง ยิ้มได้ไม่สุดค่ะ
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ Botox ตัวดังยอดฮิตในไทยอย่างโบท็อกซ์ Aestox สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี นับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพที่ทางเราไม่พลาดจะเลือกคัดสรรมาใช้กับคนไข้ที่คลินิก ด้วยความบริสุทธิ์ของตัวยาที่ค่อนข้างสูงมาก ๆ มีคุณภาพเทียบได้ใกล้เคียงกับโบอเมริกา แต่มาในราคาน่ารักกว่าเยอะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากลดเลือนริ้วรอย รอยยับย่น ลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว ลดการเกิดเหงื่อ หรือจะฉีดเพื่อแก้ไขอาการปวดหัวไมเกรน และยังให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วหน้าไม่แข็ง สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม / นัดคิวแพทย์ / ประเมินปัญหาเบื้องต้นกับทีมแพทย์ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยการแอดไลน์ LINE : @doctormekclinic ค่ะ