พามารู้จัก Revolax Filler คุณภาพพรีเมียมอันดับ 1 ในประเทศอังกฤษ

Revolax filler

นาทีนี้เห็นทีต้องยกให้เป็นฟิลเลอร์อันดับหนึ่งในอังกฤษกับ Revolax Filler หนึ่งในผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มทรงประสิทธิภาพ ที่กลายเป็นขวัญใจเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังในยุโรป ด้วยความโดดเด่นที่มีเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะ ทำให้สารเติมเต็มที่ได้มามีความบริสุทธิ์สูง สามารถนำมาปรับรูปหน้า เติมวอลลุ่มผิว เสริมความอวบอิ่มและความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก หรือยกกระชับเก็บกรอบหน้าให้เรียวสวยได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ เห็นแบบนี้แล้ว เราก็เลยไม่พลาดที่จะพาทุกท่านมารู้จักกับผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ ๆ อย่างรีโวแลกซ์ฟิลเลอร์ ว่ามันดีจริงไหม? แตกต่างจากสารเติมเต็มรุ่นอื่น ๆ อย่างไร? ปัจจุบันมีทั้งหมดกี่รุ่น? ตอบครบจบกระจ่างได้ในที่นี่ที่เดียวค่ะ

Revolax Filler คืออะไร

Revolax Filler คือ หนึ่งในสารเติมเต็ม Hyalluronic Acid (HA) ที่นำมาใช้ในการเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู ยกกระชับ พร้อมปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมีมิติมากยิ่งขึ้น รีโวแลกซ์ ฟิลเลอร์เป็นสารที่มีความบริสุทธิ์สูง ผ่านกระบวนการผลิต HEXALINK ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของยี่ห้อนี้ สามารถนำไปฉีดเข้าสู่ผิวได้อย่างปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หลังฉีดไปสักระยะ มันจะสามารถสลายตัวได้เองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรปและไทย (อย.)

กระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ

กระบวนการผลิตของ Revolax

Revolax Filler เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี “HEXAlink” ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ทำให้สารเติมเต็มเกิดพันธะได้อย่างยาวนานถึง 24 ชั่วโมง โดยผ่านกระบวนการกำจัดสารตกค้างจาก BDDE ให้เหลือ 0% ก่อนเข้าบรรจุภัณฑ์ ฉีดแล้วขึ้นรูปทรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีโครงตาข่ายที่สม่ำเสมอ เนื้อเจลมีความหนาแน่นและคงตัวสูง สามารถยืดหยุ่นได้ในระดับที่พอดี มันจึงเป็นยี่ห้อที่สามารถนำมาปรับรูปหน้าได้ดี อีกทั้งยังมีกระบวนการผ่านความร้อนและเย็น ทำให้ได้ตัวเนื้อเจลที่คงทนทุกสภาพอุณหภูมิ มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตราย

Revolax Filler มาพร้อมกับ 4 คุณสมบัติอันโดดเด่น

  1. High Purity : รีโวแลกซ์ เป็นสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ให้ความบริสุทธิ์สูง และสามารถเข้ากันกับเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวได้เป็นอย่างดี
  2. High Visco-Elasticity : ตัวเนื้อเจลสามารถเติมเต็มวอลลุ่มให้กับผิวได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมให้ผลลัพธ์ที่ดูคงทนอย่างเป็นธรรมชาติ
  3. Stringent Quality Checks : กระบวนการผลิตมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด พร้อมขจัดสาร BDDE ออกจนเหลือ 0% ทำให้เนื้อเจลมีความบริสุทธิ์สูง ปลอดภัย และเข้ากับร่างกายได้ดี
  4. Unique Cross-Linking Structure : มีโครงสร้างเป็นตาข่ายที่หนาแน่น ทำให้เนื้อเจลยึดเกาะกับผิวได้ดี เกลี่ยง่าย ฉีดเข้าไปแล้วไม่ไหลย้อนเป็นก้อน มีความเรียบเนียน

ฉีดช่วยอะไรบ้าง

  • ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีความสมดุลกันมากขึ้น
  • ช่วยเติมเต็มร่องลึกตามจุดต่าง ๆ ให้ดูฟู มีวอลลุ่มมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยยกกระชับบริเวณกรอบหน้า ปรับใบหน้าให้ดู V-Shape หน้าเรียว
  • ช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

เหมาะกับใครบ้าง

  • เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
  • เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด
  • เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวยุบ ซูบตอบ โดยเฉพาะบริเวณขมับ แก้ม
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเติมเต็ม ปรับรูปหน้าแต่ไม่ต้องการผ่าตัด
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้อกงการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่มีเวลาพักฟื้น

Revolax Filler มีทั้งหมดกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร

ปัจจุบันจะมีทั้งหมด 3 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติและเนื้อเจลที่แตกต่างกัน ทำให้มันสามารถเข้าไปเติมเต็มเฉพาะจุดได้ง่ายและดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทุกรุ่นของรีโวแลกซ์ก็ยังมีส่วนผสมของยาชาอยู่ในปริมาณ 0.3% เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บระหว่างฉีดอีกด้วย

Fine with Lidocaine

เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลเบาบางมากที่สุดในบรรดาทุกรุ่นของรีโวแลกซ์ มันจึงเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มผิวชั้นตื้น แก้ไขปัญหาริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา รอยตีนกา หน้าผาก ลำคอ หรือนำมาฉีดบริเวณริมฝีปาก เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น ทาลิปสติกแล้วสีไม่ตกร่อง รุ่นนี้ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 12-18 เดือน (*ระยะเวลาและผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

Revolax Deep with Lidocaine

Deep with Lidocaine

รุ่นนี้เนื้อเจลจะมีความหนืดในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับนำมาฉีดเติมเต็มผิวชั้นกลาง ชั้นลึก หรือชั้นไขมัน เพื่อให้วอลลุ่มกับผิว เช่น บริเวณร่องแก้ม หรือนำมาฉีดเสริมปรับรูปคาง เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม สมส่วนกับใบหน้า สำหรับรุ่นนี้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน (*ระยะเวลาและผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

Revolax SUB-Q with Lidocaine

SUB-Q with Lidocaine

เป็นรุ่นที่มีความหนืดและยืดหยุ่นมากที่สุดในบรรดาทุกรุ่น เหมาะสำหรับนำไปฉีดชั้นผิวหนังส่วนลึก และเติมเต็มริ้วรอยในระดับลึกมาก หรือนำมาใช้ปรับรูปหน้า เก็บกรอบหน้าให้เรียวสวย มีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถคงสภาพของผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน (*ระยะเวลาและผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

Revolax Filler ฉีดบริเวณไหนบ้าง แต่ละจุดใช้กี่ cc

เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาฉีดได้หลากหลายตำแหน่งบนใบหน้าเลยค่ะ ซึ่งแต่ละตำแหน่ง ปริมาณในการใช้ก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าในจุดที่คนไข้ต้องการฉีดนั้น มีปัญหาเยอะมากน้อยแค่ไหน ต้องการเติมเต็มวอลลุ่มผิวประมาณไหน แพทย์ก็จะเป็นผู้ประเมินการใช้ให้เหมาะสมกับจุดที่ฉีดเองค่ะ

Revolax ฉีดบริเวณไหนบ้าง
  • บริเวณหน้าผาก – เติมเต็มหน้าผากให้มีความโหนกนูน แก้ไขริ้วรอยแห่งวัย โดยปกติแล้วอยู่ที่ 3-5 cc.
  • บริเวณขมับ – ปรับให้ร่องขมับดูตื้นขึ้น เสริมให้ใบหน้าได้สัดส่วน อ่อนเยาว์ลง โดยปกติแล้วอยู่ที่ 2-4 cc.
  • บริเวณใต้ตา – ลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา หรือแก้ปัญหาร่องลึกบริเวณใต้ตา โดยปกติแล้วอยู่ที่ 2-4 cc
  • บริเวณแก้ม – เติมเต็มวอลลุ่มให้กับแก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ โดยปกติแล้วอยู่ที่ 1-2 cc.
  • บริเวณร่องแก้ม – เติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ลง โดยปกติแล้วอยู่ที่ 2-4 cc.
  • บริเวณริมฝีปาก – เพิ่มวอลลุ่มให้กับริมฝีปาก แก้ไขปัญหาปากแห้ง แตก สามารถปรับรูปทรงปากได้หลากหลายสไตล์ โดยปกติแล้วอยู่ที่ 1-2 cc.
  • บริเวณกรอบหน้า – ปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนมากขึ้น หรือยกกระชับผิวที่ดูหย่อนคล้อย โดยปกติแล้วอยู่ที่ 2-5 cc.
  • บริเวณคาง – ปรับคางให้ได้สัดส่วนเข้ากับรูปหน้า แก้ไขปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม ให้ใบหน้าดูเรียวสวย โดยปกติแล้วอยู่ที่ 1-2 cc.

Revolax Filler ราคาเท่าไหร่

ราคาเริ่มต้นของการฉีดยี่ห้อรีโวแลกซ์จะอยู่ที่ 11,000 บาท* ในแต่ละเคสอาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณ cc ที่ฉีดเข้าไป ซึ่งแพทย์จะต้องเป็นผู้ประเมินการรักษาอย่างละเอียดแบบรายบุคคล คนไข้สามารถเข้าไปขอรับคำปรึกษา หรือให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นก่อนได้เลยค่ะ

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Revolax กับยี่ห้ออื่น ๆ

แต่ละยี่ห้อก็จะมีเทคโนโลยีในการผลิต คุณสมบัติ และให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ก็เลยจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Revolax และยี่ห้ออื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมในไทยอย่าง Juvederm และ Restylane ว่ามีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกันอย่างไรบ้าง

ประสิทธิภาพอันโดดเด่นที่ทำให้ Revolax Filler ได้รับความนิยม

Revolax ดีไหม? นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว มีอะไรอีกบ้างที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ กลายเป็นแบรนด์น้องใหม่ในไทยที่ได้ได้รับความนิยม ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง เรามีคำตอบค่ะ!

  1. มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดีในการรักษา (High Performance)
    ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษเฉพาะ ทำให้สารเติมเต็มมีความยืดหยุ่นสูง มีความหนืดและคงตัวได้ดี อีกทั้งยังมีการสร้างพันธะผ่านกระบวนการความร้อนและเย็นที่ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ตัวเนื้อเจลเชื่อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปั้นแต่งรูปทรงได้ง่าย และยังสามารถเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในร่างกายด้วย
  2. ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่าย (Comfortable)
    ข้อดีอย่างแรกเลย ยี่ห้อนี้มีส่วนผสมของยาชาร่วมอยู่แล้วทุกรุ่นในปริมาณ 0.3% ทำให้ระหว่างทำการรักษาคนไข้จะค่อนข้างผ่อนคลาย และสบายตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นยี่ห้อที่ฉีดเข้าไปแล้วเกลี่ยได้ง่าย ไม่ไหลย้วยเป็นก้อน ตัวเนื้อเจลสามารถเข้าไปแทรกซึมกับชั้นผิวได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมาก
  3. มีความปลอดภัยสูง (Safety)
    เพราะกระบวนการผลิตของยี่ห้อนี้เอง ทำให้ปราศจากสารไพโรเจน (Pyrogen) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตราย อีกทั้งยังมีกระบวนการผลิตที่ทำให้ลดสารตกค้างจากการเชื่อมพันธะของ Hyaluronic เป็นเวลา 15 วัน ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการจัดจำหน่าย ทำให้ลดอาการแพ้ หรือสารพิเศษสะสม พร้อมผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย.ไทย และเครื่องหมาย CE ที่มียอดใช้กว่า 30 ล้านกล่องใน 29 ประเทศทั่วโลก

Revolax แท้! ดูยังไง

Revolax แท้ดูยังไง

จุดที่ 1 : สังเกตได้จากบริเวณกล่องผลิตภัณฑ์จะมีการปิดผนึกรอบด้าน ไม่ผ่านการแกะมาก่อน
จุดที่ 2 : ตัวกล่องจากมีฉลากภาษาไทย พร้อมเลขทะเบียน อย.
จุดที่ 3 : บริเวณตัวกล่องและหลอดบรรจุภัณฑ์จะมีเลข lot. ที่ผลิต รวมไปถึงวัน/เดือน/ปี ที่หมดอายุ

หากคนไข้ยังไม่มั่นใจว่า สิ่งที่ฉีดเข้าไปเป็นของแท้หรือไม่ สามารถขอนำกล่องกลับไปโทรสอบถามเลข lot. รวมไปถึงคลินิกที่ใช้บริการกับทางบริษัทโดยตรงได้เลยค่ะ (บริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด)

ข้อควรระวังก่อนใช้บริการ

ก่อนใช้บริการ นอกจากจะศึกษารายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกและผลิตภัณฑ์แล้ว ก็แทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากเลยค่ะ เพียงแต่จะมีข้อจำกัดเพียงไม่กี่ข้อ ที่หากทำแล้วอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งข้อควรระวังก่อนเข้ารับบริการก็มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยากลุ่มที่มีผลต่อการไหลเวียนเลือด
  • ใครที่มีโรคผิวหนังอักเสบ มีแผลเปิด หรือผิวติดเชื้อ แนะนำให้รักษาอาการเหล่านี้ให้หายดีก่อนฉีด
  • หลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมการผลัดเซลล์ผิว
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ใกล้เคียงกับบริเวณที่ฉีด
  • ไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนใช้บริการ 24 ชั่วโมง

หลังใช้บริการควรดูแลตัวเองอย่างไร

การดูแลตัวเองหลังฉีด ไม่ว่าจะยี่ห้อใดก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยนำพาให้เราไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แพทย์จะแนะนำให้ปฏิบัติตนดังนี้ค่ะ

  • หลังใช้บริการควรดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้น้ำเข้าไปเติมเต็มความชุ่มชื้นแก่ผิว และเพื่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
  • หากมีรอยเข็มหรือรอยแดงเกิดขึ้นในตำแหน่งที่ฉีด อาการเหล่านี้จะหายได้เองใน 2-3 วัน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะ เกา หรือนวดในบริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อน เช่น กลางแจ้ง หน้าเตา หรือการออกกำลังกายอย่างหนัก
  • ไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 1-2 วัน
  • สามารถทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้นต่อผิวได้ตามปกติ

รวมคำถามที่พบบ่อย

ฉีดแล้วบวม เกิดจากอะไร แก้ไขได้ไหม

ปัญหาที่บางคนฉีดไปแล้วบวมจริง ๆ สามารถแยกออกเป็น 2 กรณีด้วยกันก็คือ ในกรณีแรก อาการเหล่านี้เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเคสเป็นปกติ ซึ่งมันจะมีบวมเล็กน้อยในตำแหน่งใกล้เคียงที่ฉีด แต่จะสามารถหายและบรรเทาลงไปเองภายใน 7-14 วัน แต่ถ้าหากว่าหลังจากพ้น 14 วันไปแล้ว ยังมีอาการบวมเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ อาจเป็นไปได้จากสาเหตุความไม่ชำนาญของแพทย์ ที่เลือกใช้ชนิดของสารเติมเต็มไม่ตรงจุดกับชั้นผิวที่จะฉีด รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นของปลอมนั่นเอง วิธีการแก้ไขหากพ้น 14 วันไปแล้ว อาการเหล่านี้ยังไม่หายดี แนะนำให้เข้าไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อสืบหาสาเหตุของอาการดังกล่าว พร้อมเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

ฉีดไปแล้วกี่วันถึงจะเห็นผล

เป็นหัตถการที่สามารถเห็นผลได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดเลยค่ะ ซึ่งมันจะเริ่มเห็นผลทันทีประมาณ 70-80% และหลังจากผ่านไปแล้ว 1-2 สัปดาห์ อาการบวมแดงหรือรอยเข็มหายไปแล้ว ผลลัพธ์ก็จะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ มันจึงเป็นนวัตกรรมด้านความงามที่ตอบโจทย์ต่อผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็วอย่างมากเลยล่ะค่ะ

ฉีดแล้วผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ฉีดรุ่นไหน ปริมาณเท่าไหร่ และมีสภาพผิวตอนก่อนฉีดเป็นอย่างไร ปัจจัยเหล่านี้ จะมีผลต่อการคงสภาพของสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไป แต่โดยเฉลี่ยแล้ว Revolax Filler จะสามารถคงสภาพอยู่ได้ในระยะ 9-18 เดือน ถ้าหากว่าคนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากกว่านั้น ก็สามารถกลับมาเติมได้เรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนดได้เลยค่ะ

เปลี่ยนยี่ห้อฉีดได้ไหม จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิมหรือเปล่า

หากคนไข้เคยฉีดยี่ห้ออื่นมาแล้ว อยากเปลี่ยนมาฉีดรีโวแลกซ์ ก็สามารถเปลี่ยนได้ ไม่จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิม รุ่นเดิมเสมอไปค่ะ เมื่อของเดิมที่เคยฉีดมีการสลายออกจนหมดแล้ว ก็สามารถขอเข้ารับบริการฉีดสารเติมเต็มยี่ห้ออื่นได้เลย ซึ่งแพทย์ก็จะเป็นผู้ประเมินการรักษาและเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีดอีกครั้งค่ะ

สรุป

Revolax Filler เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่ดาราเซเลบริตี้อังกฤษ หรือเรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปอยู่ ณ ขณะนี้เลยค่ะ มาพร้อมกับกระบวนการผลิตพิเศษเฉพาะ ที่ทำให้ Filler สามารถยึดเกาะกับผิวได้เป็นอย่างดี โดยไม่ไหลเป็นก้อน อีกทั้งยังสามารถคงทนได้ต่อทุกสภาพอุณหภูมิ ฉีดแล้วเกลี่ยง่าย เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี ไม่ว่าจะนำมาใช้ในการเติมเต็มวอลลุ่มผิว ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ก็สามารถทำได้ด้วย 3 รุ่นพิเศษที่ออกแบบเนื้อเจลมาให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีความปลอดภัยสูง