เคยเหนื่อยกับการทาครีมบำรุงกันไหมคะ ทาซ้ำ ๆ จนหมดไปเป็นหลอดแต่ก็ยังไม่เห็นผลสักที ใครหลายคนจึงเริ่มหันมาพึ่งมือหมอในการเสกหน้าใสมากขึ้น ถ้าจะเอาที่ชื่อคุ้นหูหน่อยก็คงเป็น “การฉีดเมโสหน้าใส” ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นการใช้เข็มฉีดแล้ว คนที่กำลังตัดสินใจอาจจะยังกังวลว่า การฉีดเมโสหน้าใสหน้าต้องบวมแน่เลย แล้วอย่างนี้หน้าจะบวมกี่วัน? ฉีดแล้วจะเจ็บไหม? ผลลัพธ์จะคุ้มค่ากับความเจ็บหรือเปล่า? เพราะฉะนั้นเราไปทำความรู้จักกับการฉีดเมโสหน้าใสกันดีกว่าค่ะ จะได้รู้กันไปเลยว่าการฉีดเมโสหน้าใสหน้าบวมกี่วัน ฉีดแล้วจะเจ็บอย่างที่ใครหลายคนกังวลไหม
ทำไมฉีดเมโสหน้าใสแล้วหน้าบวม
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการคลินิกหมอ อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการฉีดเมโสหน้าใสเกี่ยวอะไรกับหน้าบวม เกี่ยวอะไรกับความเจ็บ อย่างนี้แปลว่ามันอันตรายใช่ไหม เลยอยากจะอธิบายคร่าว ๆ ให้ฟังก่อนว่าการฉีดเมโสหน้าใส คือ การฉีดวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อบำรุงและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพอย่างเร่งด่วน นั่นจึงแปลว่าเป็นการรักษาที่ต้องใช้เข็ม อ่านถึงตรงนี้คนที่กลัวเข็มหลายคนคงกำลังหน้าเบ้ แต่อันที่จริงมันไม่ได้เจ็บอย่างที่คิดเลยค่ะ เพราะอย่างที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิก ก่อนการรักษาคุณหมอจะทายาชาบริเวณที่จะฉีดก่อน (วิธีบรรเทาอาการเจ็บของที่นี่ จึงมีทั้งการแปะยาชา การฉีดยาชา การประคบเย็น การใช้น้ำแข็งประคบ และการใช้ลูกกลิ้งประคบเย็น) แถมเข็มที่ใช้ก็เล็กมาก จิ้มลงไปในชั้นผิวลึกเพียงแค่ 2-3 มิลลิเมตร ดังนั้นเวลาลงเข็มเราจึงแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่อาจจะมีอาการตึง ๆ เล็กน้อยเหมือนมีอะไรมาสะกิดที่ผิวก็เท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ยังมีตัวยาบางชนิดหรือบางสูตรที่อาจทำให้รู้สึกแสบนิดหน่อยตอนฉีดเข้าไป ซึ่งเราสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาแก้ปวดค่ะ เพราะฉะนั้นหายห่วงได้เลย
ส่วนอาการบวมหลังฉีดเมโสหน้าใสที่ใครหลายคนกังวล จริง ๆ แล้วหากรักษากับแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน อาการบวมก็จะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดตัวยาที่คุณหมอเลือกใช้ว่ามันทำปฏิกิริยากับสภาพร่างกายของเราอย่างไร โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินสภาพผิวของเราเอง เพื่อจะได้ปรับสูตรให้ตรงกับผลลัพธ์ที่เราอยากได้มากที่สุด นอกจากนี้ เทคนิคการฉีดของคุณหมอก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการบวม ถ้าคุณหมอเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากพอ รับรองว่าเทคนิคการฉีดย่อมทำให้เราบวมน้อยกว่าอยู่แล้ว รวมถึงการดูแลหลังทำด้วยตัวเราเอง ร่างกายจะฟื้นตัวเร็วไหมอยู่ที่การดูแลตัวเองเป็นหลัก ซึ่งวิธีโดยทั่วไปก็คือ การไม่ควรสครับหรือนวดถูผิวบริเวณที่ทำ 1 คืน เพราะจะเป็นการรบกวนผิว ทำให้ผิวอักเสบได้ หากเกิดรอยแดงหรือบวมเล็กน้อย ลองใช้วิธีประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการ อาการบวมก็จะค่อย ๆ ลดลงเองค่ะ และสุดท้าย คือ อย่าลืมเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์และดื่มน้ำให้มาก ๆ การดื่มน้ำจะช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดี สารอาหาร และวิตามินที่ฉีดเข้าไปจะได้หมุนเวียนในเลือดได้ดีขึ้นด้วย
เมโสหน้าใสเป็นการทำหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากตัวยาที่ใช้ส่วนใหญ่จะผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ซึ่งอ่อนโยนต่อผิวหน้าของเราอยู่แล้ว แต่ถึงเมโสหน้าใสจะเป็นการรักษาด้วยสารสกัดที่ไม่เป็นอันตราย มันก็ยังมีคนไข้บางประเภทที่คุณหมออาจจะยังไม่ให้ทำทันที นั่นคือ กลุ่มคนที่ใช้ยาประจำจำพวก Vitamin C, Vitamin E หรือยาที่ทำให้เลือดออกง่ายหยุดยาก ดังนั้นหากรู้ตัวว่าเราอยู่ในกลุ่มนี้ ต้องอย่าลืมปรึกษาคุณหมอเพื่อหยุดยาก่อนนะคะ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่จะตามมา
ทุกคนคงได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมคะว่าฉีดเมโสหน้าใสหน้าบวมกี่วัน ฉีดแล้วเจ็บหรือเปล่า จะเห็นได้ว่าปัจจัยหลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับคุณหมอที่รักษาว่ามีความเชี่ยวชาญไหม ตัวยาที่ใช้มีคุณภาพหรือเปล่า รวมถึงการปฏิบัติตัวของเราว่าดูแลตัวเองหลังทำดีไหม ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการเจ็บและอาการบวมของการทำเมโสหน้าใสทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสำหรับทางลัดผิวใสที่สามารถเห็นผลได้ใน 1 อาทิตย์หลังฉีด ไม่ต้องรอเป็นเดือน ไม่ต้องหมั่นทาครีมเป็นกิจวัตรสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง สรรพคุณปังปุขนาดนี้ ไม่น่าลองตรงไหนเอาปากกามาวง