Ultra V Hyal Filler ยี่ห้อน้องใหม่จากเกาหลี เติมเต็มความสวยจบครบทุกมิติ

Ultra V Hyal Filler

ชวนมารู้จักกับ Ultra V Hyal Filler แบรนด์น้องใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวของโลกที่ใช้นวัตกรรม 2 อนุภาคของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายกว่า 41 ประเทศทั่วโลก มาเติมเต็มจุดไหนบนใบหน้า ก็สวยเป๊ะได้ดั่งใจ ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่อยากแนะนำให้กับสาวกสารเติมเต็มได้มารู้จัก แน่นอนว่าบทความนี้ เราจะพามาตอบทุกข้อสงสัยไม่ว่าคืออะไร? ดีไหม? ปลอดภัยหรือเปล่า? แตกต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร? ราคาเท่าไหร่? กี่วันเห็นผล พร้อมเคลียร์ทุกประเด็นแบบจุใจไปเลยค่ะ

Ultra V Hyal Filler คืออะไร

Ultra V Hyal Filler คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบอย่าง Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) เป็นสารเติมเต็มที่ถูกผลิตขึ้นมาเลียนแบบกับสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ โดยคุณสมบัติของมันก็คือ การเติมเต็มผิวในบริเวณที่มีร่องลึกให้ดูอิ่มฟูขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยอย่าง R Square Technology ทำให้สารเติมเต็มยี่ห้อนี้ เป็นนวัตกรรมรายแรกของโลกที่นำเอากรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ทั้ง 2 อนุภาค มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยาวนาน

ตัวแรกของโลก! ที่ผสาน 2 อนุภาพไว้ในที่เดียว

Ultra V Hyal เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มตัวแรกและตัวเดียวของโลก ที่นำเอากด Hyaluronic Acid แบบ Crosslinked HA ทั้งสองอนุภาคเข้ามาประสานกันเป็นหนึ่งเดียว (The World’s First 2 in 1 HA Filler) และยังมีเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะเรียกว่า R Square Technology หรือ R2 ที่ทำให้กรด Hyaluronic Acid ทั้ง 2 อนุภาค ซึ่งก็ได้แก่ Monophasic HA และ Biphasic HA นำมาไว้ด้วยกัน กลายเป็น Muti-Layered Phasic Filler เป็นการผสานคุณสมบัติและความโดดเด่นของ 2 อนุภาคนี้ มาไว้ในที่เดียว ทำให้มีประสิทธิภาพสูง สามารถยึดเกาะกับผิวได้อย่างแข็งแรงและคงรูปได้เป็นอย่างดี

Monophasic HA คืออะไร

Monophasic HA สารเติมเต็มเนื้อเดียวที่ให้คุณสมบัติอันโดดเด่นในเรื่องของ Textuer ที่มีความหนืดสูง (High Viscosity) มีการเกาะตัวและสามารถกระจายตัวได้เป็นอย่างดี เมื่อฉีดเข้าไปแล้วเกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

Biphasic HA

Biphasic HA คืออะไร

Biphasic HA หรือเรียกอีกอย่างว่าสารเติมเต็มเนื้อผสม ซึ่งเป็น HA ที่มีโมเลกุลเนื้ออ่อนและเนื้อเจลคงตัวอยู่รวมกัน โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นสูง (High Elasticity) สามารถนำมาใช้เติมเต็มวอลลุ่ม (Volume) ได้เป็นอย่างดี พร้อมให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ฉีดแล้วช่วยอะไรบ้าง

  • ช่วยปรับรูปหน้า หรือยกกรอบหน้า ให้ดูกระชับและชัดมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเสริมบริเวณหน้าผากให้มีวอลลุ่ม
  • ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกตามบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า
  • ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มได้รูปทรงที่สวยงาม
  • ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า รวมไปถึงริมฝีปาก
  • ช่วยเสริมคางให้ยาวขึ้น ให้ใบหน้าดูมีมิติ

เหมาะกับใครบ้าง

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หรือมีแก้มหย่อนคล้อย
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ใบหน้าไม่มีวอลลุ่ม หรือมีจุดที่ยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าไม่มีมิติ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า หรือเพิ่มความยาวของคาง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ไม่ได้รูป ริมฝีปากไม่ชัด หรือแตกเป็นร่อง

ความโดดเด่นของ Ultra V Hyal Filler

ด้วยวิธีการผลิตที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน ทำให้สารเติมเต็มยี่ห้อนี้ มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกับยี่ห้ออื่น และถึงแม้ว่าจะเป็นยี่ห้อน้องใหม่ แต่ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความโดดเด่นของยี่ห้อนี้ก็คือ

  • The World’s First 2 in 1 HA Filler : พูดได้เลยว่าเป็นความโดดเด่นที่ไม่มีใครเหมือนเลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นนวัตกรรมสารเติมเต็มแบรนด์แรกของโลก ที่ได้นำเอากรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ทั้ง 2 อนุภาค เข้ามารวมไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้ตัวเนื้อสารเติมเต็มมีประสิทธิภาพสูง สามารถยึดเกาะกับผิวได้อย่างแนบแน่น คงตัวได้ดี ฉีดง่าย และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • มีความปลอดภัยสูง ด้วยการรับรองมาตรฐานระดับสากล : เป็นสารเติมเต็มที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหลายประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานจาก 4 หน่วยงานของประเทศไทยและระดับสากล ได้แก่
    • CE 2195 : เครื่องหมายรับรองมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย ตามข้อบังคับของสหภาพยุโรป
    • Thai FDA : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย (อย.)
    • Fine เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013000
    • Medium เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013002
    • Filler Hard เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013001
    • ISO 13485 : เป็นเครื่องหมายการรับรองมาตรฐานสากลด้านระบบบริหารงานคุณภาพ สำหรับเครื่องมือแพทย์
    • KFDA : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศเกาหลีใต้
  • รู้สึกสบายผิวขณะฉีด : นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ให้สารเติมเต็มมีประสิทธิภาพสูงแล้ว ในตัวของเข็มฉีดก็ยังมีเทคโนโลยีเฉพาะที่เรียกว่า “TSKiDTM Technology” ซึ่งเป็นเข็มที่ออกแบบมาอย่างพิเศษให้มีความคม ผนังบาง มันจึงช่วยลดอาการบาดเจ็บและอาการบวมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ค่อนข้างตอบโจทย์เป็นอย่างมากสำหรับคนที่กลัวเจ็บจากการฉีด

Ultra V Hyal Filler ฉีดจุดไหนได้บ้าง

Ultra V Hyal Filler ฉีดจุดไหนได้บ้าง

สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาร่องลึก ริ้วรอย หรือในจุดที่เราต้องการเติมเต็มให้มันดูอิ่มฟู ดูเต็มหรือเพิ่มวอลลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น

  • หน้าผาก – เสริมหน้าผากให้มีวอลลุ่ม หรือลดเลือนริ้วรอย
  • ใต้ตา – เติมเต็มร่องลึกใต้ตา ให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
  • ขมับ – เติมเต็มร่องขมับให้ดูฟูขึ้น แก้ไขปัญหาขมับยุบ ตอบ
  • แก้ม – เพิ่มวอลลุ่มให้แก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ
  • ร่องแก้ม – เติมร่องลึกให้ดูตื้นเรียบเนียนขึ้น
  • ริมฝีปาก – ปรับรูปทรงปากตามสไตล์ที่ชอบ เพิ่มความอวบอิ่ม ให้ริมฝีปากชุ่มชื้น
  • คาง – เสริมคางให้ยาวขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียว
  • กรอบหน้า – ยกกระชับให้กรอบหน้าชัด

Ultra V Hyal Filler มีทั้งหมดกี่รุ่น แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร

สำหรับ Ultra V Hyal Filler ในปัจจุบันก็มีแยกออกมาเป็น 3 รุ่นย่อย ๆ โดยแต่ละรุ่นนั้น มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) อยู่ที่ 0.3% แต่ในเรื่องของโมเลกุล คุณสมบัติ และการให้ผลลัพธ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวในแต่ละจุดจะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

Ultra V Hyal Filler รุ่น Fine

รุ่น Fine

เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลค่อนข้างบางเบา มันจึงเหมาะสำหรับนำมาฉีดในบริเวณชั้นผิวหนังแท้ส่วนกลาง (mid-dermis) หรือช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยแบบตื้น อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มบริเวณใต้ตา ให้มีความอิ่มฟูดูสดใสมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก

Ultra V Hyal Filler รุ่น Medium

รุ่น Medium

รุ่นนี้จะมีเนื้อเจลที่ค่อนข้างคงรูปได้ดี จึงเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มเพื่อลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ไม่ว่าจะเป็นเติมเต็มหน้าผากหรือร่องแก้มให้มีวอลลุ่มดูฟูขึ้น หรือเพิ่มความอวบอิ่มให้กับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลง

Ultra V Hyal Filler รุ่น Hard

รุ่น Hard

เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลแข็งกว่ารุ่นอื่น ๆ จึงนำมาใช้เพื่อเติมเต็มผิวให้มีวอลลุ่ม รวมไปถึงการปรับรูปหน้า ยกกระชับบริเวณหน้าแก้ม หรือเพิ่มมิติให้กับกรอบหน้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแนวกลาง, หน้าผาก, ขมับ และคาง

Ultra V Hyal Filler ราคาเท่าไหร่

ราคาเริ่มต้นของการฉีด Ultra V Hyal Filler จะอยู่ที่ 11,000 บาท* โดยในแต่ละเคสอาจมีค่าบริการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้อยากเข้ามาฉีดที่ตำแหน่งใด มีปัญหามากน้อยแค่ไหน และใช้ปริมาณกี่ซีซี ซึ่งทั้งหมดนี้ แพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นคนประเมินให้แบบรายบุคคล หากใครสนใจสามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการติดต่อของทางคลินิกได้เลยค่ะ

เปรียบเทียบระหว่าง Ultra V Hyal กับยี่ห้ออื่น ๆ แตกต่างกันอย่างไร

ควรเลือกฉีดยี่ห้อไหนดี ซึ่งเป็นคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยหรือเรียกได้ว่า เกิดทุกครั้งที่ตัดสินใจจะฉีด และเพื่อให้มีการตัดสินใจได้อย่างง่ายมากยิ่งขึ้น เราก็เลยจะพามาเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่าง Ultra V Hyal และสารเติมเต็มยี่ห้ออื่น ๆ อย่าง Restylane, Mesofiller และ Belotero ว่าแต่ละตัวนั้น มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกันอย่างไรบ้าง

การเตรียมตัวก่อนใช้บริการ

  • งดการรับประทานยาแก้ปวด หรือยากลุ่มต้านการอักเสบเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนใช้บริการ
  • งดทานวิตามินที่มีส่วนผสมของการไหลเวียนของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนใช้บริการ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 วันก่อนใช้บริการ
  • หากใครที่มีโรคประจำตัว มีอาการแพ้ยาหรือแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
  • ไม่แนะนำให้แต่งหน้าเข้ามาใช้บริการ เพราะก่อนฉีดจะมีการคลีนหน้าทุกเคส

การดูแลตัวเองหลังใช้บริการ

  • หลังฉีดไม่แนะนำให้นวด คลึง กด สัมผัส หรือบีบที่ใบหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันเนื้อสารเติมเต็มเกิดการเคลื่อนที่
  • หลังฉีด 5-7 วัน ให้หลีกเลี่ยงการเผชิญกับความร้อนทุกรูปแบบ
  • หลังฉีด 5 วัน ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • แนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและให้ความอ่อนโยนกับผิว
  • แนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่
  • แนะนำให้รับประทานอาหารกลุ่มโปรตีน วิตามิน เช่น ผักหรือผลไม้

วิธีเช็ก Ultra V Hyal Filler แท้! ดูยังไง

  1. ทุกกล่องต้องปิดอย่างสนิท ไม่มีรอยแกะ หรือเปิดใช้งานมาก่อน
  2. ภายในกล่องต้องมีเอกสารกำกับภาษาไทยและต่างประเทศ
  3. มีวัน/เดือน/ปีที่ผลิต และวันที่หมดอายุแสดงอย่างชัดเจน
  4. มีเลข lot. การผลิตตรงกันทั้ง 4 จุด คือ ที่ตัวกล่อง ซอง สติกเกอร์ และหลอดยา

เลือกฉีด Ultra V Hyal Filler ที่ไหนดี

  • ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ฉีดกับแพทย์ประจำคลินิกที่มีใบประกอบวิชาชีพ และมีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มนี้
  • ฉีดกับคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ที่สามารถให้เรานำกล่องกลับบ้านมาตรวจสอบเองได้
  • ฉีดกับคลินิกที่มีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่ครบครัน ทันสมัย
  • ฉีดกับคลินิกที่สามารถโชว์รีวิวให้เห็นได้หลายรูปแบบ เช่น การไลฟ์สด ภาพ วิดีโอที่ไม่ผ่านการตกแต่ง
  • ฉีดกับคลินิกที่มีช่องทางให้ติดต่อชัดเจน และสามารถติดตามผลหลังทำแบบใกล้ชิด

ฉีดกับอาจารย์หมอเมฆดียังไง

อาจารย์หมอเมฆ หรือเจ้าของฉายา ‘หมอของดารา’ คือหนึ่งในอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง อีกทั้งยังควบด้วยตำแหน่งอาจารย์แพทย์ด้านฟิลเลอร์ ฉะนั้นทุกศาสตร์ในด้านนี้ จึงมีความคุ้นเคยและมีความชำนาญเป็นอย่างดี ในทุก ๆ การรักษาจะมีการวิเคราะห์ ประเมิน วางแผน และดีไซน์การรักษา เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่คนไข้กังวลได้อย่างตรงจุด ฉีดในชั้นผิวที่เหมาะสมกับปัญหา ผสานเข้ากับเทคนิคพิเศษอย่าง “Triple Layers Lift” ที่เป็นการฉีดทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นกระดูก ชั้นไขมัน และชั้นผิวหนังโดยแต่ละเคสก็จะมีการฉีดในชั้นผิวที่แตกต่างกันออกไป จนได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เข้ากับใบหน้าของแต่ละคนอย่างลงตัว

นอกจากนี้แล้ว ที่ตลินิกของเรายังนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน นำเข้ามาจากบริษัทยาโดยตรง สามารถนำกล่องไปตรวจสอบเองได้ทุกกล่องเลยค่ะ พร้อมการันตีผลงานด้วยรางวัลแห่งคุณภาพทั้งระดับประเทศหลายสมัยซ้อน และรางวัลระดับเอเชีย “รางวัลอันดับ 1 ยอดฉีดสูงสุดในเอเชีย” และ “รางวัลอันดับ 1 Single Clinic ที่มียอดฉีดสูงสุดรวมทุกแบรนด์ในประเทศไทย 6 สมัยซ้อน (ปี 2018-2023)”

รวมคำถามที่พบบ่อย

ฉีดด้วยยี่ห้อนี้ดีไหม

จริง ๆ แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเติมเต็มอย่างกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด มีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว เนื่องจากว่ามันเป็นสารที่ใกล้เคียงกับสารที่มีอยู่ในร่างกายของตัวเราเอง และยังสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติอีกด้วย และสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ ก็ยังมีกระบวนการผลิตที่ทำให้สารเติมเต็มมีค่า MoD ที่ต่ำมาก ทำให้เหลือสารตกค้างน้อยและอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เพราะยิ่งสารเติมเต็มมีค่า MoD น้อยมากเท่าไหร่ ก็จะบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าแบรนด์นั้นมีความปลอดภัยต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและรู้เทคนิค รู้ปริมาณการฉีดที่เหมาะสม และต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากอย. ไทยและต่างประเทศมาอย่างถูกต้องด้วยค่ะ

หลังฉีดไปแล้วกี่วันถึงจะเห็นผล

หลังฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เลยทันที* ตั้งแต่ครั้งแรก คนไข้จะรู้สึกว่าใบหน้าดูฟู ดูเต็มขึ้น แต่มันจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากในช่วงแรกอาจมีรอยแดงหรือรอยบวมที่เกิดขึ้นจากเข็มที่ฉีดลงไปในผิว ซึ่งอาการดังกล่าว คนไข้ไม่ต้องตกใจเพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเคส และสามารถหายไปได้เองค่ะ แต่ถ้าผลลัพธ์ที่ชัดเจนจริง ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีด ซึ่งเป็นช่วงที่สารเติมเต็มเริ่มเข้าที่แล้วนั่นเอง

ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปริมาณ cc ที่ใช้ รวมไปถึงรุ่นที่ฉีด เนื่องจากว่าโมเลกุลที่อยู่ในแต่ละรุ่นนั้น ต่างให้คุณสมบัติและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้ค่ะ

  • รุ่น Fine ให้ผลลัพธ์อยู่ที่  6-8 เดือน*
  • รุ่น Medium ให้fผลลัพธ์อยู่ที่  8-16 เดือน*
  • รุ่น Hard ให้ผลลัพธ์อยู่ที่  16-24 เดือน*
    (ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

ฉีดไปแล้วบวมกี่วัน

อาการบวมเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติสำหรับผู้ที่ฉีด ซึ่งมันจะสามารถค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 3-7 วัน แต่ถ้าหากหลังจากนี้แล้ว อาการยังไม่ดีขึ้นหรือเป็นหนักขึ้น ควรกลับเข้ามาพบแพทย์เพื่อพิจารณาหาสาเหตุของการเกิดปัญหาว่า เกิดจากการติดเชื้อหรือไม่ และควรแก้ไขด้วยวิธีการใดจึงจะเหมาะสมค่ะ

อาการบวมจากการฉีด เกิดได้จากอะไรบ้าง

เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยเลยค่ะ แต่ปัจจัยที่สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติคือ จากรอยเข็มที่ฉีดเข้าไป อาการนี้อย่างที่แจ้งไปแล้วว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเคส ไม่ต้องกังวลหรือตกใจไป เพราะมันจะหายได้เองตามธรรมชาติในระยะเวลาของมัน แต่ปัจจัยที่อาจเสี่ยงให้เกิดผลกระทบในระยะยาวก็คือ

  • ฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ไม่ชำนาญ และมีการเลือกใช้ชนิดของสารเติมเต็มไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะฉีด ทำให้เกิดอาการบวมหรือไหลเป็นก้อนได้
  • ฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้ของปลอม เป็นสาเหตุที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่มีประสิทธิภาพ เกิดอาการบวม อักเสบ หรือติดเชื้อขึ้นในอนาคต

หากทราบสาเหตุแล้วว่า อาการบวมเกิดขึ้นจากปัจจัยใด แนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้ทำการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดค่ะ

หลังฉีดแล้วสามารถกินอะไรได้บ้าง

เพื่อให้แผลหายเร็วและดีมากยิ่งขึ้น กลุ่มอาหารที่สามารถกินได้หลังจากฉีดสารเติมเต็มไปแล้ว ได้แก่

  • อาหารที่ให้โปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไก่ หรือถั่วและธัญพืชต่าง ๆ
  • อาหารกลุ่มผักใบเขียว เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดเขียว ผักบุ้ง

นอกจากนี้ ก็ยังมีพวกอะโวคาโด ฟักทอง มะเขือเทศ หรือโยเกิร์ต รวมไปถึงผลไม้ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เกิดการสมานแผล ลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นต่อผิวได้ดี

หลังฉีดแล้วยังไม่ควรกินอะไร

อาหารที่ยังไม่แนะนำให้รับประทานหลังจากฉีด เพราะอาจทำให้เกิดแผลหายช้า หรือมีส่วนเข้าไปกระตุ้นการอักเสบของแผลได้ โดยเฉพาผู้ที่กำลังฉีดบริเวณปาก ซึ่งอาหารที่ยังไม่แนะนำก็ได้แก่

  • อาหารประเภทรสจัด เช่น ยำ ต้มยำ แกง หรืออาหารผัดที่มีรสจัดจ้าน
  • อาหารประเภทกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น แซลมอน ยำกุ้งสด ซาซิมิ
  • อาหารที่มีความร้อน เช่น ชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง

ถ้าถามว่าต้องหลีกเลี่ยงตลอดไปแล้วไหม ไม่ค่ะ แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อนสักประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สารเติมเต็มจะเริ่มเข้าที่ หรือเป็นช่วงที่ผิวเริ่มมีการสมานแผล

ถ้าเกิดการสลายแล้ว สามารถกลับมาฉีดได้อีกไหม

สามารถกลับมาฉีดได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะฉีดยี่ห้อเดิมหรือเปลี่ยนยี่ห้อ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่จะต้องเว้นระยะห่างตามที่แพทย์แนะนำ เพราะการฉีดสารเติมเต็มเป็นหัตถการที่ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้แบบถาวรอยู่แล้ว การที่เราต้องการให้ได้ผลลัพธ์ยาวนานมากยิ่งขึ้น ก็ต้องอาศัยการกลับมาฉีดซ้ำเท่านั้นค่ะ

ฉีดเสร็จแล้วสามารถแต่งหน้าได้ไหม

จริง ๆ แล้ว คนไข้สามารถกลับมาแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ถ้าให้แพทย์แนะนำ ก็จะให้ละเว้นการแต่งหน้าไปก่อนหลังฉีด 24 ชั่วโมงแรก เพราะเป็นช่วงที่รอยเข็มยังคงอยู่บนใบหน้า เมื่อมีการแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง อาจทำให้สิ่งแปลกปลอมจากเครื่องสำอางเหล่านี้ เข้าไปอุดตันบริเวณรอยเข็มได้ค่ะ

สรุป

Ultra V Hyal Filler มีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัว ไม่ซ้ำ และไม่เหมือนใคร พร้อมผสานคุณค่าระหว่าง 2 อนุภาคของ HA เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง ฉีดจุดไหนก็สวยเป๊ะได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตัวเนื้อเจลยึดเกาะกับชั้นผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถคงความสวยของผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน สำหรับใครที่ต้องการฉีด Filler ยี่ห้อนี้ สามารถเข้ามาให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินใบหน้าเบื้องต้นก่อนได้เลยที่คลินิก เราพร้อมให้คำปรึกษาด้านความงามฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย