โครงหน้าของคนเรานอกจากจะมีความแตกต่างกันแล้ว ยังมีลักษณะของปัญหาบนใบหน้าที่ไม่เหมือนกันด้วย เพราะกระดูกเปรียบเสมือนกับโครงสร้างของบ้าน หากมีปัญหา แตกร้าว ทรุดตัว บ้านทั้งหลังก็จะไม่มั่นคง เกิดการพังลงมาได้ หากกระดูกบนใบหน้าเราเกิดการทรุดตัว หรือเกิดการบางลง ย่อมส่งผลทำให้ใบหน้าดูโทรม ในบางจุดดูยุบลงเป็นแอ่ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าผาก เบ้าตา รวมถึงบริเวณขมับ เป็นต้น เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นแล้ว การดูแลรักษาที่ไม่ตรงจุดย่อมไม่สามารถทำให้ปัญหาหายไปได้ มารู้จักสาเหตุของปัญหาชั้นกระดูกทรุดกันดีกว่าค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้ใบหน้าโทรม โครงหน้าเปลี่ยนเกิดจากอะไร
ปัญหาของใบหน้าที่เกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะโครงหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป ผิวที่ดูไม่สดใส หลายจุดเนื้อยุบหายไปกลายเป็นแอ่ง ทำให้หน้าดูไม่เต่งตึง โดยมีหลายปัจจัยสำคัญที่เป็นต้นต่อของปัญหาโครงหน้าที่เปลี่ยนไป ไปดูกันค่ะว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่เป็นต้นเหตุบ้าง
- อายุที่เพิ่มขึ้น อีกปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงผิวหน้าของเราด้วย เพราะเมื่ออายุมากขึ้นระบบการทำงานของร่างกายก็เริ่มถดถอยลง ประสิทธิภาพของการซ่อมแซมผิว รักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็ย่อมเสื่อมลงไปด้วย ทำให้เกิดความแปรปรวนไปทั่วทั้งร่างกาย ผิวจึงหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ผิวหลายจุดเกิดการยุบตัวลงไป
- กระดูกทรุดตัว เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ระบบในร่างกายเริ่มทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้แร่ธาตุ สารอาหารที่จะเข้าไปฟื้นฟูหรือซ่อมแซมทั้งเซลล์ผิวและมวลกระดูกทำได้น้อยลง จึงเกิดอาการของกระดูกที่ทรุดตัว เสื่อมตัวลงตามกาลเวลา ส่งผลให้บริเวณนั้นยุบ หรือบุ๋มลงเป็นแอ่งได้ เช่น กระดูกขมับยุบตัวลง ยิ่งทำให้ขมับตอบ ส่งผลให้หางตาตก คิ้วต่ำลง หน้าจึงดูแข็งไม่ละมุน
- ไขมันฝ่อตัว ใต้ผิวของเรามีส่วนประกอบหลายระดับชั้น หนึ่งในนั้นคือชั้นไขมันเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวพรรณดูเต่งตึง ใบหน้าดูสดใส แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป อายุมากขึ้น ไขมันใต้ชั้นผิวจึงเริ่มฝ่อตัวยุบหายไป ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการทรุดตัวลงเป็นหลุม ใบหน้าจึงดูแก่กว่าวัย
- คอลลาเจนลดลง ปัญหาการลดลงของคอลลาเจนนั้นเป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวไม่กระชับ ไม่สดใส หน้าจึงดูแก่กว่าวัย ไม่เพียงแต่อายุที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยรอบข้างทั้งมลภาวะ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ขัดขวางการสร้างคอลลาเจนใหม่และทำให้คอลลาเจนที่มีอยู่เดิมลดลง
- มลภาวะแวดล้อม อีกสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากคือมลภาวะที่ต้องเผชิญ เพราะผิวหน้าของเราต้องปะทะกับทั้งรังสียูวีที่มากับแสงแดด อากาศที่มีทั้งเชื้อโรค รวมไปถึงฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ มากมาย ทำให้ส่งผลกระทบกับผิวโดยตรง เมื่อสะสมเป็นเวลานาน ๆ จึงแสดงผลออกมาทางผิวได้อย่างชัดเจน
แก้ปัญหาผิวอย่างไร ให้หน้ากลับมาปัง เติมเต็มผิวให้เต่งตึง
มาถึงตรงนี้หลายคนคงเครียดกันแล้วใช่มั้ยคะว่าจะทำอย่างไรดี บางรายจะป้องกันก็ไม่ทันเพราะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเป็นกังวลใจไปค่ะ เราได้รวบรวมวิธีการแก้ปัญหาและฟื้นฟูผิวเบื้องต้นมาไว้ในนี้แล้ว ลองไปเลือกวิธีที่สะดวกและคิดว่าเราทำได้ง่าย เอาไปทำตามกันดูนะคะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ – เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ระบบต่าง ๆ ก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งการหลั่งสารเคมีในสมองก็จะดีขึ้นเป็นปกติ การซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวก็จะดีขึ้นตามไปด้วย เพียงแต่ชั้นไขมันหรือชั้นกระดูกที่ยุบหายไป อาจจะไม่สามารถช่วยให้กลับคืนมาได้อย่างที่ต้องการค่ะ
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ – วิตามิน แร่ธาตุ สารอาหาร ที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ย่อมส่งผลดีกับการฟื้นฟูเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวดูสดใส เต่งตึง รวมไปถึงอาหารที่สามารถช่วยเสริมาร้างกระดูกให้แข็งแรงไม่ทรุดตัวไปมากกว่าเดิม เช่น ปลาทะเล นม และโยเกิร์ต เป็นต้น ถึงแม้จะไม่สามารถช่วยให้กระดูกกลับมาเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังสามารถช่วยชะลอการทรุดตัวให้ช้าลง หรือน้อยลงได้ค่ะ
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสม่ำเสมอ – เป็นการช่วยฟื้นฟูผิวจากภายนอก ป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชื้น นอกจากนั้นการทาครีมกันแดดก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะรังสี UV ได้อีกด้วย ผิวจึงเสมือนได้รับการปกป้องอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย – เช่น แอลกอฮอล์ หรือบุหรี่ เป็นต้น เพราะแอลกอฮอล์และบุหรี่ นอกจากจะส่งผลกับร่างกายแล้ว ยังส่งผลกับการเสื่อมของผิว ทำลายคอลลาเจน รวมไปถึงทำให้ชั้นไขมันเกิดการฝ่อตัวได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนั้นการดูแลป้องกันตัวเองจากแสงแดดและมลภาวะก็เป็นสิ่งจำเป็น อาจจะพกร่ม หรือเสื้อคลุมแขนยาว ออกไปข้างนอกด้วยเสมอ ก็จะพอช่วยได้ในระดับหนึ่ง
การแก้ปัญหาผิวภายนอกเราอาจจะพอทำได้เอง แต่หากใบหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงไป โครงหน้ามีการทรุดตัว ขมับยุบเป็นแอ่ง เราไม่สามารถจะพึ่งพาครีมหรือการทานอาหารได้ เพราะเป็นการฟื้นฟูผิวลึกในชั้นไขมันและชั้นกระดูก ดังนั้นเรามีวิธีที่ดีที่สุด ที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก นั่นก็คือ ฟิลเลอร์ขมับ เป็นการเข้าไปเติมเต็มตั้งแต่ชั้นกระดูก และวางตำแหน่งฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่มีความแตกต่างกัน ช่วยให้ขมับเต็มขึ้น โครงหน้าดูละมุนหวานขึ้น หน้าได้รูปมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผิวดูเต่งตึง กระชับ ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น ที่ Doctor Mek Clinic ดูแลทุกเคสโดย คุณหมอเมฆ อาจารย์แพทย์ด้านฟิลเลอร์ ผู้มีประสบการณ์มากว่า 10 ปี ได้รับรางวัลอันดับ 1 ฟิลเลอร์ 4 สมัยซ้อน และได้รับความไว้วางใจจากคนไข้จริง รวมถึงดาราชั้นนำมากมาย มั่นใจได้ว่าเข้ามาที่นี่จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับไปเสมอ