โบท็อกแขน

การฉีดโบท็อกแขน เป็นหนึ่งในบริการด้านความงามที่จะเข้ามาเป็นทางเลือกดี ๆ ให้กับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาต้นแขนใหญ่ หรือมีกล้ามเนื้อแขนเยอะ ที่แม้จะออกกำลังกายอย่างหนักแล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ให้หายไปได้ ซึ่งการฉีดโบท็อกจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้ดีขึ้นได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที ลดต้นแขนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นอันยาวนาน หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่กลัวการทำศัลยกรรม สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าฉีดแขนอันตรายไหม ต้องใช้กี่ยูนิตถึงจะพอดี หลังทำกี่วันเห็นผล มีค่าบริการราคาเท่าไหร่ คำถามเหล่านี้ สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยค่ะ

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

โบท็อกแขนคืออะไร

โบท็อกแขน คือ เทคนิคการลดกล้ามเนื้อแขนโดยใช้สาร Botulinum toxin A (โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ) ฉีดเข้าไปที่บริเวณต้นแขน จากนั้นมันจะค่อย ๆ ออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อส่วน Biceps เพื่อยับยั้งการทำงานลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อแขนมีขนาดเล็กลง อย่างไรก็ตามหัตถการนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉีดได้ ต้องมาให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยก่อนว่า สาเหตุแขนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับคนไข้ในแต่ละเคสนั้น มาจากอะไร หากเป็นปัญหาที่เกิดมาจากการสะสมของไขมัน แพทย์จะแนะนำเป็นวิธีการสลายไขมัน เช่น เทคโนโลยีสลายไขมันหรือการฉีดเมโสแฟต ไม่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดโบท็อกได้ค่ะ

เช็กกันสักนิด! แขนใหญ่เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่

อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อที่แล้วว่า การฉีดโบแขนไม่สามารถแก้ไขปัญหาแขนใหญ่ได้ทุกรูปแบบ ซึ่งแต่ละเคสก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราลองมาเช็กกันก่อนดีกว่าค่ะว่า ปัญหาต้นแขนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เมื่อทราบแล้วก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ 1 : แขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ

สาเหตุนี้มักเกิดขึ้นได้จากการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณแขนมากเกินไป ติดกันเป็นระยะเวลานาน เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกายอย่างหนัก ส่งผลให้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ดูแข็งแรงและใหญ่มากยิ่งขึ้น วิธีการสังเกตก็คือ เมื่อสัมผัสไปที่ต้นแขนจะรู้สึกได้เลยว่าเนื้อผิวในบริเวณนั้นค่อนข้างแข็ง หรือบางรายอาจมีมัดกล้ามเนื้อปูดออกมา จะไม่ได้ดูนุ่มนิ่มเหมือนกับการมีไขมันสะสม ซึ่งวิธีการแก้ไขทางการแพทย์ก็คือ การผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรม หรือการฉีดโบลดกล้ามแขนนั่นเองค่ะ

สาเหตุที่ 2 : แขนใหญ่จากไขมันสะสม

เป็นสาเหตุและปัญหาที่พบได้บ่อยมากเลยล่ะค่ะ ซึ่งมักเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีจำพวกแป้ง ไขมัน หรือน้ำตาล ในปริมาณที่มากจนเกินไป จนยากต่อการเผาผลาญ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มักจะเกิดปัญหาไขมันสะสมตามจุดต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ถามว่า แล้วเราจะดูได้อย่างไรว่าเป็นไขมันหรือกล้ามเนื้อ วิธีการสังเกตก็คือ ให้เราเอามือมาสัมผัสบริเวณต้นแขน หากรู้สึกว่ามันเป็นเนื้อที่ค่อนข้างนิ่ม ไม่ได้แข็งมาก หรือลองยกแขนขึ้นเป็นมุมฉาก แล้วออกแรงแกว่งแขน เนื้อผิวในบริเวณนั้นจะย้วยไปย้วยมา ดูไม่แน่นกระชับ นี่แหละค่ะคือปัญหาที่เกิดจากไขมันสะสม สำหรับเทคนิคทางการแพทย์จะแนะนำเป็นการใช้กลุ่มเทคโนโลยีสลายไขมัน เช่น SculpSure และการฉีดสลายไขมันเมโสแฟต

สาเหตุที่ 3 : แขนใหญ่จากกล้ามเนื้อและไขมันสะสม

บางรายไม่ใช่แค่ไขมันสะสม หรือกล้ามเนื้อเยอะเพียงเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่ผสมผสานระหว่างสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน ซึ่งก็พบได้บ่อยมากเช่นกัน เป็นปัญหาที่ลดความมั่นใจของสาว ๆ ลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว สามารถสังเกตได้จากแขนที่ดูมีความหย่อนคล้อย หรือมีกล้ามเนื้อปูดออกมาร่วมด้วย เทคนิคทางการแพทย์ที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ก็ต้องมาให้แพทย์ช่วยประเมินว่าในต้นแขนของเรามีปริมาณกล้ามเนื้อหรือไขมันเยอะกว่ากัน ซึ่งมันก็สามารถรักษาร่วมกันได้ทั้งการฉีดโบลดต้นแขน การฉีดแฟตหรือการสลายไขมันด้วยคลื่นพลังงาน

ฉีดโบท็อกแขน เหมาะกับใครบ้าง

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาแขนใหญ่ ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อแขน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดต้นแขนด้วยวิธีการรักษาที่รวดเร็ว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดกล้ามแขน แต่กลัวการผ่าตัดหรือไม่มีเวลาพักฟื้น
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีสไตล์การแต่งตัวที่โชว์ต้นแขน หรือชอบใส่แขนกุด

โบท็อกแขนควรฉีดเมื่อไหร่ดี

หลายคนเกิดความสงสัยว่า อายุเท่าไหร่จึงจะสามารถฉีดโบท็อกแขนได้ หรือควรฉีดเมื่อไหร่ ตอนไหนดี สำหรับบริเวณต้นแขก หากต้องการฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อ ส่วนมากจะนิยมฉีดได้ตั้งแต่ในช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่แล้วนั่นเองค่ะ หากใครที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปแล้ว กำลังมีปัญหากล้ามเนื้อแขนเยอะ ไม่สามารแก้ไขได้ด้วยการออกกำลังกาย สามารถเข้ามาพูดคุยสอบถามหรือให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาได้เลยค่ะ ว่าควรใช้จำนวนกี่ยูนิต หรือต้องกลับมาฉีดซ้ำอีกเท่าไหร่ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ

Before & After

จากภาพจะเห็นได้ว่า ก่อนฉีดแขนจะดูใหญ่และเห็นกล้ามเนื้อแขนได้อย่างชัดเจน ซึ่งหลังจากฉีด botox แขน ไปแล้ว แขนจะดูเล็กลง อีกทั้งยังทำให้ขนาดตัวดูเล็กลงไปด้วย เพราะมันมีส่วนช่วยลดความกว้างบริเวณบ่าลงได้ (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

รีวิวความประทับใจจากคนไข้จริงที่มาใช้บริการฉีดโบท็อกแขน

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งจากผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการฉีด botox แขนที่คลินิกของเรา ซึ่งคนไข้หลายท่านต่างให้ความเห็นตรงกันว่า หลังฉีดไปแล้ว ทำให้กล้ามเนื้อแขนมีขนาดเล็กลง เวลาจะสวมใส่เสื้อผ้าก็รู้สึกมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ฉีดโบท็อกแขน ราคาเท่าไหร่

การทำหัตถการโบท็อกแขน ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 4,999บาท* ทั้งนี้ค่าบริการอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีปัญหามากน้อยขนาดไหน เลือกใช้ยี่ห้ออะไรในการรักษา ใช้จำนวนกี่ยูนิต เช่น หากใช้โบจากอเมริการาคาก็จะค่อนข้างสูงกว่าโบเกาหลี ด้วยประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น แพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษาในแต่ละเคสให้อย่างเหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคนค่ะ

ฉีดโบท็อกแขน ยี่ห้อไหนดี

สำหรับโบท็อกลดต้นแขน สามารถเลือกใช้ได้หลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทยและต่างประเทศ เพราะแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ยังมีราคาที่ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้น การจะเลือกสักยี่ห้อเพื่อนำมาฉีดโบท็อกแขนนั้น คงต้องพิจารณาควบคู่ไปกับแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ แต่สำหรับโบท็อกที่แพทย์ส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ลดกล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนก็จะเป็น

Dysport โบอังกฤษ – โบยี่ห้อนี้ มีคุณสมบัติเด่น ๆ เลยก็คือ ตัวยาที่มีโมเลกุลค่อนข้างเล็กมาก ทำให้ตัวยาสามารถกระจายตัวได้เป็นวงกว้าง แพทย์จึงนำมาใช้รักษาในตำแหน่งกว้างอย่างเช่น น่อง ต้นแขน เพื่อให้มีขนาดเล็กลง หรือนำมาฉีดยกกระชับใบหน้า ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้ราว ๆ 4-6 เดือน

Xeomin โบเยอรมัน – เป็นโบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่มีความบริสุทธิ์ค่อนข้างสูง และยังมีโอกาสดื้อยาน้อยมาก มาพร้อมกับโมเลกุลขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพสูงในการกระจายตัว ฉีดแล้วไม่ตึงจนเกินไป เหมาะสำหรับนำมาลดกล้ามเนื้อแขน ปรับรูปหน้า ลดกราม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

นอกจากนี้ ก็ยังมียี่ห้ออื่น ๆ อย่าง Nabota , Aestox ที่เป็นโบนำเข้าจากประเทศเกาหลี ราคาก็จะค่อนข้างถูกกว่าโบที่มาจากฝั่งอเมริกาและยุโรป ทั้งนี้ คนไข้สามารถพูดคุยขอคำแนะนำจากแพทย์ได้เลยค่ะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ

  • ก่อนเข้ารับบริการ 1 สัปดาห์ งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด
  • ก่อนเข้ารับบริการ 3-5 วัน งดใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่มีส่วนผสมของ AHA, กรดวิตามิน A
  • ก่อนเข้ารับบริการ 2-3 วัน หลีกเลี่ยงการสครับผิว ขัดผิว เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ามาใช้บริการ 24 ชั่วโมง
  • หากใครที่มีโรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยา หรือต้องรับประทานยาเป็นประจำ ควรแจ้งรายละเอียดให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนใช้บริการ

การดูแลตัวเองหลังใช้บริการ

  • หลังฉีดสามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ตามปกติ แต่แนะนำให้สัมผัสอย่างเบามือบริเวณที่ฉีด
  • หลังฉีด 3 วันแรก ให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมหนัก ๆ
  • หลีกเลี่ยงการเผชิญกับความร้อน เช่น แสงแดด การเล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะอาจทำให้ Botox สลายตัวได้
  • งดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด หรืออาหารประเภทกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยเข็มหายช้าหรือเกิดการอักเสบได้

ข้อดีและข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกแขน

ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกแขน สิ่งที่เราควรรู้และควรทำความเข้าใจเลยก็คือ ข้อดีและข้อเสียหรือข้อควรระวังในการทำหัตถการ เพื่อความปลอดภัยและให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

ข้อดีของการใช้บริการ

  • เป็นหัตถการที่สามารถแก้ไขปัญหาต้นแขนใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • หลังทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงติดเชื้อ (หากได้รับการดูแลโดยแพทย์)

ข้อควรระวังในการใช้บริการ

  • ผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ได้แบบถาวร ต้องอาศัยการกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ให้ยาวนาน
  • ต้นแขนเป็นบริเวณที่ต้องใช้จำนวนยูนิตค่อนข้างมากกว่าบริเวณอื่น ๆ
  • หากได้รับการรักษากับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดอันตรายได้
  • สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่ให้นมบุตร ไม่แนะนำให้ใช้บริการ
  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อก

ฉีดโบท็อกแขนอันตรายไหม

การฉีดโบท็อกแขนไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญในการฉีดโบท็อด เนื่องจากมันเป็นสารที่ถูกการวิจัยและทดลองโดยแพทย์จากทั่วโลกแล้วว่า สามารถนำมาแก้ไขปัญหาลดกล้ามเนื้อแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ไว้ในร่างกาย ซึ่งหลาย ๆ ยี่ห้อ ก็ยังผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในต่างประเทศ รวมไปถึงประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่สามารถฉีดได้ โดยมีแพทย์ผู้มีองค์ความรู้และทักษะด้านการฉีดโบท็อกเป็นผู้ดูแล

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่แม่นยำ ควรฉีดโบท็อกแขนที่ไหนดี

  1. เลือกคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีใบประกอบกิจการและใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาล
  2. เลือกคลินิกที่มีแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถด้านการฉีดโบท็อก ที่มีใบวิชาชีพอย่างถูกต้อง
  3. เลือกคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกที่ได้มาตรฐาน เป็นของแท้ และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง
  4. เลือกคลินิกที่มีรีวิวจากผู้มาใช้บริการ
  5. เลือกคลินิกที่มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจนในทุก ๆ ช่องทาง

เลือกฉีดโบท็อกแขนที่คลินิกของเรา ดีอย่างไร

เราเป็นคลินิกที่เปิดให้บริการด้านความงามแบบครบวงจร ที่ช่วยฟื้นฟู ดูแล แก้ไข ได้ตั้งแต่ใบหน้าจรดสัดส่วนต่าง ๆ อย่างการฉีดโบท็อกแขนที่นี่ ก็พร้อมให้บริการภายใต้มาตรฐานคุณหมอเมฆ แพทย์ผู้มีองค์ความรู้และทักษะด้านการฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกที่มีความชำนาญในการประเมิน พร้อมออกแบบการรักษาแบบรายบุคคลให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม และตอบโจทย์กับความต้องการของผู้มาใช้บริการ ด้วยคุณภาพการรักษาที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก อย.ทุกชิ้น จนได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยไปในเวลาเดียวกัน จนได้รับรางวัลคุณภาพระดับเอเชีย

คำถามที่พบบ่อย

หลังฉีดมีผลข้างเคียงหรือไม่

ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการฉีดโบท็อก ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและสามารถหายได้เอง เช่น อาการตึง ๆ บริเวณที่ฉีด หรือมีรอยแดง รอยเขียวช้ำจากเข็มที่ฉีดเข้าไป อาการเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายค่ะ

หลังฉีดโบผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม

หลังฉีดครั้งแรกลดลงได้ประมาณ 20-30% ซึ่งมันจะโชว์ผลลัพธ์ให้เห็นอย่างเต็มที่ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และสามารถคงอยู่ได้ราว ๆ 4-6 เดือน แต่ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนค่ะ หากคนไข้ต้องการให้กล้ามเนื้อแขนยุบลงมากยิ่งขึ้น ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์เท่านั้น

ฉีดโบที่แขนควรฉีดกี่ยูนิต

การฉีดโบที่บริเวณแขนของแต่ละคน อาจมีการใช้จำนวนยูนิตที่ไม่เหมือนกันค่ะ เนื่องจากว่าแต่ละคนมีกล้ามเนื้อในปริมาณที่ไม่เท่ากัน ซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยและประเมินการรักษาให้เป็น case by case แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว บริเวณต้นแขนจะใช้ประมาณ 200 ยูนิตต่อการทำ 1 ครั้งค่ะ

ใครที่กำลังเสียเซลฟ์กับปัญหาต้นแขนใหญ่ กล้ามเนื้อเยอะ สามารถกู้คืนความมั่นใจได้ด้วยการฉีดโบท็อกแขน หนึ่งในนวัตกรรมที่ทางการแพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับว่าสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับ Botox สามารถแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ

บทความโดยแพทย์ Doctor Mek Clinic