ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

 

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

หัตถการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว แก้ปัญหาผิวซึ่งเป็นสิ่งที่ลดทอนความมั่นใจได้ง่ายที่สุด จึงเข้ามาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้คนยุคใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะคุณสมบัติของมันช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนไม่กระชับ ผิวหมองคล้ำ ใบหน้าดูโทรมไม่สดใส หรือแม้แต่ปัญหาแต่งหน้าไม่ติด ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบ สิ่งเหล่านี้สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการฉีดสารเติมเต็ม หัตถการที่ใช้เวลาทำเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถมอบคุณภาพผิวที่ดีขึ้นได้ในระยะยาว มีความปลอดภัย ที่วงการแพทย์ผิวหนังด้านความงามต่างให้การยอมรับทั่วโลก

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวคืออะไร

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คือ การฉีดสารเติมเต็มที่มี Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งสารชนิดนี้มีโมเลกุลขนาดเล็ก มาพร้อมคุณสมบัติเด่นคือ สามารถอุ้มน้ำได้ดี ดังนั้น เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว มันจึงช่วยแก้ไขปัญหาผิว กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในใต้ชั้นผิวได้อย่างยาวนาน ส่งผลให้ผิวเกิดความอิ่มฟู ดูยืดหยุ่น เต่งตึง และดูเรียบเนียน พร้อมมอบคุณภาพผิวที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป สารชนิดนี้ก็สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย มันจึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมด้านงานผิวที่มีความปลอดภัยสูง

ฟิลเลอร์ฉีดเพื่อปรับสภาพผิว ช่วยแก้ไขปัญหาผิวด้านไหนบ้าง

  • ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยกระชับรูขุมขนกว้างให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน
  • ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
  • ช่วยเติมเต็มให้ดูหน้าฉ่ำวาว มีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น
  • สามารถเติมเต็มรักษาหลุมสิวได้ในบางกรณี (แพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษารายบุคคล)
  • ช่วยแก้ไขรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ และหลังมือ

การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวเหมาะกับใครบ้าง

หัตถการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวโทรม ดูไม่สดใส หรือผู้ที่มีปัญหาผิว ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ ดูแห้งกร้านไม่ชุ่มชื้น
  • ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง มีหลุมสิว ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่มีปัญหาความหมองคล้ำ ผิวหน้าโทรม
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับและเต่งตึง
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องมุมปาก ริ้วรอบหน้าผากหรือร่องใต้ตา

Before & After

จากรูปจะเห็นได้ว่าทั้งสองข้างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ภาพก่อนทำผิวหน้าจะดูแห้งกร้าน สีผิวไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังดูหมองคล้ำ ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยโทรมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์แล้วนั้น ผิวเริ่มมีความกระชับ พื้นผิวดูเรียบเนียนเปล่งปลั่ง *ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวจากคนไข้จริง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของผู้ที่เข้ามาใช้บริการฉีดเพื่อปรับสภาพผิวที่คลินิกของเรา ซึ่งหลายคนให้ความพึงพอใจต่อผลลัพธ์ที่ได้ไป หลังฉีดไปแล้ว คุณภาพผิวดีขึ้น แข็งแรงขึ้นจากเติม แต่งหน้าติดทนนานไม่เป็นขุย พร้อมส่งต่อความประทับใจกันแบบปากต่อปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวราคาเท่าไหร่

การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 9,990 บาท* ซึ่งก่อนทำหัตถการ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษาให้แบบรายบุคคล เพื่อพูดคุยรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับยี่ห้อที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ตามความเหมาะสมกับผิวหน้าของแต่ละคนค่ะ ในบางช่วงราคาก็อาจจะร่วมกับโปรโมชั่นพิเศษที่ทางคลินิกจัดขึ้นตามเทศกาลต่าง ๆ สามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดก่อนได้ ตามช่องทางการติดต่อของคลินิกได้เลยค่ะ

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

การปรับสภาพผิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้ทั่วทั้งใบหน้า หรือใครที่ต้องการแก้ไขปัญหาบริเวณไหนมากเป็นพิเศษ ก็สามารถให้แพทย์เน้นย้ำเฉพาะจุดได้เช่นเดียวกัน สำหรับตำแหน่งที่ผู้คนนิยมฉีดเพื่อปรับสภาพผิว ได้แก่

  • ใบหน้า – เติมเต็มความชุ่มชื้น ปรับหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียนดูอ่อนวัย
  • รอบดวงตา – เพื่อแก้ไขปัญหารอบตาหมองคล้ำ ลดริ้วรอยหรือตีนกาบริเวณรอบดวงตา
  • หน้าผาก – ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยบริเวณหน้าผาก
  • ปาก – ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณริมฝีปากหรือมุมปาก
  • ลำคอ – ปรับพื้นผิวบริเวณลำคอให้ดูเรียบเนียน
  • หลังมือ – แก้ไขปัญหามือหย่อนคล้อย เหี่ยวแห้งให้กลับมามีสุขภาพดี
ตำแหน่งการฉีดเพื่อปรับสภาพผิว

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

  • เริ่มแรกแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิว พร้อมเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน
  • หากคนไข้ที่แต่งหน้ามาใช้บริการ จะมีการทำความสะอาดใบหน้า เพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอม ปนเปื้อนไปในระหว่างฉีด
  • หลังจากคลีนผิวหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการแปะยาชา
  • เมื่อยาชาออกฤทธิ์ได้ที่ แพทย์จะเริ่มฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ
  • หลังจากฉีดเสร็จ แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองและการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมต่อผลลัพธ์

การเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์และคลินิกที่จะเข้าไปใช้บริการอย่างละเอียด
  • ก่อนเข้ารับบริการ งดรับประทานยาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว
  • ก่อนเข้ารับบริการ 3-5 วัน งดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก
  • งดแว็กซ์ขน หรือสครับผิวตรงบริเวณที่ฉีด
  • งดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนใช้บริการ
  • ใครที่มีโรคประจำตัว มีอาการแพ้ยา หรือต้องรับประทานยาทุกวัน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ

การดูแลหลังทำหัตถการ

  • หลังทำ 48 ชั่วโมง แนะนำให้อยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการเผชิญความร้อนทุกรูปแบบ เช่น อยู่หน้าเตาร้อน อยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิว เช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก การสัมผัสหน้าแรง ๆ
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ทุกชนิดเป็นเวลา 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทรสจัด ของหมักดอง อาหารดิบ และอาหารที่ให้ความร้อน
  • ควรรับประทานอาหารที่เน้นโปรตีน ผัก และผลไม้ เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็วจะชัดเจน

ข้อดีของการปรับสภาพผิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์

  • สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
  • เป็นหัตถการที่ใช้ระยะเวลาทำไม่นาน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น กลับไปทำงาน ช็อปปิ้งหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • สารเติมเต็มมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  • หากไม่พอใจในผลลัพธ์ ให้แพทย์ฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้เลย โดยไม่เป็นอันตรายกับชั้นผิว

ข้อควรระวังในการปรับสภาพผิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์

  • ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้แบบถาวร หากต้องการให้ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ไปนาน ๆ ต้องกลับมาฉีดซ้ำ
  • ระมัดระวังเรื่องฟิลเลอร์ปลอม หรือการใช้สารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • ระมัดระวังคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีประสบการณ์ด้านการรักษา อาจทำให้ฟิลเลอร์ไหล เป็นก้อน บวมหรือเกิดการอักเสบติดเชื้อ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะดังนี้

  • ลักษณะที่พบได้ทั่วไป ไม่เป็นอันตราย: ผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ในทุก ๆ เคส คือ หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดง หรือรอยช้ำจากเข็มเพียงเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งมันจะหายไปเองภายใน 7-14 วัน ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชั้นผิวและร่างกาย สามารถรับประทานยาแก้ปวด ยาลดบวม หรือรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
  • ลักษณะที่ผิดปกติ ก่อให้เกิดอันตราย: อย่างที่กล่าวไปในข้อแรกว่า ผลข้างเคียงจะหายไปได้เองภายใน 7-14 วัน หากใครที่พ้น 14 วันไปแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ผสานกับการอักเสบ ติดเชื้อ ฟิลเลอร์ไหล เป็นก้อนร่วมด้วย ให้รีบกลับมาพบแพทย์เพื่อสืบหาสาเหตุพร้อมวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม สำหรับปัญหาดังกล่าว สามารถพบได้จากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน หรือเกิดจากแพทย์ที่ฉีดผิดตำแหน่ง ไม่มีความชำนาญ

ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวยี่ห้อไหนดี

การเลือกยี่ห้อสำหรับฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวมีผลต่อการรักษามากเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่ฟิลเลอร์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ทั้งหมด ดังนั้น ทุกการรักษาควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินให้อย่างละเอียดจะดีที่สุด สำหรับยี่ห้อที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการนำมาช่วยปรับสภาพผิวที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทย ได้แก่

Belotero

มาที่ยี่ห้อแรกกับฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปที่สุด ณ ขณะนี้เลยล่ะค่ะ สำหรับรุ่น Revive กล่องสีเขียว ที่เป็นฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลก ที่ผสานคุณค่าระหว่าง Hyaluronic Acid และ Glycerol ไว้ด้วยกัน มันจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ผิวฉ่ำวาว มีความยืดหยุ่น แข็งแรง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กระชับรูขุมขน พร้อมมอบผิวที่ดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9 เดือน โดยในปัจจุบันยังได้รับความนิยมมาก และถูกจำหน่ายใช้ในวงการความงามแล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

Restylane

Restylane

ต่อมาที่ไม่แนะนำไม่ได้เลยคือ ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน ซึ่งในรุ่น Vital Light ที่ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA technology ทำให้สารเติมเต็มมีความคงตัวสูงแ ละไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หลังฉีด ทำให้รุ่นนี้ เนื้อสารเติมเต็มค่อนข้างละเอียด มีอนุภาคเล็ก มีประสิทธิภาพในการอุ้มน้ำได้ดี ช่วยลดความหมองคล้ำบริเวณใต้ตา อีกทั้งยังบูสท์ผิวหน้าให้ดูกระจ่างใสมีออร่ามากยิ่งขึ้น ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 6-12 เดือน

Juvederm

Juvederm

และสุดท้ายเป็นยี่ห้อที่ได้รับความสนใจมาอย่างยาวนาน สำหรับฟิลเลอร์สัญชาติสหรัฐอเมริกา ในรุ่น Volite ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี Vycross Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ทำให้โมเลกุลของสารเติมเต็มบวมน้ำน้อยลง ให้ผลลัพธ์เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ Volite เป็นรุ่นที่เนื้อละเอียดและเล็กที่สุดในทุกรุ่นของยี่ห้อนี้เลยค่ะ มีความบางเบา จึงสามารถนำมาเติมเต็มเพื่อให้ความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตาให้ผิวดูฉ่ำวาวสุขภาพดี

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวไม่เป็นอันตรายแต่อย่างไร เพราะส่วนประกอบของมันเป็นสารจากธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว ดังนั้น มันจึงมีความปลอดภัยต่อผิว ฉีดไปแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริงหากได้รับการดูแลภายใต้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า รวมไปถึงมีความชำนาญด้านโครงสร้างผิวอย่างแท้จริง สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือชนิดของสารเติมเต็มได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน มีเทคนิคการรักษาที่แก้ไขฟื้นฟูได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ เมื่อฟิลเลอร์สลายไปแล้ว ยังไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ไว้ในร่างกายอีกด้วยค่ะ

ข้อควรพิจารณาในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวที่ไหนดี

ในปัจจุบันมีคลินิกที่ได้มาตรฐานและคลินิกเถื่อน รวมไปถึงหมอเถื่อนอยู่ปะปนในแวดวงความงาม ที่หากมองด้วยตาเปล่า เราแทบไม่ทราบเลยว่าใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวที่ไหนถึงจะให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยต่อตัวเราจริง ๆ ดังนั้น วิธีการสังเกตง่าย ๆ ทั้งหมด 5 ข้อ ที่มือใหม่ก็สามารถนำไปสังเกตคลินิกต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลยค่ะ

  1. คลินิกที่ได้มาตรฐาน – คลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องมีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข พร้อมแสดงรายละเอียดของผู้ประกอบวิชาชีพโชว์ให้เห็นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ภายในจะต้องมีความสะอาด มีกลิ่นหอมไม่เหม็นอับ
  2. แพทย์ที่มีประสบการณ์ – แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพในด้านนั้น ๆ อย่างชัดเจน โดยเราสามารถไปเช็กรายชื่อได้จากเว็บไซต์แพทยสภา ไม่เพียงแค่นั้นเพราะแพทย์จะต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการปรับสภาพผิว ปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ สามารถใช้เทคนิคที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เกิดอาการบวมช้ำน้อยที่สุด และไม่เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ไม่เรียบเนียน
  3. เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ มีคุณภาพ – ของแท้สามารถตรวจสอบได้จากบริเวณตัวกล่องและด้านในกล่อง ซึ่งบางยี่ห้อจะสามารถสแกน qr code เพื่อยืนยันการใช้ของแท้ได้ หรือบางยี่ห้อจะมีเลข lot ระบุอย่างชัดเจน โดยที่ผู้เข้ารับบริการสามารถนำเลขดังกล่าวไปตรวจสอบได้จากบริษัทผู้นำเข้า
  4. มีรีวิวจากผู้มาใช้บริการจริง – สามารถดูรีวิวจากผู้มาใช้บริการจริงรวมไปถึงการพิจารณาผลการรักษาในหัตถการนั้น ๆ ว่าให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร มีปัญหาตามมาหรือไม่ ซึ่งรีวิวจะต้องมีทั้งในรูปแบบภาพ วิดีโอ รวมไปถึงการไลฟ์สดที่ไม่ผ่านการตัดต่อและไม่มีการตกแต่งรูปภาพ
  5. มีช่องทางการติดต่อชัดเจน – ทุกคลินิกจะต้องมีช่องทางที่สามารถให้ผู้เข้ารับบริการติดต่อได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น line, facebook, Instagram หรือเบอร์โทรศัพท์

จุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวกับคลินิกของเรา

หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้การฉีดฟิลเลอร์กับคุณหมอเมฆ ที่คลินิกของเรา ไม่เหมือนใครก็คือ ที่นี่มีเทคนิคการฉีดแบบพิเศษ Triple Layer Lift เป็นเทคนิคการรักษาที่สามารถแก้ไขและจัดการได้ถึงต้นตอของปัญหาแบบรายบุคคล เพราะแพทย์จะมีการฉีดทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่ ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน และชั้นกระดูกที่เป็นชั้นที่ลึกที่สุด ที่ต้องใช้ความชำนาญของผู้รักษาอย่างแท้จริง จึงจะได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยมาควบคู่กัน

แน่นอนว่าในทุก ๆ เคส ก็จะมีการฉีดที่แตกต่างกันออกไปอีก เนื่องจากว่าแพทย์จะมีการประเมินสภาพผิว พร้อมวิเคราะห์ปัญหาผิวว่าแต่ละคนที่เข้ามาใช้บริการ มีปัญหาจุดใด ต้องการแก้จุดไหน และมีปัญหาในระดับลึกมากน้อยแค่ไหนในแต่ละเคส จึงมีความจำเป็นที่แพทย์ต้องวิเคราะห์กันแบบละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดและเหมาะสมที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

ควรใช้กี่ CC ถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง

โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละเคสจะอยู่ที่ประมาณ 1 cc ค่ะ ในครั้งแรกสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้เลยทันที อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่ใช้ในแต่ละเคสอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าสภาพผิวมีปัญหามากน้อยแค่ไหน หากมีปัญหาในระดับที่ค่อนข้างมาก แพทย์อาจจะเลือกใช้ปริมาณที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการผสมผสานร่วมกับหัตถการงานผิวอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั่นเองค่ะ

ฉีดแล้วผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันทีประมาณ 80% สัมผัสได้ว่าผิวดูเรียบเนียน อิ่มเอิบขึ้น ซึ่งภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งชัดเจนขึ้นและคงสภาพอยู่ได้นาน 6-12 เดือน บางรายอาจอยู่ได้มากสุดถึง 2 ปี เมื่อสารเติมเต็มถูกสลายไปตามธรรมชาติ แต่คอลลาเจนยังอยู่ภายในร่างกาย ดังนั้น สุขภาพผิวของคนไข้จะมีคุณภาพดีขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดค่ะ

ฉีดปรับสภาพผิวจะรู้สึกเจ็บไหม

คนไข้อาจรู้สึกเล็กน้อยในขณะที่สารเติมเต็มกำลังเข้าสู่ใต้ชั้นผิว แต่มันจะเป็นระดับความเจ็บที่สามารถทนได้ เพราะก่อนฉีด แพทย์จะทำการแปะยาชาเพื่อลดอาการบาดเจ็บอยู่แล้ว อีกทั้งสารเติมเต็มบางชนิดก็ยังมีส่วนผสมของยาชาปนอยู่ด้วย หากคนไข้กลัวเจ็บสามารถแจ้งแพทย์ให้ประคบเย็นระหว่างทำการรักษาได้เลยค่ะ

หลังฉีดบวมกี่วัน

หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดงเกิดขึ้นจากรอยเข็มที่ฉีดเข้าไป แต่ไม่ต้องตกใจหรือเป็นกังวลไปนะคะ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมันจะค่อย ๆ หายไปได้เองภายใน 7-14 วัน ในระหว่างนี้ คนไข้สามารถรับประทานยาลดบวม ยาแก้ปวด หรือรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้เลยค่ะ

หลังทำสามารถแต่งหน้าได้ไหม

แพทย์แนะนำว่า หลังฉีด 24 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมที่มาจากเครื่องสำอาง มาสัมผัสกับผิวหน้า หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้หน้าจริง ๆ ก็สามารถแต่งได้ตามปกติ โดยเว้นระยะหรือหลีกเลี่ยงพื้นผิวบริเวณที่มีรอยเข็มค่ะ

สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม

สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น การทำทรีทเม้นต์ หรือหัตถการที่เกี่ยวกับงานผิว ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำว่าสุขภาพผิวของแต่ละท่าน สามารถทำร่วมกับหัตถการชนิดใดได้บ้าง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ในบางเคสที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก แพทย์ก็จะแนะนำให้ฉีดแค่ฟิลเลอร์ก็เพียงพอแล้วค่ะ

สรุป

หนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการคืนคุณภาพผิวอย่างเร่งด่วนกับฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว นวัตกรรมแห่งการฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก สามารถมอบความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาว อิ่มน้ำ ปรับผิวให้สม่ำเสมอ พร้อมลดเลือนริ้วรอยร่องลึกเล็ก ๆ ให้ตื้นขึ้น เผยผิวที่ดูเรียบเนียนได้อย่างยาวนาน สำหรับใครที่กำลังสนใจฉีด Filler เพื่อปรับปรุงคุณภาพผิวสามารถเข้ามาขอคำปรึกษาพร้อมรับการประเมินใบหน้าฟรีกับทีมแพทย์ของทางคลินิกได้เลยค่ะ

หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ  สามารถแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)​
แพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์