โบท็อกไมเกรน - Botox Migraine

รู้จักกับ Botox migraine หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า “โบท็อก” นอกจากจะมีคุณสมบัติในเรื่องลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อ ปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ กระชับรูขุมขน ลดกล้ามเนื้อแขนและน่อง ซึ่งเป็นหัตถการที่ใช้ในเรื่องความงามได้แล้ว ยังสามารถใช้ป้องกันและลดอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วย หรือที่เรียกว่า “โบท็อกไมเกรน” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ดี ช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ ช่วยให้คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขขึ้น ไม่ต้องทุกข์ทรมานกับอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงที่อาจทำให้ต้องขาดเรียน หยุดงาน นอนไม่หลับ ไปไหนมาไหนไม่ได้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลง วันนี้ เราจะพาทุกคนมาไขความลับของการฉีดโบไมเกรน ว่าช่วยให้ไมเกรนที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้อย่างไร ต้องฉีดตรงไหน อันตรายไหม กี่วันเห็นผล ต้องฉีดกี่ครั้ง แล้วราคาแพงไหม ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ถ้าอยากฉีดจะเลือกที่ไหนดี ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวเราไปติดตามข้อมูลทั้งหมดกันได้เลยค่ะ
โบท็อกไมเกรน (Botox migraine) คืออะไร ช่วยรักษาไมเกรนได้อย่างไร
โบท็อกไมเกรน (Botox migraine) คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) เพื่อคลายกล้ามเนื้อและยับยั้งปลายประสาท ที่เป็นตัวส่งสัญญาณความเจ็บไปยังสมองที่มีต่อกล้ามเนื้อ ซึ่งจะส่งผลให้กล้ามเนื้อมีการคลายตัวลง และทำให้อาการปวดศีรษะไมเกรนบรรเทาลงด้วย โดยการฉีดโบไมเกรนจะช่วยป้องกันและลดระดับความรุนแรง รวมถึงความถี่ของอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วยค่ะ หลังการรักษาแล้ว คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกสบายขึ้น และบางรายอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งการรับประทานยาแก้อาการปวดหัวไมเกรน หรือลดการใช้ยาลง ซึ่งจะส่งผลดีในแง่ของช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่มีต่อร่างกาย เช่น ตับ, กระเพาะอาหาร และไต ที่เกิดจากการรับประทานยามากเกินความจำเป็นค่ะ
โรคปวดหัวไมเกรนคืออะไร
โรคปวดหัวไมเกรน (Migraine) คือ ภาวะที่ส่งผลให้คนไข้มีอาการปวดหัวรุนแรงในระดับปานกลางไปจนถึงมาก และเป็นอาการที่เกิดขึ้นแบบเรื้อรัง หรือปวดหัวอย่างน้อย 14 วันขึ้นไปต่อเดือน ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ และมักพบว่าเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งภาวะนี้เป็นหนึ่งในโรคทางประสาทวิทยา ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบรุนแรงเป็นจังหวะ มีอาการปวดที่เกิดขึ้นครั้งละนาน ๆ หรือบางคนอาจปวดแบบข้ามวัน หรือตั้งแต่ 4-72 ชั่วโมงเลยค่ะ นอกจากนี้ คนไข้บางรายอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมกับอาการปวดศีรษะอีกด้วย ส่งผลให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบาก และหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไม่เข้ารับการรักษาก็จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย
ปวดหัวไมเกรนเกิดจากอะไร
ปวดหัวไมเกรน เกิดจากความผิดปกติเกี่ยวกับสารเคมีที่อยู่ในสมองของเรา รวมถึงการสื่อกระแสในสมอง และการทำงานของหลอดเลือดในสมองมีความผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งภาวะอาการปวดหัวไมเกรนอาจส่งต่อผ่านทางพันธุกรรม หรือกรรมพันธุ์ได้ด้วย นอกจากนี้ อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือปวดหัวไมเกรนกำเริบได้ค่ะ ที่เกิดขึ้นตามประสาทสัมผัสต่าง ๆ ทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย และจิตใจ เช่น แสงจ้าที่ส่องมาที่ดวงตา การใช้สายตานาน ๆ, เสียงดัง หรืออยู่ในที่จอแจนาน ๆ, ได้กลิ่นฉุน ๆ ทั้งกลิ่นหอมและเหม็น, การดื่มเครื่องดื่มที่ไปกระตุ้นไมเกรน อย่างชาและกาแฟ, ไม่สบาย, อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ, อากาศที่ร้อนจัด หนาวจัด หรือแม้กระทั่งอารมณ์เสียใจ ตกใจ หงุดหงิด ความเครียด ที่เกิดจากจิตใจภายใน
ปวดหัวแบบไหนถึงเรียกว่า “ไมเกรน”
หลายท่านที่มีอาการปวดหัวเป็นประจำ อาจยังไม่แน่ใจ หรือยังแยกไม่ออกว่าอาการที่เป็นอยู่นั้น เข้าข่ายของอาการปวดหัวไมเกรนหรือไม่ เดี๋ยวเรามาลองสำรวจกันค่ะ อาการดังกล่าวมีจุดสังเกตอะไรกันบ้าง
- มีอาการปวดหัวข้างเดียว หรือบางรายอาจปวดหัวทั้ง 2 ข้าง บางครั้งปวดแบบรุนแรงระดับปานกลางไปถึงมาก
- มีอาการปวดหัวเป็นจังหวะตุบ ๆ เกิดขึ้นบริเวณขมับและลามไปยังกระบอกตา หรือที่ท้ายทอย
- มีอาการปวดหัวหลังจากได้สัมผัสกับสิ่งเร้า สิ่งกระตุ้น เช่น เห็นแสงจ้า, ที่ที่เสียงดัง, ดมกลิ่นฉุน
- บางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการเบื่ออาหาร
มีอาการปวดศีรษะเป็นระยะเวลานาน ๆ หลายชั่วโมง หรือตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป หรืออาจข้ามวันไปถึง 72 ชั่วโมง
Botox migraine ฉีดบริเวณไหน
สำหรับบริเวณที่จะทำการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้น แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาฉีดที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว จะฉีดแบบกระจายตำแหน่งประมาณ 31-39 จุด ซึ่งจะฉีดลงไปยังบริเวณหน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, ต้นคอ, ท้ายทอย รวมถึงบริเวณบ่า เพื่อให้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ เข้าไปออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ โดยหลังจากฉีด Botox migraine ไปแล้ว ตัวยาจะค่อย ๆ เริ่มออกฤทธิ์ และในระหว่างนี้จะมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากคนไข้รู้สึกว่าอาการปวดหัวไมเกรนดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาหยุดการใช้โบท็อกค่ะ
ใครที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกไมเกรน (Botox migraine)
- ผู้ที่มีปัญหาปวดหัวไมเกรนเรื้อรังอย่างน้อย 14 วันขึ้นไปต่อเดือน
- ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรนในระดับรุนแรง ซึ่งรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งรับประทานยาแล้วไม่หาย ไม่ดีขึ้น
- ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน และไม่อยากได้รับผลกระทบต่อร่างกาย ที่เกิดจากการใช้ยารับประทานมาก ๆ หรือต้องรับประทานยาเกินกว่าที่จำเป็น
- ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งเคยใช้วิธีการรักษารูปแบบอื่น ๆ มาแล้วไม่ดีขึ้น
ข้อดีของการฉีด Botox migraine
- เป็นวิธีการป้องกันและลดอาการปวดหัวไมเกรนที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- บรรเทา ลดความรุนแรง และลดความถี่ของโรคปวดหัวไมเกรนได้ถึง 60-70%
- มีส่วนช่วยให้อาการตึงที่ต้นคอ ท้ายทอย บ่า ไหล่ มีอาการที่ดีขึ้น จากการคลายตัวของกล้ามเนื้อ
- ทำให้คนไข้ลดหรือแทบจะไม่ต้องรับประทานยาแก้ปวดหัวไมเกรน ซึ่งส่งผลดีกับอวัยวะภายใน
- ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพราะตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ได้รับรองจากอย. ไทยและต่างประเทศ
- ช่วยให้คนไข้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
Botox migraine รีวิวความประทับใจจากคนไข้จริง
หัตถการ Botox migraine รีวิวของคนไข้ที่เคยเข้ามาใช้บริการที่คลินิกของเรา หลายท่านให้การตอบรับว่า หลังฉีดไปแล้ว อาการปวดไมเกรนที่เคยเกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็ลดน้อยลง ทำให้การใช้ชีวิตนั้นราบรื่นและเต็มที่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นไปด้วย เพราะไม่ต้องห่วงอาการปวดไมเกรน
Botox ไมเกรน ราคาเท่าไหร่
ที่คลินิกของเรา การฉีด botox ไมเกรน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4,999 บาท* ทั้งนี้ อาจมีราคาที่แตกต่างกันไปในแต่ละราย โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ รวมถึงปริมาณสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาใช้ให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย ดั้งนั้น เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ครอบคลุม และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้คนไข้เข้ามาพบแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างละเอียดค่ะ
ฉีดโบท็อกไมเกรนยี่ห้อไหนดี
การฉีดโบท็อกไมเกรน (Botox migraine) สามารถเลือกใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ได้หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีทั้งจากประเทศเกาหลี, โบอเมริกา, โบท็อกจากอังกฤษ หรือโบท็อกเยอรมัน ซึ่งแต่ละยี่ห้ออาจความแตกต่างกันตรงที่คุณสมบัติ การกระจายตัวของยา ระยะเวลาของผลลัพธ์ และราคาที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ หากคนไข้ยังตัดสินใจไม่ถูก ก็สามารถพูดคุยสอบถามกับแพทย์ก่อนได้ค่ะ โดยแพทย์จะแนะนำยี่ห้อโบท็อกสำหรับการฉีดลดไมเกรนตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละราย รวมถึงยึดตามความพึงพอใจของคนไข้ค่ะ สำหรับที่คลินิกของเราได้นำเข้าผลิตภัณฑ์สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ของแท้ ที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้องจาก อย.ไทยและต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนไข้สามารถตรวจสอบได้ทุกชิ้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อล้วนเป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่มีประสิทธิภาพสูง และทุกเคสอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้มีองค์ความรู้และทักษะด้านการฉีดโบท็อกของประเทศไทย
ข้อแนะนำเลือกฉีด Botox migraine ที่ไหนดี
แน่นอนว่า ก่อนจะเลือกฉีด Botox migraine ที่ไหนดี เราควรศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ เพราะการฉีดโบท็อกไมเกรนเป็นหัตถการในการรักษาที่ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์จากแพทย์โดยตรง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยที่ต้องมาคู่กันเสมอ นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วยค่ะ
- ฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ ซึ่งต้องมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง เป็นแพทย์ที่มีทักษะความรู้เกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์เป็นอย่างดี รวมถึงมีความรู้เรื่องการฉีดโบท็อกอย่างถูกวิธี
- ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานถูกต้อง มีใบประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีเลขทะเบียน 11 หลัก ติดอยู่บริเวณหน้าคลินิกหรือสถานพยาบาลให้เห็นชัดเจน โดยคนไข้สามารถตรวจสอบได้
- ฉีดโบท็อกของแท้ ที่ได้รับรองอย่างถูกต้องจาก อย.ไทยและต่างประเทศ โดยคลินิกหรือสถานพยาบาลนั้น ๆ ต้องให้คนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้
ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังเข้ารับบริการ Botox migraine
สำหรับการเตรียมตัวก่อนและหลังเข้ารับบริการ Botox migraine นั้น มีข้อควรปฏิบัติตนดังต่อไปนี้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
- คนไข้เข้ารับการปรึกษา ซักประวัติ และตรวจร่างกายจากแพทย์ หากมีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยาชา หรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่เป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดไหลไม่หยุดและเกิดอาการฟกช้ำได้ง่าย เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น ก่อนฉีด 1 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่เป็นกรดวิตามิน A, AHA, BHA รวมถึงการทำทรีทเม้นท์ ทำเลเซอร์ผิว หรือสครับผิว ก่อนเข้ารับการฉีดโบประมาณ 2-3 วัน
หมายเหตุ หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรฉีด Botox migraine
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการ
- 24 ชั่วโมงหลังฉีด ควรงดออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวบริเวณศีรษะและลำคออย่างแรง
- 24 ชั่วโมงหลังฉีด สามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
- 1-2 วันหลังฉีด ควรงดการทำสีผม รวมถึงการใช้สารเคมีอื่น ๆ บนศีรษะ
- ในช่วง 2 วันแรกหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก ๆ และต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก และควรงดจับบริเวณที่ฉีดโบท็อกแรง ๆ ด้วยเช่นกัน
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
- พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน โดยการหลีกเลี่ยงความเครียด, นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ, รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และทานตรงเวลา ดื่มน้ำเยอะ ๆ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อยู่ในที่ที่อากาศปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท ไม่อยู่ในที่มีแดดจ้า และในที่ที่มีเสียงดัง รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ฉีดโบท็อกไมเกรน (Botox migraine) กับคลินิกเราโดยแพทย์ผู้มีองค์ความรู้ด้านการปรับรูปหน้าด้วยโบท็อก
การฉีดโบท็อกไมเกรนที่คลินิกของเรา ทุกเคสจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจวิเคราะห์ วางแผนการรักษา และฉีด botox migraine นำทีมโดยแพทย์ผู้มีความรู้ความสามารถด้านการฉีดโบท็อกของประเทศไทย และทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยยึดหลักการตรวจวิเคราะห์และรักษาตามหลักกายวิภาคศาสตร์อย่างถูกต้อง รวมถึงใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ของแท้ที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้องจาก อย. พร้อมให้คนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ทุกกล่อง และเรายังมีการแกะกล่องตัวยา การดึงยาจากขวด เพื่อโชว์ให้คนไข้เห็น รวมถึงให้กล่องผลิตภัณฑ์ให้คนไข้นำกลับบ้าน เพื่อทำการตรวจสอบได้เองอีกครั้งค่ะ
นอกจากนี้ เรายังเป็นคลินิกความงามที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย หลายสมัยซ้อน ซึ่งในการดูแลรักษาคนไข้ในทุกเคส แพทย์ทุกท่านยังให้ความสำคัญกับระยะเวลาในการรักษาคนไข้ทุกเคส ซึ่งให้เวลาอย่างเต็มที่ ไม่เร่งเคส คนไข้สามารถพูดคุยหรือสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ กับแพทย์ได้แบบไม่ต้องเกรงใจ โดยหลังการรักษาแล้วจะมีการติดตามอาการคนไข้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการรักษาที่ตรงจุด เป็นไปตามแผนการรักษาที่ได้วางเอาไว้ ส่งผลให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวค่ะ
คำถามเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรน (Botox migraine) ที่พบบ่อย
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น บางท่านอาจจะยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหัตถการฉีดโบท็อกไมเกรน (Botox migraine) ซึ่งเราได้รวบรวมคำถามที่คนไข้มักจะสอบถามกันเข้ามาบ่อย ๆ ไว้ด้านล่างนี้แล้วค่ะ
ฉีดโบเพื่อลดอาการไมเกรน ต้องใช้กี่ยูนิต
การฉีด Botox migraine จะใช้ปริมาณตัวยาสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ประมาณ 100-150 ยูนิต โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมในคนไข้แต่ละราย ซึ่งวิธีการฉีดจะเป็นลักษณะแบบกระจายตามจุดต่าง ๆ ทั้งบริเวณระหว่างคิ้ว, หน้าผาก, ต้นคอ, ท้ายทอย และบ่า โดยเป็นบริเวณที่ครอบคลุมในตำแหน่ง Trigger Point หรือจุดกดเจ็บ ที่เป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่มีความไวต่อแรงกด ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อเกร็งตัวในตำแหน่งซ้ำ ๆ และเป็นที่เดิม ๆ หลังการฉีดโบจะช่วยคลายมัดกล้ามเนื้อตามตำแหน่งต่าง ๆ และช่วยยับยั้งการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง ส่งผลให้ความรุนแรงอาการปวดหัวไมเกรนลดลง และเมื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน หรือทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนที่เป็นอยู่เว้นระยะห่างออกไป
ทำแล้วจะเป็นอันตรายไหม
บางท่านอาจมีความกังวลใจว่า หากทำการฉีดไปแล้วจะเป็นอันตรายหรือไม่ สำหรับการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้น เป็นหนึ่งในรูปแบบการรักษาทางการแพทย์ เพื่อช่วยลดระดับความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรนได้เป็นอย่างดี และมีความปลอดภัยสูง ซึ่งตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ถูกใช้ในวงการแพทย์และความงามอย่างแพร่หลายและยาวนาน โดยในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US. FDA) รวมถึงได้รับรองจากองค์กรอาหารและยาของไทย (อย.) ให้ใช้สำหรับป้องกันและรักษาโรคปวดศีรษะไมเกรน ซึ่งสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ จะช่วยบรรเทาอาการปวดและลดความถี่ของอาการปวดหัวไมเกรนได้ถึง 60-70% เลยค่ะ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาอาการปวดหัวไมเกรนที่ให้ผลลัพธ์ดีและมีความปลอดภัยค่ะ
หลังฉีดกี่วันเห็นผลและอยู่ได้นานไหม
หลังฉีดจะไม่เห็นผลในทันที แต่ทั้งนี้ เมื่อสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่ถูกฉีดเข้าไปนั้น จะเริ่มออกฤทธิ์ใน 3-4 วัน และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งให้ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยหลังฉีดโบท็อกไมเกรนแล้ว จะคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 3-4 เดือน* ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดโบตามคำแนะนำของแพทย์ นอกจากนี้ หากไม่อยากให้อาการปวดหัวไมเกรนกลับมาไวอีก ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะไปกระตุ้นทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกค่ะ
ต้องฉีดกี่ครั้งและจะฉีดซ้ำได้ไหม
การฉีด Botox migraine เพื่อช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดศีรษะไมเกรนนั้น หลังทำการฉีดไปแล้ว จะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ในบางกรณี คนไข้อาจต้องเข้ารับการฉีดโบท็อกไมเกรนมากกว่า 1 ครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของตัวยาสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ของคนไข้แต่ละราย รวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งควรเว้นระยะห่างในการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 3 เดือน หรือทุก ๆ 12 สัปดาห์ เพื่อเป็นการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนอย่างต่อเนื่อง ส่วนเมื่อเวลาผ่านไป หากตัวสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ หมดฤทธิ์แล้ว ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ที่มีประสบการณ์ค่ะ
การฉีดโบท็อกไมเกรน นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันและลดอาการปวดหัวไมเกรนแบบเรื้องรัง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวิธีทางการแพทย์ที่ไม่ยุ่งยาก ปลอดภัย ทำแล้วช่วยลดอาการและลดความถี่ของอาการปวดหัวไมเกรนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่เคยทานยาแล้วแต่ยังไม่ได้ผล หรือไม่อยากเสี่ยงกับอันตรายที่มาจากการทานยามากเกินความจำเป็น หลังฉีด botox migraine ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คนไข้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นตามไปด้วยค่ะ
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับ Botox สามารถแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ
บทความโดยแพทย์ Doctor Mek Clinic