โปรแกรม Profhilo ทางเลือกของการดูแลสุขภาพผิว
ปัจจุบันนวัตกรรมการดูแลผิวได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันของผู้คน โปรแกรม Profhilo ก็ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ด้านความงามที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวให้ดูดีขึ้น ซึ่งมีกระบวนการในการปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก เพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหย่อนคล้อย เสริมความกระชับให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์สุขภาพดี บทความนี้ก็ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโปรแกรม Profhilo ว่ามีคุณสมบัติเด่นอย่างไร และมีความเหมือนหรือแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างไรบ้าง
โปรแกรม Profhilo คืออะไร
โปรแกรม Profhilo คือ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Bio-Remodeling ที่ช่วยปรับปรุงโครงสร้างและฟื้นฟูคุณภาพผิวจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง Hyaluronic Acid ที่มีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงทั้งโมเลกุลเล็กและโมเลกุลใหญ่ด้วยเทคนิค NAHYCO จนได้สารใหม่ที่มีความเข้มข้นสูงในการนำมาปรับโครงสร้างผิวได้ทุกระดับ ทำให้ผิวแข็งแรง
และถึงแม้ว่าโปรแกรม Profhilo จะมีส่วนประกอบเป็น Hyaluronic Acid แต่ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบบที่หลายคนเข้าใจ นั่นเป็นเพราะว่าโปรแกรมโพรไฟโลเป็น Non-crosslinked Hyaluronic acid แต่ในขณะเดียวกันฟิลเลอร์จะเป็นแบบ Crosslinked Hyaluronic acid
โปรแกรม Profhilo มีกระบวนการทำงานอย่างไรบ้าง
โปรแกรม Profhilo ทำงานด้วยการใช้ Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความเข้มข้น โดยมีเทคโนโลยี NAHYCO (เป็นการเชื่อมกันด้วยการควบคุมอุณหภูมิ) จนได้โครงสร้างพิเศษแบบ Hybrid Complex หรือเป็นการผสาน HA สองโมเลกุลอย่าง H-HA (High Molecular Weight HA) ที่ทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงให้เนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว และ L-HA (Low Molecular Weight HA) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวภายใน เมื่อทั้งสองชนิดนี้มีการรวมตัวกันจึงเกิดกระบวนการทำงาน ดังนี้
- กระตุ้นเซลล์ชั้นกำพร้า – ตัวสารจะเข้าไปกระตุ้น Keratinocyte ซึ่งเป็นเซลล์ชนิดหนึ่งในชั้นหนังกำพร้าที่มีความสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี
- กระตุ้นเซลล์ชั้นหนังแท้ – หลังจากฉีดเข้าไปแล้วตัวสารจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ในชั้นผิวลึก ทำให้ผิวมีความแน่นกระชับขึ้น
- กระตุ้นเซลล์ไขมัน – เมื่อฉีดเข้าไปที่ชั้นไขมันตัวสารจะออกฤทธิ์ในการคืนความกระชับของชั้นไขมัน ฟื้นฟูเซลล์ไขมันที่เสื่อมสภาพลง
โปรแกรม Profhilo เหมาะกับใคร สภาพผิวแบบไหน
เป็นหัตถการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพผิวบริเวณใบหน้า อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่มีหลุมสิว หรือต้องการแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นจากสิว
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวมให้ดูสุขภาพดีขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงโครงสร้างผิว
Before-After
จากภาพตัวอย่างของคนไข้จะเห็นได้ว่าก่อนฉีดผิวมีความหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ผิวดูไม่เรียบเนียน และเมื่อหลังฉีดโปรแกรม Profhilo ไปแล้วผิวดูแน่นกระชับ มีความเรียบเนียนขึ้น (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดโปรแกรม Profhilo มีอะไรบ้าง
ทั้งก่อนและหลังใช้บริการโปรแกรม Profhilo ควรปฏิบัติตามรายละเอียดด้านล่างนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
การเตรียมตัวก่อนใช้บริการ
- งดรับประทานยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการไหลเวียนหรือการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดทำโปรแกรมเลเซอร์หรือทรีทเม้นท์ที่ให้ความร้อนก่อนฉีด 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการรักษา
- ก่อนฉีดควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพ โรคประจำตัว และอาการแพ้ยา
การดูแลตัวเองหลังใช้บริการ
- หลังฉีด 24 ชั่วโมงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของตัวยา
- หลังฉีด 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
- 1 สัปดาห์หลังฉีด หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การอยู่หน้าเตาร้อน การตากแดด เป็นต้น
- 24-48 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายอย่างหนัก
- ดื่มน้ำให้มากๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยาในการกักเก็บความชุ่มชื้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม Profhilo
แนะนำให้ฉีดโปรแกรม Profhilo ให้ครบ 2 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งควรใช้ปริมาณ 2 cc และเว้นระยะห่างครั้งแรกกับครั้งที่ 2 เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ผิวได้มีการกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นหากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นก็สามารถกลับมาฉีดใหม่ทุกๆ 6-12 เดือน ตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำโดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละคน
โดยปกติแล้วการฉีดโปรแกรม Profhilo จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนเมื่อฉีดไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ผลลัพธ์หลังจากฉีดในครั้งแรกผิวจะดูเรียบเนียนขึ้นเล็กน้อยและมีความชุ่มชื้นภายใน 3-7 วันแรก และหลังจากฉีดครบ 2 ครั้ง ผิวจะดูแน่นกระชับ มีความเปล่งปลั่ง ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน
โปรแกรม Profhilo ถือเป็นหัตถการที่ไม่เป็นอันตรายในการรักษา เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูรอนิก แอซิดที่มีความบริสุทธิ์ แต่ในบางกรณีอาจเกิดผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ เช่น อาการบวมแดงตรงจุดที่ฉีด ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันแรก หรือในบางเคสอาจมีอาการเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นก็กลับสู่สภาวะปกติ
ระดับความเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่การฉีดโปรแกรม Profhilo จะให้ความรู้สึกเจ็บน้อย เพราะวิธีการฉีดจะใช้เทคนิคการฉีด 5 จุดบนใบหน้าที่จะช่วยลดอาการเจ็บและความเสี่ยงในการบวมช้ำหลังทำ นอกจากนี้ก่อนฉีดจะมีการทายาเพื่อช่วยลดความเจ็บอีกด้วย สำหรับใครที่กลัวเจ็บก็สามารถทำได้ค่ะ
สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเลเซอร์อย่างโปรแกรม PicoSure, โปรแกรม Thermage FLX หรือโปรแกรม Ultherapy เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาและช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น หรือฉีดกับโปรแกรมกลุ่มงานผิวอย่าง โปรแกรม Sculptra หรือโปรแกรม Radiesse ก็สามารถทำได้ แต่แพทย์จะแนะนำให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนแล้วเว้นระยะห่างสัก 2 สัปดาห์เพื่อให้ผิวได้เกิดกระบวนการฟื้นฟูอย่างเต็มที่
การฉีดโปรแกรม Profhilo เพื่อปรับโครงสร้างผิวจากภายในมีราคาเริ่มต้นที่แตกต่างกันไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพผิว ความเหมาะสมของปริมาณที่ฉีด และบริเวณที่ฉีด หากใครที่สนใจสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการประเมินผิวอย่างละเอียดได้ที่ Doctor Mek Clinic
ฟื้นฟูคุณภาพผิวจากภายในด้วยโปรแกรม Profhilo ที่ Doctor Mek Clinic
โปรแกรม Profhilo คือ ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านการฟื้นฟูคุณภาพผิว ปรับปรุงโครงสร้างผิวได้จากภาพในให้ผิวกลับมาแข็งแรง ลดความหย่อนคล้อยได้ทั้งใบหน้าและลำคอ เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวพร้อมคืนความยืดหยุ่น ทำให้ผิวแน่นกระชับ สุขภาพดีแลดูอ่อนเยาว์ลง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้งกร้าน หรือต้องการความกระจ่างใสให้ผิวเรียบเนียน
และที่ Doctor Mek Clinic เราให้บริการดูแลสุขภาพผิวด้วยโปรแกรม Profhilo พร้อมด้วยโปรแกรมหัตถการอื่น ๆ ที่หลากหลายเพื่อรองรับทุกปัญหาและทุกสภาพผิว โดยผ่านการประเมินและวางแผนการรักษาโดยแพทย์ที่มีองค์ความรู้ และทักษะด้านการดูแลสุขภาพผิว พร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้รับผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ
