Filler injection – ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ ( Filler ) คือ การฉีดสารเติมเต็มจำพวก Hyaluronic acid (HA) ที่สกัดจากธรรมชาติเพื่อยกกระชับให้หน้าเด็ก โดยเป็นสารที่ผ่านกรรมวิธีคัดแยกแบบพิเศษ ทำให้มีความปลอดภัยต่อผิว ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าการฉีดฟิลเลอร์ถือว่ามีความปลอดภัย และเป็นสารเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) จึงไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบการแพ้ก่อนเข้ารับบริการ และโอกาสการเกิดการแพ้น้อยมาก ๆ ซึ่งในงานวิจัยพบว่าอาการแพ้ส่วนใหญ่นั้น คือ การแพ้ยาชา แต่กรณีที่คนไข้เคยฉีดยาชาตอนถอนฟัน หรือยาชาตอนทำแผลมาแล้ว หากไม่เกิดอาการแพ้ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะเป็นยาชาชนิดเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม บริการนี้เป็นหนึ่งในการทำหัตถการที่จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ เนื่องจากมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ ความปลอดภัยจึงขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ หากฉีดเข้าไปยังชั้นผิวหนังที่ตื้นเกินไป อาจจะทำให้เกิดปัญหาคางเสียรูปได้
เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน
Filler คืออะไร
Filler คือ สารจำพวก Hyaluronic acid ซึ่ง Filler ถูกสกัดมาจากธรรมชาติโดยผ่านกรรมวิธีคัดแยกแบบพิเศษ จึงมีความปลอดภัยต่อผิวโดยไม่จำเป็นต้องทดสอบการแพ้ก่อนเข้ารับการฉีด และโอกาสของการแพ้ก็มีน้อยมาก นอกจากนี้ในการวิจัยยังพบว่าอาการแพ้ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักเกิดจากการแพ้ยาชา ซึ่งถ้าคนไข้เคยฉีดยาตอนถอนฟันหรือเคยใช้ยาชาตอนทำแผลมาก่อนแล้ว และไม่เกิดอาการแพ้ใดใดก็ไม่มีปัญหา เพราะยาชาที่ใช้เป็นชนิดเดียวกัน แต่ทุกหัตถการที่ทำย่อมมีความเสี่ยง ความปลอดภัยในการฉีดจึงขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ หากทำการฉีดเข้าชั้นผิวหนังตื้นเกินไปก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดของการฉีดสารชนิดนี้เข้าไปในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า ควรเลือกรับบริการกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การเติมเต็มพร้อมทำการปรับรูปหน้า ช่วยยกกระชับใบหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร และฉีดตำแหน่งใดได้บ้าง
ฉีด Filler ในจุดต่าง ๆ ของใบหน้ากลายเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่มีความสำคัญ ช่วยทำให้ใบหน้ามีมิติจึงสามารถทำให้ใบหน้าแลดูละมุนมากขึ้น หน้าหวาน ดูหน้าเรียว ถ่ายรูปภาพแล้วออกมาดูดี หน้าแลดูคมชัด ในส่วนของคุณผู้ชาย การเติมฟิลเลอร์สามารถทำให้ดูคมเข้มมากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับความต้องการคนไข้ และเทคนิคการฉีดของแพทย์
ฟิลเลอร์ใต้ตา
จัดการปัญหาผิวหมองคล้ำตรงจุดฟื้นฟูผิวให้เต่งตึงจากชั้นลึกเผยใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์
ฟิลเลอร์คาง
ปรับรูปทรงให้แลดูวีเชฟยิ่งขึ้น เพื่อให้รับเข้ากับใบหน้าไม่เบี้ยวหรือไม่สั้นไป
ฟิลเลอร์ปาก
ปรับรูปทรงสวยสไตล์เกาหลีเพิ่มความมั่นใจให้รอยยิ้มแลดูอวบอิ่มเป็นกระจับ
ฟิลเลอร์จมูก
ปรับรูปทรงให้แลดูโด่งเพิ่มยิ่งขึ้นจัดการความหนาได้อย่างเห็นผลช่วยเสริมบุคลิกความมั่นใจ
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
อวดรอยยิ้มได้เต็มที่อย่างมั่นใจช่วยให้ปัญหาแลดูตื้นขึ้นเห็นผลอย่างชัดเจน
ฟิลเลอร์แก้มตอบ
แก้ปัญหาการยุบตัวได้อยู่มัด ปรับรูปหน้าให้ดูไม่โทรม คืนความสดใสอ่อนวัย
ฟิลเลอร์หน้าผาก
ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้รับกับใบหน้า ลดปัญหาร่องลึกที่เคยกวนใจ ให้หน้าเนียนไร้รอยย่น
ฟิลเลอร์ขมับ
แก้ปัญหาการยุบตัวได้อย่างดี ปรับรูปทรงหน้าให้ดูเต็ม ลดอายุแลดูอ่อนวัย
ฟิลเลอร์กรอบหน้า
ปรับหน้าให้แลดูสวยสมส่วน ช่วยให้รูปหน้าดูคมชัด แลดูวีเชฟยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์มือ
ลดความแห้งกร้านและเหี่ยวย่น ให้ผิวแลดูเต่งตึง มีน้ำมีนวล คืนความเนียนนุ่มน่าสัมผัส
ฟิลเลอร์คอ
จัดการปัญหารอยเหี่ยวย่น รอยพับ รอยขีดเป็นเส้นลึกได้อยู่มัด คืนความเต่งตึงอวบอิ่ม
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ปรับผิวขรุขระให้แลดูเรียบเนียนแก้ปัญหารอยลึกอย่างได้ผลอวดผิวสวยเนียนใสอย่างมั่นใจ
Before & After
ภาพรีวิวฟิลเลอร์จากคนไข้จริงก่อนและหลังเข้ารับบริการนี้ โดยจะเห็นได้ว่าก่อนเข้ารับบริการสามารถมองเห็นร่องลึกต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนทั้งบริเวณใต้ตา บริเวณข้างแก้ม และบริเวณข้างมุมปาก ซึ่งหลังจากเข้ารับบริการฉีดแล้ว ร่องลึกต่าง ๆ ที่เคยมีแลดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย
รีวิวการฉีด Filler จากคนไข้จริง
ภาพรีวิวความประทับใจส่วนหนึ่งจากคนไข้จริงที่เข้ารับบริการนี้ รวมถึงงานแก้จากการฉีดของที่อื่นแล้วพบปัญหาต่าง ๆ ตามมา โดยต้องการให้แพทย์ของทางคลินิกเราซึ่งเป็นแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ ช่วยทำการปรับแก้ไขให้ ผลปรากฎว่าเป็นที่ชื่นชอบและพอใจเป็นอย่างมาก
การให้บริการของที่นี่
- ให้บริการการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์ความชำนาญด้านผิวพรรณ ความงามมากกว่า 10 ปี
- ให้การดูแลทุกเคส โดย นพ.วัชพล หนึ่งในแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ของประเทศไทย
- เป็นคลินิกความงามเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่มีแพทย์ผิวหนัง และสูตินารีแพทย์เฉพาะทางควบคุมดูแล
- รางวัลการันตีด้วยยอดฉีดสูงสุดอันดับ 1 ติดต่อกันหลายปีซ้อน และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย
- ได้รับความเชื่อมั่นด้วยเสียงตอบรับจากคนไข้จริง และรีวิวจากผู้ใช้บริการอย่างล้นหลาม คนไข้สามารถไว้วางใจเข้ารับบริการได้
- เพื่อให้การดูแลสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด มีการตรวจวิเคราะห์สภาพผิวก่อนทำการรักษา
- ด็อกเตอร์เมฆคลินิกเน้นความปลอดภัยของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญ จึงเลือกใช้เครื่องมืออุปกรณ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้มีคุณภาพ และเพื่อให้เกิดความมั่นใจ คนไข้สามารถตรวจสอบได้ในทุกรายการ
- นำเข้าเทคโนโลยีรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคัดสรรเครื่องที่มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่ารุ่นอื่น ๆ
- เลือกใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยอย่างถูกต้องทั้งจาก US FDA และ Thai FDA ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย
- ทุกปัญหาทางคุณหมอให้คำปรึกษาเอง พร้อมบุคลากรให้บริการอย่างมืออาชีพ ติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง บริการด้วยใจ
- ให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาด เน้นความปลอดภัย ได้มาตรฐาน อยู่ใจกลางเมืองเดินทางง่าย มีที่จอดรถสะดวก
ขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคพิเศษ
ในการฉีด Filler โดยอาจารย์หมอเมฆจะมีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่แตกต่างจากคลินิกอื่น ๆ ดังนี้
- เบื้องต้นทางคุณหมอจะเป็นผู้ทำการประเมิน และวิเคราะห์ใบหน้าในจุดต่าง ๆ ของคนไข้เพิ่มเติม พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดและสัดส่วนของปริมาณสารเติมเต็มที่ต้องการใช้ โดยขั้นตอนนี้มักจะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีถึง 30 นาที และขั้นตอนนี้ถ้าหากคนไข้มีอาการแพ้ยาชาควรแจ้งคุณหมอทันที
- คุณหมอจะทำการแปะยาชาเพื่อเป็นการป้องกันอาการช้ำหลังจากมีการฉีด โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีไปจนถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
- เป็นขั้นตอนของการฉีดยาชาเพื่อเป็นการบล็อกเส้นประสาทบริเวณใบหน้า คล้ายกับการฉีดยาชาก่อนที่จะมีการถอนฟัน แต่ขั้นตอนนี้จะเป็นช่วงของการทำหัตถการให้คนไข้รู้สึกสบายมากที่สุด จะใช้เวลาประมาณ 5 -15 นาที
- หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์ ทางคุณหมอจะทำการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่บริเวณใบหน้าตามจุดที่มีการวิเคราะห์ ซึ่งจะเป็นการฉีดเข้าบริเวณชั้นผิวในจุดที่ต่างกัน สำหรับขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณที่ใช้ฉีดในแต่ละครั้ง
ปัจจัยที่ส่งผลให้การฉีด Filler ได้ผลลัพธ์ที่ดี
ชนิดของสารเติมเต็มที่เลือกใช้
สารเติมเต็มชนิดนี้ที่นิยมใช้กันในเมืองไทยมีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ โดยในแต่ละยี่ห้อก็จะมีหลายรุ่นและหลายชนิดซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เช่น การที่จะทำคางให้สวยควรจะเลือกชนิดของสารเติมเต็มที่มีโมเลกุลเหมาะสม มีคุณสมบัติที่จะขึ้นทรงรูปหน้าได้สวย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการให้ โดยแพทย์ผู้ทำจะต้องเลือกชนิดของสารเติมเต็มให้เหมาะกับรูปหน้าของแต่ละเคส จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บางท่านฉีดออกมาแล้วคางเป็นก้อนกลม ๆ ไม่เป็นทรง ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าการเลือกคลินิกเข้ารับบริการที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำหัตถการ จึงถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เทคนิคการฉีดของแพทย์
เรื่องเทคนิคในการฉีดของแพทย์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งข้อที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ยกตัวอย่าง หากคนไข้ต้องการฉีดบริเวณคางเพื่อให้ออกมาดูสวย แพทย์จะไม่ได้ทำการฉีดในตำแหน่งตรงกลางเพียงจุดเดียวเท่านั้น แต่แพทย์จะต้องมีการใช้เทคนิคความชำนาญในการปรับทรงทั้งซ้าย-ขวาให้รับกับรูปจมูกและปากด้วย รวมถึงการฉีดออกมารูปทรงต้องสวยไม่งอน ไม่ดูเป็นทรงมะม่วงมากเกินไป หรือไม่ทำให้คางแหลมจนดูเหมือนเป็นแม่มด หรือแม้กระทั่งฉีดแล้วจะต้องออกมาไม่ดูเป็นก้อน ๆ กลม ๆ ที่บริเวณคางซึ่งจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาตินั้นเอง
ขนาดของโมเลกุล
- สารเติมเต็มที่มีโมเลกุลขนาดหนัก : ขนาดของโมเลกุลนี้จะสามารถคงอยู่ในชั้นผิวได้นาน และมีการกระจายตัวน้อย จึงทำให้มีโอกาสในการเคลื่อนที่ได้ยาก เหมาะสำหรับใช้ฉีดบนใบหน้าในบริเวณของผิวชั้นลึก ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพดี จึงได้รับความนิยมใช้เป็นฐานสำหรับการยกกระชับใบหน้า
- สารเติมเต็มที่มีโมเลกุลเบา : ขนาดของโมเลกุลนี้จะมีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการฉีดเข้าผิวหนังชั้นตื้น เพื่อให้ทำหน้าที่ในการยกกระชับใบหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ และผิวพรรณที่แลดูเต่งตึงยิ่งขึ้น
นอกจากเทคนิคของการฉีด ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคในการปั้นขึ้นทรงของแพทย์ผู้ดูแล เรียกได้ว่าการฉีดสารเติมเต็มมีความคล้ายกับงานศิลปะของแพทย์อย่างแท้จริง เพราะต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในการออกแบบทรงให้รับเข้ากับใบหน้าของแต่บุคคลด้วย
ข้อดี ข้อเสีย และข้อควรปฏิบัติของการเข้ารับบริการนี้
ข้อดี
- สารเติมเต็มของประเภทนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างครบครันทั้งบริเวณใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ตาโหลลึก และบริเวณถุงใต้ตา
- สารเติมเต็มประเภทนี้ไม่มี Downtime หรือหากมีก็น้อยมาก แต่ทั้งนี้ก็ควรทำการฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งจะทำให้คุณสามารถอุ่นใจในส่วนของความปลอดภัยได้มากกว่า
- การฉีดสารเติมเต็มชนิดนี้ คุณแทบไม่ต้องทำการพักฟื้น
- การฉีดสารเติมเต็มชนิดนี้จะใช้เวลาน้อยมาก โดยจะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 15-30 นาทีเพียงเท่านั้น และให้ผลลัพธ์ทันทีหลังฉีดเสร็จ
- สารเติมเต็ม HA-Filler ประเภทนี้จะมีโมเลกุลหลายรูปแบบ จึงทำให้แพทย์ผู้เชียวชาญสามารถเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี
- สารเติมเต็มชนิดนี้จะมีคุณสมบัติปลอดภัยมาก โดยเป็นสารชนิดเดียวกับที่ชั้นผิวของเรามีตามธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นจึงทำให้โอกาสในการแพ้มีน้อย คนที่เกิดอาการแพ้ส่วนใหญ่จึงมักเกิดจากการแพ้ยาชาในขั้นตอนของการฉีดมากกว่า แต่ถ้าคนไข้เคยฉีดยาชาเพื่อถอนฟันมาก่อนหน้านี้แล้วไม่เกิดอาการแพ้ ก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากเป็นยาชาชนิดเดียวกัน
ข้อเสีย
- สำหรับ HA-Filler ราคาต่อซีซี ค่อนข้างสูงกว่า FAT-Filler แต่บางเคสที่ฉีดไขมันไปแล้วมีกรณีสลายหายไปหมด ทำให้การเลือกสารเติมเต็ม HA มีความคุ้มค่ามากกว่า
- สำหรับบางท่านอาจมีอาการปวด บวม แต่อาการทั้งหมดเหล่านี้จะหายไปเองได้ภายใน 1 ถึง 2 วัน
ข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามหลังฉีด
- ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ควรหลีกเลี่ยงความร้อนในรูปแบบต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การโดนความร้อนที่เกิดจากไดร์เป่าผม การโดนความร้อนจากเตาปิ้งในขณะทานหมูกระทะ หรือการนั่งทานอาหารที่ส่งความร้อนอยู่ในบริเวณหน้า รวมไปถึงการอาบน้ำอุ่นด้วย
- หลังทำควรเลี่ยงการจับหรือการสัมผัสในจุดที่ผ่านการฉีดสารเติมเต็มด้วยการขัดถู เช่น การสครับผิวหรือนวดหน้า ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงกับจุดที่ทำการฉีดมานั้นเอง
- หลังจากที่เข้ารับการฉีด คุณไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- คุณควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เนื่องจากน้ำจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการทำให้สารเพิ่มเติมอิ่มเอิบและดูสวยขึ้นได้
- หากหลังฉีดเกิดอาการบวมหรือมีอาการเขียวช้ำ คุณสามารถทำการประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมได้ และคุณควรหลีกเลี่ยงการกด หรือการนวดในจุดที่ผ่านการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 วันหลังทำ
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายโดยการเคลื่อนไหวอย่างหนักในวันที่เข้ารับการรักษา เพื่อให้ร่างกายไม่เกิดการสูญเสียน้ำมาก ซึ่งจะมีผลต่อความชุ่มชื้นในบริเวณผิวหนัง และยิ่งถ้าเราเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงก็อาจทำให้มีผลกระทบต่อสารเติมเต็มบนใบหน้าที่ฉีดเข้าไปได้ แถมยังมีความเสี่ยงต่อโอกาสในการผิดรูปอีกด้วย
- หากมีอาการปวดบริเวณจุดที่ฉีดเล็กน้อย คุณสามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลเพื่อช่วยผ่อนคลายอาการปวดได้
- คุณควรงดทำหัตถการอื่น ๆ รวมถึงการทำเลเซอร์เป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังฉีด นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบด้วย
- หากเกิดรอยเขียวช้ำในส่วนนี้ไม่ต้องเป็นกังวลไป เนื่องจากจะสามารถหายเองได้ในเวลา 5 ถึง 14 วัน
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือการกดบริเวณผิวหน้าแรง ๆ โดยเฉพาะจุดที่ผ่านการฉีดมาแล้วเป็นเวลา 2 สัปดาห์
การฉีดสารเติมเต็ม Filler สำหรับปรับโหงวเฮ้ง
โหงวเฮ้ง คือ ศาสตร์โบราณที่ใช้ในการดูลักษณะของใบหน้าและจุดสำคัญบนใบหน้าของชาวจีน ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความนิยม โดยการปรับโหงวเฮ้งจะใช้การสังเกตตำแหน่งบริเวณบนใบหน้า พร้อมทั้งอธิบายถึงความหมายที่มีการซ่อนอยู่ โดยจุดที่มีความสำคัญของใบหน้าจะมีอยู่ 5 ตำแหน่งหลัก ๆ ด้วยกันก็คือ คิ้ว จมูก ปาก ตา คาง ดังนั้นเราจึงสามารถใช้องค์ความรู้ในด้านนี้ เพื่อมาปรับโหงวเฮ้งบริเวณใบหน้า
สำหรับใบหน้าของแต่ละท่านจะมีรูปทรงที่แตกต่างกัน ดังนั้นบางท่านมักจะมีปัญหาในบางส่วนบางมุมของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณคางบุ๋ม หางตาตก โดยปัญหาเหล่านี้เองสามารถใช้เทคนิคทางการแพทย์ด้านความงามมาช่วยในการปรับให้เข้ารูปได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คลินิกมีบทบาทสำคัญในการปรับรูปหน้า
นอกจากจะทำให้ดูดี แต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ ยังช่วยเพิ่มเติมในจุดที่เป็นข้อบกพร่องของใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าสวยดูดี เป็นอีกหนึ่งความสามารถที่ช่วยในการเติมเต็ม แถมยังช่วยท่านที่มีความต้องการเสริมโหงวเฮ้งบนบริเวณใบหน้า
สารเติมเต็มบนใบหน้ามีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร
ใบหน้าเป็นเสมือนหนึ่งต้นทุนที่ทำให้เรามีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของคนภายนอกตั้งแต่หัวจรดเท้า จึงส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวันที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง แถมค่าใช้จ่ายเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ครีมเฉลี่ยต่อปีจะพบว่า การดูแลใบหน้าด้วยวิธีนี้มีความคุ้มค่าเหมาะแก่การลงทุนที่สำคัญมีความปลอดภัย หากเราเลือกใช้บริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่สิ่งที่มีความสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ คือ การศึกษาเรื่องสารเติมเต็มแต่ละชนิดว่ามีรูปแบบอย่างไรบ้าง รวมถึงคุณสมบัติในการใช้งานเพื่อให้เราสามารถตัดสินใจใช้บริการได้อย่างมั่นใจ
สำหรับสารเติมเต็มที่สามารถช่วยทดแทนในส่วนที่สึกหรอมีอยู่หลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น Collagen จากสัตว์ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไขข้อกระดูกเสื่อม เป็นต้น โดยในสารแต่ละตัวนั้นมีส่วนสำคัญในเรื่องการเติมเต็มที่แตกต่างกัน ขึ่นอยู่ที่จุดประสงค์ในการนำมาใช้ ซึ่งถ้าในสายงานบิวตี้เป้าหมายจะเป็นการรักษา หรือมุ่งเน้นให้เกิดความงามบนใบหน้า
สารเติมเต็ม คือ สารที่ช่วยในการเติมจุดต่าง ๆ รวมถึงแก้ไขข้อบกพร่องบริเวณผิวหน้า โดยชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า Filler สำหรับประเทศไทยนิยมใช้ 3 แบบ คือ HA-Filler, FAT-Filler และ Filler ถาวร
- HA-Filler ไฮยาลูโรนิค แอซิด คืออะไร
HA-Filler คือ สารเติมเต็มประเภทกึ่งถาวร ซึ่งโดยปกติร่างกายของเราสามารถผลิตได้เองอยู่แล้ว โดยมักจะพบอยู่บริเวณกระดูกอ่อนและผิวหนัง หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ไฮยาลูโรนิค ซึ่งเมื่อมีการฉีดเข้าไปจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Collagen ขึ้นมาทดแทนจากส่วนที่สูญเสีย โดยสารชนิดนี้ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้ เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ผ่านกรรมวิธีคัดแยกแบบพิเศษตามมาตรฐาน ดังนั้นจึงมีความปลอดภัยสูงและยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่เกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ง่ายและปลอดภัยต่อผิวหนังสำหรับสารชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบการแพ้ก่อนการฉีด แต่สิ่งที่คนไข้ส่วนใหญ่แพ้ คือ ยาชาแต่ถ้าในคนไข้ที่เคยฉีดยาชามาแล้ว ไม่มีอาการแพ้ในขณะทำฟันหรืผ่าตัดมาก่อน ก็สามารถใช้สารเติมเต็มชนิดนี้ได้- ระยะเวลาอยู่ได้นานแค่ไหน
ระยะเวลาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับชนิดของประเภทที่เลือกใช้ รวมถึงตำแหน่งที่มีการฉีดลงบนใบหน้า โดยปกติแล้วจะอยู่ได้นานตั้งแต่ 1 ถึง 2 ปี และบางจุดสามารถอยู่ได้นานกว่านั้น เช่น การเลือกฉีดบริเวณคาง
- ชนิดของ HA-Filler ที่ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย
-
-
- Juvéderm ผลิตภัณฑ์จากอเมริกา
- Restylane ผลิตภัณฑ์จากสวีเดน
- Neuramis ผลิตภัณฑ์จากเกาหลีใต้
- belotero ผลิตภัณฑ์จากสวิตเซอร์แลนด์
-
- FAT-Filler สำหรับการฉีดไขมัน (Autologous Fat Grafting) คืออะไร
FAT-Filler คือ สารเติมเต็มประเภทกึ่งถาวรในลักษณะการฉีดไขมัน ซึ่งเป็นการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันประเภทหนึ่ง โดยจะนำเซลล์ไขมันจากบริเวณส่วนอื่น ๆ ภายในร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ต้นขาสะโพกหรือหน้าท้องมาผ่านกระบวนการคัดกรองเพื่อให้เหลือเนื้อเยื่อไขมัน หลังจากนั้นจึงเอามาฉีดในจุดที่ต้องการเพื่อให้เซลล์ไขมันติดและมีชีวิตอยู่ต่อได้ ระยะเวลาหลังจากที่ฉีดไขมันอาจจะสลายไป 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้คนไข้บางรายมีโอกาสไขมันติดน้อย บางครั้งฉีดเข้าไปอาจจะหายเกือบหมด ในการฉีดครั้งแรกอาจจำเป็นต้องฉีดเข้าไปในปริมาณที่เยอะไว้ก่อน เพื่อป้องกันการการสลาย ทำให้มีผลข้างเคียงด้วยอาการหน้าจะบวมมาก ๆ ในช่วงเดือนแรก- เห็นผลได้ในทันทีไหม
การเลือกใช้เซลล์ไขมันอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบภายในร่างกายของลูกค้าแต่ละท่าน เพราะอาจต้องมีการเติมไขมันเพิ่มขึ้นไปอีก 1-2 ครั้ง เพื่อจะได้เห็นผลที่สมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้เซลล์ไขมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยจะมีการเพิ่มหรือลดขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้ฉีด
- ข้อดีของ FAT-Filler
-
-
- ค่าใช้จ่าย HAFiller เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจะมีราคาถูกกว่า
- เป็นการสกัดจากสารภายในร่างกายของตัวเราเอง ดังนั้นทำให้ไม่มีอาการต่อต้านใด ๆ
- ช่วยลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่มีการดูดออกไปใช้ แต่ไม่นานไขมันก็จะกลับมาเติมเต็มส่วนที่หายไป
-
- ข้อเสียของ FAT-Filler
-
-
- การใช้วิธีนี้ถือเป็นศัลยกรรมขนาดเล็ก จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นนานพอสมควร
- บริเวณที่ได้รับการฉีดอาจมีก้อนไต หรือมีอาการเขียวช้ำ บวม โดยจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้รอยช้ำต่าง ๆ เหล่านั้นค่อย ๆ จางลง
- หากน้ำหนักลดลงในส่วนของไขมันอาจจะหายไปเหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เซลล์ไขมันยังติดไม่ดี ซึ่งหากมีการเผาผลาญไขมันสูงก็จะทำให้ไขมันหายไปได้
- สำหรับการใช้วิธีนี้ค่อนข้างยากกว่าวิธีแรก เพราะจำเป็นต้องดูดไขมันออกจากร่างกายและทำการฉีดเข้าไปใหม่ โดยมีหลายขั้นตอนรวมทั้งใช้เวลานาน
- มีผลงานวิจัยรับรองจาก Literature Review การฉีดไขมันมีโอกาสที่จะเสี่ยงทำให้ตาบอดมากกว่าการเลือกใช้ HA-Filler
- สำหรับการเลือกฉีดด้วยวิธีนี้ คนไข้ต้องมาลุ้นว่าเซลล์ไขมันที่ได้ทำการฉีดเข้าไปนั้น จะมีโอกาสรอดมากน้อยแค่ไหน
- หากขั้นตอนนี้เลือดไปเลี้ยงเซลล์ไขมันไม่ดี ส่งผลทำให้ไขมันฝ่อและมีผลต่อผิวบริเวณนั้นที่จะเกิดเป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำ ทำให้ดูไม่เรียบเนียน
-
- Permanent-filler สารเติมเต็มแบบถาวรคืออะไรPermanent-filler คือ สารที่สามารถคงอยู่ในสภาพภายใต้ผิวหนังได้นาน โดยเป็นสารเติมเต็มประเภทถาวรซึ่งมีประโยชน์ต่อการนำไปรักษาโรค แต่ไม่นิยมที่จะนำมาฉีดเพื่อเสริมตกแต่งความงามบริเวณใบหน้า เนื่องจากมีความเสี่ยงและเป็นอันตรายเพราะไม่สามารถสลายเองได้ จึงอาจส่งผลโดยตรงกับผิวหนัง โดยชนิดของสารเติมเต็มที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังต่อไปนี้ซิลิโคนเหลว (Silicone) คือ หนึ่งในสารประเภทถาวรซึ่งมีชื่อค่อนข้างคุ้นหูสำหรับคนไทย เพราะในอดีตเป็นหนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยม ทั้งในและต่างประเทศ แต่ในปัจจุบันได้รับความนิยมลดลง เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่าเป็นสารที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่สามารถสลายตัวเองได้ เปรียบเทียบแล้วเหมือนการฉีดพลาสติกเข้าสู่ร่างกายซึ่งในช่วงแรก อาจจะดูสวย แต่ถ้าในระยะเวลาผ่านไปร่างกายจะมีการทำปฏิกิริยาต่อต้านกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาอยู่ในบริเวณใบหน้า ยกตัวอย่างเช่น มีอาการหน้าบวมผิดรูป มีอาการผิวขรุขระเป็นคลื่น มีอาการก้อน เกิดการห้อยย้อยลงมา หรือลักษณะก้อนแข็ง ซึ่งการรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมค่อนข้างยาก โดยปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใดที่สามารถใช้ฉีดสลายซิลิโคนเหลวให้หายไปได้ มีวิธีการรักษาเพียงการรับประทานยาหรือฉีดบรรเทาอาการเพื่อประคับประคองให้อาการทุเลาลงในช่วงระยะแรก แต่การจะทำให้ซิลิโคนเหลวหายไปต้องทำการผ่าตัดเพื่อขูดเอาซิลิโคนเหลวออกพาราฟิน (Bellafill) สำหรับสารเติมเต็ม ๆ ถาวรประเภทนี้ ถึงแม้จะได้รับการรับรองจากอย. ว่าสามารถนำมาใช้ในการเติมเต็มหลุมสิวหรือบริเวณร่องแก้ม แต่แพทย์ส่วนใหญ่หลาย ๆท่านไม่นิยมที่จะนำมาฉีดเพื่อทำการตกแต่งเสริมความงามบริเวณใบหน้า เนื่องมาจากเป็นประเภทที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และยังไม่มียาชนิดใดที่สามารถทำการสลายได้ ส่งผลทำให้สารประเภทนี้มีสภาพการคงอยู่นาน และอาจส่งผลโดยรวมต่อผิวทำให้ผิวอาจมีอันตราย นอกจากนี้ผลข้างเคียงของการฉีดคล้ายกับการฉีดซิลิโคน ซึ่งถ้าหากต้องเอาออกจากร่างกายมีวิธีเดียว คือ ต้องทำการผ่าตัดเพื่อขูดเอาเนื้อเยื่อบริเวณนั้นทิ้งไป
- ข้อดีของ Permanent-filler
- สามารถคงสภาพอยู่ได้นานไปจนถึงอยู่ถาวร
- มีราคาถูก
- ข้อเสียของ Permanent-filler
- เป็นสารที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ทำให้ดูดีในช่วงแรก แต่ในเวลาต่อมาผิวหนังจะเริ่มไม่สม่ำเสมอเกิดอาการเป็นคลื่น เป็นก้อน และดูผิดรูป
- ซิลิโคนเหลวสามารถที่จะไหลกระจายไปจุดอื่น ๆ ได้
- มีโอกาสเกิดการอักเสบและมีโอกาสติดเชื้อ
- เสียงต่อภาวะอุดตันเส้นประสาทหรือบริเวณเส้นเลือด ทำให้เกิดปัญหาเนื้อตายหรือตาบอดได้
- ยังไม่สามารถฉีดยาเพื่อสลายได้
- สำหรับการผ่าตัดในบางครั้งไม่สามารถที่จะเอาสารเติมเต็มชนิดนี้ออกไปได้ทั้งหมด เนื่องจากมีการทิ้งระยะเวลาจนนานเกินไป ส่งผลทำให้สารชนิดนี้ซึมเข้าไปอยู่ในบริเวณเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ ภายในร่างกาย
- ก่อนฉีดสารเติมเต็มความพิจารณาดังนี้
- คุณควรเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- สารเติมเต็มที่ใช้จะต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
- สถานบริการควรมีความน่าเชื่อถือ
- ข้อดีของ Permanent-filler
เช็คฟิลเลอร์ปลอม-แท้อย่างไร
หลังจากนวัตกรรมทางการแพทย์ในการพัฒนาสารเติมเต็ม เพื่อใช้ดูแลด้านความสวย ความงาม ส่งผลทำให้หลายท่านหันมาดูแลตัวเอง โดยหลังฉีดทำให้ใบหน้าเต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ เพราะเป็นการรักษาที่เห็นผลได้จริง เห็นผลชัดเจน ถ้าสารเติมเต็มเป็นของแท้จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติจนหมด และยังเป็นการกระตุ้นให้ผิวบริเวณนั้น เกิดการสร้าง Collagen ธรรมชาติให้ผลลัพธ์ที่ดี ทำให้ปัจจุบันมีการผลิตฟิลเลอร์ปลอม เข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดราคาถูก และนั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่ผู้บริโภคควรระมัดระวัง ดังนั้นวันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีการเช็คข้อมูลของแท้กันอย่างละเอียด รวมถึงรีวิวการแกะกล่องฟิลเลอร์แท้ดูกันยังไง เพื่อให้ทุกท่านเห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการที่ไหนดี และการเลือกผลิตภัณฑ์ยี่ห้อที่ปลอดภัย
รู้เท่าทันของปลอม
เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมของการพัฒนาการสกัดสารเติมเต็มเพื่อช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึงอยู่ตลอด เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะมีการสร้างเส้นใย Collagen อยู่บริเวณชั้นผิว เพื่อให้ผิวพรรณรักษาความตึงและอ่อนเยาว์ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นหรือการเผชิญสภาวะทางอากาศที่มีผลต่อผิว ทำให้ Collagen บริเวณนั้นลดน้อยลง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดริ้วรอยตามมา รวมถึงความหย่อนคล้อยตามกาลเวลา อีกทั้งในแต่ละวันที่เราแสดงสีหน้าก็มีผลต่อการเกิดริ้วรอย ดังนั้นการนำผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ หลังฉีดในจุดที่มีปัญหาจะช่วยฟื้นฟูบริเวณใบหน้าและยังช่วยยกกระชับให้เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้น ทำให้ผิวอิ่ม มีน้ำมีนวล มีสุขภาพดีสามารถเสริมความมั่นใจในบุคลิกภาพของเราให้ดูดี
ถึงแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลดีโดยตรงด้านความงาม แต่เนื่องจากเทคโนโลยีในตอนนี้ มีการผลิตของปลอมออกมาสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลเสียหายต่อผู้บริโภค เพราะถ้าเป็นของปลอมจะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ในบางรายถึงขั้นต้องขูดฟิลเลอร์ปลอมออกจากบริเวณชั้นผิว ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้ใช้บริการต้องระวัง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสกับวิธีการดูของแท้ให้เห็นกันชัด ๆ ว่าของแท้เป็นอย่างไร
ของแท้ต้องได้รับอย.ทุกกล่อง
โดยปกติผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ ถ้าหากจะได้รับอนุญาตและนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐ โดยหน่วยงานที่ควบคุมในส่วนนี้ คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งก่อนที่จะนำเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศไทย จะมีการตรวจสอบจนถึงต้นทาง ทำให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการการันตีว่าปลอดภัย
สำหรับในประเทศไทยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมีทั้งหมด 4 ยี่ห้อ โดยเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในยุโรป อเมริกา และในแถบภูมิภาคเอเชีย วันนี้เราจะพาทุกท่านไปสำรวจพร้อมแกะกล่องคุณสมบัติของทั้ง 4 ยี่ห้อกันว่า แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และควรเลือก ฉีด Filler ยี่ห้อไหนดี ซึ่งยี่ห้อที่เราจะพาไปแกะกล่องนั้นมีดังนี้
-
-
- Restylane ผลิตภัณฑ์จากสวีเดน
- Juvederm ผลิตภัณฑ์จากสหรัฐอเมริกา
- Belotero ผลิตภัณฑ์จากสวิตเซอร์แลนด์
- Neuramis ผลิตภัณฑ์จากเกาหลีใต้
-
สำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติอย่างไร เรามาเจาะลึกในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
1. Restylane Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการควบคุมการผลิต พร้อมปรับโครงสร้างให้มีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับสารไฮยาลูโรนิค แอซิด โดยเป็นสารสกัดที่มีอยู่ในตามธรรมชาติ ทำให้ร่างกายของเราตอบสนองได้ดี จึงไม่เกิดอาการแพ้
คุณสมบัติและความโดดเด่นของยี่ห้อ Restylane
-
- ช่วยยกกระชับบริเวณใบหน้าได้ดี
- เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้น้อยมาก
- เนื้อสัมผัสของสารเติมเติม มีเนื้อสัมผัสที่นิ่ม พร้อมกับความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถช่วยเติมเต็มในจุดที่ต้องการได้เป็นอย่างดี จึงสามารถปรับรูปหน้าให้สวยแลดูเนียนเป็นธรรมชาติ
แง่มุมการใช้งานของผลิตภัณฑ์นี้
สำหรับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ ในแง่มุมของการใช้งาน จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังต่อไปนี้
-
- เน้นใช้งานในการปรับรูปหน้า พร้อมกับฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
- Restylane Lidocaine มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาจากโมเลกุลขนาดเล็ก ส่งผลทำให้ซึมลึกเข้าสู่ชั้นกลางของผิวหนัง ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานประเภทเติมเต็มในบริเวณร่องน้ำหมาก บนใบหน้า
- Restylane Refyne เป็นรุ่นที่เหมาะกับท่านที่ผิวบาง เหมาะกับการใช้ในบริเวณร่องแก้ม หรือบริเวณร่องน้ำหมาก
- Restylane Defyne มีคุณสมบัติที่ดีในการซึมลึกถึงชั้นผิวกลาง และชั้นไขมัน จึงเหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณกรอบหน้า รวมถึงเน้นการยกกระชับสัดส่วน
- Restylane Lyft คุณสมบัติเน้นการขึ้นรูปปรับแต่งใบหน้า พร้อมยกกระชับบริเวณกรอบหน้า รวมถึงบริเวณคาง ให้ได้สัดส่วนดูดี
- Restylane Volyme เหมาะกับใช้บริเวณขมับหรือช่วยในการยกกระชับบริเวณใบหน้าและแก้ม
- เน้นการใช้งานช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้า รวมถึงเสริมให้ใบหน้าดูขาวกระจ่างใส
- Restylane Vital คุณสมบัติของโมเลกุลที่บางเบา เติมเต็มใบหน้าได้ทุกจุด ช่วยเสริมให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใส และยังสามารถทำให้บริเวณชั้นผิวตื้นขึ้น โดยสามารถใช้ฉีดในบริเวณคอหลังมือและบริเวณอื่น ๆ ได้
- Restylane Vital Light มีคุณสมบัติของโมเลกุลที่บางเบา จึงสามารถช่วยเติมเต็มใบหน้าได้ทุกจุด ให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส และทำให้บริเวณชั้นผิวแลดูตื้นขึ้น โดยสามารถนำไปใช้ฉีดในบริเวณคอหลังมือและบริเวณอื่น ๆ ได้
- เน้นใช้งานในการปรับรูปหน้า พร้อมกับฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
2 Juvederm Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่น ได้รับการควบคุมการผลิตจากบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับในการใช้ขึ้นรูปใบหน้าให้ดูสวยกลมกลืน ไม่เป็นก้อน ทำให้ดูเนียนเป็นธรรมชาติ และผลข้างเคียงหลังฉีดมีน้อย เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ยี่ห้อนี้หลังฉีดแล้วพบภาวะอาการบวมน้อยกว่า ที่สำคัญสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม เพราะในบางรุ่นสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาฉีดซ้ำบ่อย ๆ ซึ่งแบรนด์นี้นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand (DSKH) ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองความปลอดภัยทั้ง US FDA และ Thai FDA
คุณสมบัติและความโดดเด่นของยี่ห้อ Juvederm
-
- ได้รับการรับรองความปลอดภัยทั้งสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทย
- พบอาการบวมหลังฉีดน้อย มีผลข้างเคียงน้อย
- มีเนื้อสารต่าง ๆ ที่บางเบามีโมเลกุลเล็ก
แง่มุมของการใช้งานผลิตภัณฑ์นี้
สำหรับผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้ ยังมีการแบ่งแยกรุ่นของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
-
- Juvederm Ultra คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับใช้เติมบริเวณร่องแก้ม บริเวณขมับ ซึ่งจะช่วยทำให้บริเวณที่ฉีดแลดูอิ่มน้ำ เต่งตึงขึ้น หลังทำการฉีดสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
- Juvederm Ultra Plus มีคุณสมบัติเหมาะกับการใช้เติมบริเวณร่องแก้ม รวมถึงในจุดร่องลึกต่าง ๆ บริเวณขมับ รวมถึงท่านที่มีปัญหาหน้าตอบ โดยหลังได้รับการฉีดสามารถคงอายุอยู่ได้นาน 6-9 เดือน
- Juvederm Volbella เป็นสารสกัดที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เน้นการเติมเต็มบริเวณใต้ดวงตา ริมฝีปากเพื่อให้ทั้ง 2 จุดดูเป็นธรรมชาติ สำหรับอายุของสารเติมเต็มชนิดนี้จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volift มีความโดดเด่นในการเติมเต็มร่องลึกบริเวณใบหน้า ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอายุ โดยสามารถแก้ไขบริเวณจุดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ เพราะหลังฉีดแล้ว จะไม่ดูเป็นก้อน แลดูเป็นธรรมชาติ โดยเนื้อสัมผัสของสารเติมเต็มสามารถกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ได้ดี สำหรับอายุของผลิตภัณฑ์หลังฉีดสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvederm Voluma เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีคุณสมบัติสารพัดประโยชน์ ด้วยโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ จึงช่วยทำให้การเพิ่มเติมในจุดต่าง ๆ บนใบหน้าทำได้เป็นอย่างดี แต่ต้องขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำหน้าที่ในการใช้ฉีด โดยรุ่นนี้ใช้ได้ทั้งบริเวณแก้ม ใบหน้า ยกกระชับ บริเวณขมับ คาง รวมถึงการปรับรูปหน้าให้แลดูเป็นวีเชฟ สำหรับอายุของผลิตภัณฑ์หลังฉีดแล้วสามารถคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี
- Juvederm Volite ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวเนียน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับบริเวณผิวพรรณ และยังสามารถช่วยปรับสภาพผิวให้ดูขาวกระจ่างใส เหมาะสำหรับใช้บริเวณใต้ตา รวมถึงบริเวณหลังมือ ลำคอ และช่วงอกด้วย
- Juvederm Volux มีขนาดโมเลกุลหนักจึงสามารถคงตัวได้ดี เหมาะสำหรับใช้ในการปรับบริเวณขากรรไกร กราม คาง เพื่อให้ดูมีความแข็งแรงและยังสามารถขึ้นรูปใบหน้าได้ง่าย
3 Belotero Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการการันตีจากรางวัลด้านความงามในทวีปยุโรป เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีความพรีเมี่ยมจากสวิตเซอร์แลนด์ ปลอดภัย เพราะขึ้นทะเบียนถูกต้องในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และประเทศไทย
คุณสมบัติและความโดดเด่นของยี่ห้อ Belotero
-
- เป็นแบรนด์ที่ได้มาตรฐานจากสวิตเซอร์แลนด์
- หลังฉีดแล้วผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี
- เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในยุโรปและมีผลลัพธ์ที่ดี
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทย
- ผลิตภัณฑ์นี้ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยี เอกสิทธิ์เฉพาะตัวจากบริษัทผู้ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลการันตีด้านคุณภาพจากยุโรปถึง 2 รางวัล
การใช้งานของผลิตภัณฑ์นี้
สำหรับแต่ละรุ่น มีคุณสมบัติที่โดดเด่น เหมาะกับบริเวณชั้นผิวต่าง ๆ ดังนี้
-
- Belotero Soft เป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้บริเวณใต้ตาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการใช้เทคนิค Skin Booster
- Belotero Balance เหมาะสำหรับการใช้เติมบริเวณริมฝีปาก รวมถึงริ้วรอยบนใบหน้าให้ดูตื้นขึ้นและแก้ปัญหาหลุมสิว
- Belotero Intense เหมาะสำหรับการเลือกใช้เติมบริเวณร่องแก้มรวมถึงร่องน้ำหมาก
- Belotero Volume เหมาะสำหรับในการเลือกใช้ปรับรูปหน้าพร้อมยกกระชับบริเวณใบหน้า คาง แก้ม และขมับ
4 Filler Neuramis เป็นผลิตภัณฑ์ชื่อดังที่ผลิตจากเกาหลี เหมาะสำหรับคุณสาว ๆ ที่ต้องการสารเติมเต็มในราคาคุ้มค่า ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย ทั้งจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทย เป็นแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างตรงจุด
คุณสมบัติและความโดดเด่นของยี่ห้อ Neuramis
-
- เป็นผลิตภัณฑ์มาตรฐานจากประเทศเกาหลีใต้
- ได้รับการการันตีด้านความปลอดภัยจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทย
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
รีวิวการแกะกล่องของแท้
เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใน เราได้จัดทำคลิปแนะนำให้ท่าน ขอเชิญทุกท่านรับชมการรีวิวแกะกล่องฟิลเลอร์แท้อย่างละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ
วิธีตรวจสอบของปลอมด้วย Application
เทคโนโลยีที่คลินิกเลือกใช้เพื่อความสะดวกในการเช็คข้อมูล ทำให้คุณตรวจสอบได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่เป็นของแท้หรือไม่
คำถามที่พบบ่อย
หลังการฉีดกี่วันถึงจะเริ่มเข้าที่
เชื่อว่าหลายท่านคงเห็นความสามารถในการปรับรูปหน้า โดยการใช้สารเติมเต็มชนิดนี้กันไปแล้ว ส่วนบางท่านที่กำลังหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ก็คงกังวลอยู่ว่าหลังจากฉีดสารเติมเต็มบนในหน้าไปแล้วกี่วันถึงจะเข้าที่ เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจระยะเวลากันต่อเลยค่ะ
สำหรับคำถาม “ ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ”
หลายคนที่สงสัยกันว่า ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเข้าที่ หากคุณตัดสินใจเลือกการดูแลความสวยด้วยวิธีนี้สามารถคลายกังวลได้เลยค่ะ เนื่องจากสารเติมเต็มชนิดนี้ไม่ใช่การทำศัลยกรรม เพราะฉะนั้นจึงเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นเลย หากท่านใดที่เคยเห็นคลิปการฉีดโดยคุณหมอเมฆมาแล้ว ก็จะเห็นได้ว่ารูปทรงบนใบหน้าดีขึ้นหลังทำการฉีดทันทีกว่า 70-80% เลยทีเดียว
การเลือกดูแลตัวเองด้วยวิธีนี้จึงสามารถกลับไปทำงาน แต่งหน้า ปาร์ตี้ ช้อปปิ้ง ได้ชิล ๆ เพราะไม่ต้องผ่าตัด ระยะในการพักฟื้นร่างกายจึงใช้เวลาน้อยกว่า และอีกข้อดีคือ เราสามารถดูรีวิวก่อนตัดสินใจทำได้ สำหรับระยะเวลาหลังจากที่ทำการฉีดให้เข้าที่ ดูฟูสวยงาม เซตเข้ากับรูปหน้าสามารถเห็นผลได้100% ซึ่งมีการวิจัยระบุโดยเฉลี่ยหลังจากทำใช้ระยะอยู่ที่ 1 เดือน ส่วนระยะเวลาจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มที่เลือกใช้
สำหรับทริกเล็ก ๆ ที่ทางเราอยากจะแนะนำ การที่มีสารเติมเต็มบนใบหน้าจะเซตตัวเข้าที่ควรทำการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งจะช่วยเสริมให้การเข้าที่ทำได้เร็ว เพราะน้ำนอกจากจะเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่าง ๆ แล้ว ในร่างกายของเรา 60% มีน้ำอยู่ตามธรรมชาติ ดังนั้นจึงสามารถดูดซับน้ำไว้เพื่อช่วยในการเซตตัว
บริการนี้มีความอันตรายไหม
ถึงแม้การฉีดนี้จะทำให้เราดูดี แต่ก่อนที่จะทำอะไรสักอย่างเราต้องตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียด เพราะผลกระทบหรือเอฟเฟคที่ตามมาบางครั้งรุนแรงจนยากเกินจะรับได้ ยิ่งการรับการบริการทางการแพทย์ เราควรจะใส่ใจรายละเอียดสักนิดเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม
แต่สำหรับบริการภายใต้การดูแลโดยอาจารย์หมอเมฆสามารถไว้ใจได้ เนื่องจากมีประสบการณ์โดยตรงทำให้คุณหมอมีความชำนาญในการฉีดสารเติมเต็มบนใบหน้า การปรับรูปหน้าเป็นไปอย่างธรรมชาติสวยดูดีทันทีที่ทำ ซึ่งเรามีส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ของคุณหมอเมฆนำมาฝากในหัวข้อที่หลายท่านสงสัยว่าถ้าฉีดแล้วจะเป็นอันตรายหรือไม่ โดยสรุปข้อมูลได้ดังนี้
- ตรวจสอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้หรือไม่
เนื่องจากสารเติมเต็มชนิดนี้เป็นลักษณะชั่วคราว ถ้าหากเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้จะสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อรูปร่างให้ดูบิดเบี้ยวผิดรูปหรือมีอาการไหลย้อย ซึ่งเป็นคุณสมบัติของการเลือกใช้ของแท้ในข้อนี้ จึงสบายใจได้และถ้าได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญที่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักเจอ คือ สารเติมเต็มของปลอมที่มีจำหน่ายเลียนแบบอยู่ในท้องตลาด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และขึ้นชื่อว่าของปลอม โดยจะส่งผลทำให้เป็นอันตรายหลังรับการฉีด
- ตำแหน่งในการฉีด
สำหรับสารเติมเต็มโดยชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าจะช่วยเติมเต็มในจุดที่ต้องการที่มีร่องลึก ดังนั้นประโยชน์ของสารชนิดนี้จึงช่วยทำให้สามารถเติมเติมบริเวณใบหน้า ช่วยยกกระชับและสามารถปรับรูปหน้าได้ในหลายจุด แต่ข้อควรระวัง คือ ตำแหน่งในการฉีดจะต้องเป็นจุดที่เหมาะสมและมีความปลอดภัยกับคนไข้ ดังนั้นแพทย์ผู้ชำนาญจึงให้ความสำคัญในจุดนี้ และจะระวังมาก ๆ ในระหว่างที่มีการฉีด เพราะบริเวณใบหน้าของเราจะมีหลอดเลือดในจุดสำคัญ ดังนั้นจะต้องหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงนี้ ยกตัวอย่างเช่น ในบริเวณหน้าผาก หัวคิ้ว จมูก ขมับ และในส่วนที่ต้องการให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น บริเวณใต้ตา คาง แก้มตอบ แก้มส้ม ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม หากเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์จะรู้จักตำแหน่งนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นผู้ใช้บริการจึงสามารถมั่นใจได้เมื่อเข้ารับบริการ
- ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
การที่ผลลัพธ์จะออกมาดูดีได้ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ที่ดูแลในแต่ละเคส ถ้าหากเราได้แพทย์ที่มีความชำนาญและมีชั่วโมงในการดูแลคนไข้ที่เพียงพอ นั่นหมายถึงว่าฝีมือของผู้ดูแลจะอยู่ในระดับที่ไว้ใจได้ อย่าลืมว่ารูปแบบการทำหัตถการเป็นลักษณะการฉีดที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อออกแบบรูปหน้าให้ดูสวยเข้ากับบุคคลที่เข้ารับการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มชนิดนี้ เพราะทางแพทย์จะต้องมีการวิเคราะห์และอาศัยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีผลต่อเนื้อเยื่อที่มีความเกี่ยวพันกับการหย่อนคล้อย โดยเฉพาะโครงสร้างกระดูกที่มักจะยุบตามกาลเวลา จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหย่อนคล้อยตรงบริเวณใบหน้าซึ่งจะทำให้ดูโทรม ดังนั้นการใช้ศิลปะทางการแพทย์เพื่อการดีไซน์รูปหน้า รวมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีโมเลกุลในสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล ผนวกกับเทคนิคการวางตำแหน่งในการฉีด จึงต้องอาศัยความสามารถและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ดูแล
ฉีดไปแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
หลังจากที่เราเห็นตัวอย่างการรีวิวก่อนและหลังทำเคสโดยอาจารย์หมอเมฆ พบว่าผลลัพธ์ดูสวยเป๊ะ หลังฉีดดูหน้าเด็กลง ซึ่งหลายท่านอาจจะยังต้องการทราบคำตอบว่า ถ้าเราฉีด filler อยู่ได้นานแค่ไหนจนกว่าสารตัวนี้จะสลายไปตามธรรมชาติ วันนี้เราจึงขอนำข้อมูลดี ๆ มาฝากสำหรับหลายท่านที่ยังสงสัยในข้อนี้
- สำหรับสารเติมเต็มบนใบหน้าที่เป็นของแท้ ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับ Collagen ตัวหนึ่งที่อยู่บริเวณชั้นผิวของเรา โดยสารชนิดนี้จะเป็นลักษณะเติมแบบชั่วคราว ดังนั้นระยะเวลาของการอยู่บริเวณใบหน้าของเราจึงขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ฉีดเข้าไป เพราะกรรมวิธีสำหรับการผลิตจะมีส่วนสัมพันธ์กันทั้งโมเลกุลและรุ่นที่ใช้ในแต่ละยี่ห้อ เพราะแต่ละรุ่นก็จะมีการผลิตออกมาต่างกัน ดังนั้นจึงกลายเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมแต่ละชนิดจึงมีอายุหลังฉีดไม่เหมือนกัน
- อายุของฟิลเลอร์หลังฉีดเข้าบนใบหน้าจะสามารถอยู่ได้อย่างน้อย 9 เดือน แต่มีอยู่หลายชนิดที่มีงานวิจัยออกมาสนับสนุนว่าสามารถอยู่บนใบหน้าของเราได้ตั้งแต่ 12 เดือน 18 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน โดยขึ้นอยู่กับจุดที่มีการฉีด ยกตัวอย่างเช่น บริเวณคางจะพบว่าอยู่ได้นานกว่าในจุดอื่น
- หากเราหารค่าเฉลี่ยหลังทำจะพบว่าการยกกระชับสามารถอยู่ได้นานที่สุดถึง 2 ปี ดังนั้นราคาและผลลัพธ์ที่ได้จึงคุ้มค่ากว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อครีมกระปุกที่เราใช้ในแต่ละเดือน ซึ่งบางท่านเลือกใช้ครีมเคาเตอร์แบรนด์ราคาแพง คุณสมบัติสูง แต่ก็ค่าใช้จ่ายสูงตามไปด้วย ดังนั้นถ้าเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับการเลือกดูแลใบหน้าด้วยวิธีนี้ก็สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณ
- สำหรับปริมาณในการใช้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ซึ่งจะต้องคำนวณตามสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล โดยในจุดนี้จะต้องได้รับการวิเคราะห์โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้การคำนวณออกมามีความแม่นยำสามารถคำนวณปริมาณที่ต้องการใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยปริมาณในการฉีดสำหรับใช้ปรับเปลี่ยนแก้ไขบริเวณใบหน้าสามารถเริ่มต้นฉีดในปริมาณ 1-2 ซีซีไปจนถึง 20 ซีซี ซึ่งจะมีการแบ่งตามตำแหน่ง โดยผลลัพธ์จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทำให้โครงสร้างใบหน้าดูสวยอย่างลงตัว ซึ่งข้อนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ที่ดูแลในแต่ละเคสด้วยค่ะ
หลังฉีด Filler ห้ามกินอะไรบ้าง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ยกตัวอย่างเช่น Collagen วิตามินซี grape seed เนื่องจากหลังฉีดหากเรารับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทนี้เข้าไปจะทำให้หน้าของเรามีเลือดฝาด ซึ่งอาจส่งผลต่อรอยเข็มทำให้หายช้าลง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการรับประทานประมาณ 3-7 วัน
- งดเว้นอาหารรสเค็มจัด ยกตัวอย่างเช่น ส้มตำปูปลาร้า ปลาเค็ม เนื่องจากเป็นอาหารกลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะว่าอาหารเค็มจัดจะทำให้มีการดูดน้ำกลับเข้ามาในร่างกายเยอะ บริเวณหน้าและลำตัวอาจจะดูบวมซึ่งบางท่านมักมีอาการบวมน้ำ หากเป็นไปได้ไม่ควรรับประทาน
- ยาที่มีผลต่อการต้านการแข็งตัวของเลือด ยกตัวอย่างเช่น aspirin หรือ warfarin ยังสามารถรับประทานได้ปกติ เนื่องจากการฉีดสารเติมเต็มเป็นหนึ่งในหัตถการขนาดเล็กที่ฉีดเฉพาะที่ ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เลือดออกแล้วหยุดยากมีความเป็นไปได้น้อยมาก
- ทานไข่ไก่ได้ไหม? สำหรับข้อนี้จริง ๆ แล้วเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลว่าเป็นอาหารประเภทแสลง แต่ถ้าตามหลักวิชาการในการรับประทานไข่ไก่จัดเป็นหนึ่งในโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งจะสามารถช่วยบำรุงร่างกายให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ แถมย่อยง่าย
- ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หัวใจของเราสามารถสูบฉีดเลือดได้ดี ทำให้หลอดเลือดมีการขยายตัวซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้บางท่านเวลาดื่มบริเวณใบหน้าจะแดง ตัวบวม ดังนั้นหากคุณได้รับการฉีด ควรหลีกเลี่ยงเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ถึง 7 วัน
หลังฉีดแล้วโดนแดดได้ไหม
หลังทำการฉีดแล้วสามารถโดนแดดได้ปกติ เนื่องจากตำแหน่งที่ทำการฉีดจะอยู่บริเวณผิวหนังชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับบริเวณชั้นผิว ทำให้ห่างจากผิวชั้นนอก การทำกิจกรรมที่เกิดขึ้นจึงไม่ส่งผลต่อผิวชั้นลึกที่ทำการฉีด นอกจากนี้ทางคลินิกของเราได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันทดลอง และจัดอยู่ในกลุ่มที่สามารถอยู่ในผิวหนังของมนุษย์และทนต่อแสงแดด จึงไม่ส่งผลต่อสารเติมเต็มที่ทำการฉีดเข้าไป
สาเหตุหลังการฉีดแล้วมีอาการก้อนบวม
สำหรับปัญหาหลักหลังจากที่มีการฉีดไปแล้ว บางท่านพบว่ามีอาการฉีด filler แล้วเป็นก้อน รวมถึงมีอาการบวม เบื้องต้นจะต้องสังเกตก่อนว่าอาการนี้ใช่การติดเชื้อหรือไม่ โดยวิธีการสังเกตให้ตรวจสอบดูว่ามีอาการปวดมากกว่าปกติหรือไม่ ถ้าหากบวมกดแล้วเจ็บบริเวณก้อนฟิลเลอร์ หรือรู้สึกร้อนกว่าปกติบริเวณใบหน้า ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที
สำหรับอาการเป็นก้อนที่ไม่เข้าข่ายอาการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มักพบบ่อยมาก เพราะเกิดจากสาเหตุการฉีดของแพทย์อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าเทคนิคการฉีดมีผลต่อการปรับรูปหน้า ถ้าหากไม่มีความชำนาญอาจทำให้มีผลกระทบภายหลัง ดังนั้นจำเป็นต้องเลือกคุณหมอที่มีทักษะเฉพาะด้าน รวมถึงมีเทคนิคในการฉีดเฉพาะจุดเพื่อให้สารเติมเต็มบนใบหน้าเข้าในตำแหน่งที่ถูกจุดบริเวณชั้นผิว รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์ในการฉีดที่เป็นของแท้และได้มาตรฐานผ่านอย. หรือมีการนำเข้าจากบริษัทยาที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับในความเชื่อที่มีคนแนะนำว่าควรนวดคลึงจุดที่มีปัญหาเป็นก้อนเพื่อบรรเทา ในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่มีประโยชน์ เนื่องจากสารชนิดนี้มักจะมีการแทรกตัวขึ้นอยู่กับรูปหน้า โดยวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ การเลือกใช้บริการกับหมอที่มีความเข้าใจในการดูแล ซึ่งจะเป็นวิธีป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด
ฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันหาย
สำหรับระยะเวลาที่ตัวยาจะมีการสลายไปนั้น โดยปกติจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ยิ่งถ้าเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศได้มาตรฐานอย. และเป็นบริษัทยาชั้นนำ ตัวยาจะอยู่ในบริเวณจุดที่ฉีดนาน โดยมีปัจจัยขึ้นอยู่กับปริมาณในการฉีดเข้าในจุดที่ต้องการ ซึ่งโดยปกติแล้ว คุณหมอจะมีการสอบถามหรือซักประวัติเพื่อคำนวณปริมาณที่เหมาะสม และเช็คตำแหน่งในการฉีดเพื่อให้ถูกจุดที่ต้องการได้อย่างลงตัว แต่ถ้าเลือกใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญ อาจส่งผลทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนจนต้องให้ทางคุณหมอฉีดยาสลายเพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้
ยาสลายฟิลเลอร์ เริ่มออกฤทธิ์เมื่อไหร่
หลังจากที่คุณหมอเริ่มทำการฉีดยาสลายด้วย Hyaluronidase ในตัวยาจะเริ่มทำงานทันทีนับจากนั้นภายใน 48 ชั่วโมง และหลังจากที่ทำการฉีดไป 2 วัน คุณจะพบว่าก้อน Filler จะเกิดอาการยุบและหายไป แต่ตัวยายังคงออกฤทธิ์ได้นานถึง 2 สัปดาห์ หลังจากที่มีการฉีดยาสลาย ซึ่งในข้อมูลนี้จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ในแต่ละเคส
การฉีดยาสลายซ้ำสามารถทำได้ไหม
สำหรับการฉีดซ้ำสามารถทำได้ค่ะ ถ้าหากกรณีที่ยังมีอาการเป็นก้อนบวมใหญ่ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการฉีดซ้ำหลายครั้ง โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนครั้ง โดยส่วนมากจะทิ้งระยะเวลาห่างกันประมาณ 2 สัปดาห์
อาการข้างเคียงที่เรามักพบหลังฉีดยาสลาย
สำหรับอาการข้างเคียงที่มักพบได้บ่อยจะเป็นลักษณะอาการบวมแดงบริเวณจุดที่ฉีดเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าในกรณีที่มีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก มีอาการปวดมาก หรือมีอาการผื่นแดงคัน แนะนำควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
เนื้อหาบทความเรื่องการฉีด Filler เพื่อปรับรูปหน้าให้ยกกระชับแลดูหน้าเด็ก โดยอาจารย์หมอเมฆ นพ.วัชพล ธนมิตรามณี ( คุณหมอเมฆ ) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ และ พญ. พิชญานิน สื่อมโนธรรม ( คุณหมอแอร์ ) สูตินารีแพทย์เฉพาะทางจาก Doctor Mek Clinic
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ ในเรื่องคลินิกเสริมความงาม สามารถติดต่อกับทางคลินิก Doctor Mek ได้โดยแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ