ฉีดโบท็อกยกคิ้ว
บริการฉีดโบท็อกยกคิ้ว (Botox eyebrows lift) ช่วยแก้ปัญหาสำหรับท่านที่มีคิ้วตก หนังตาตก ดวงตาแลดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา หรือต้องการเสริมโหงวเฮ้ง หนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่อาศัยเทคนิคเฉพาะตัวของคุณหมอในการฉีดสารชนิดนี้ เพื่อให้เกิดการยกกระชับของกล้ามเนื้อ โดยผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยทำให้ระดับความสูงบริเวณคิ้วของคุณดูสูงขึ้น ส่งผลทำให้ดวงตาดูเฉี่ยว คม มีเสน่ห์ อีกทั้งยังสามารถช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้มีความสมส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัดได้
สำหรับบริการนี้จะใช้การฉีดสารโบท็อกเพื่อยกคิ้ว คุณสามารถช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและยังสามารถดึงบริเวณหนังตาที่ตกลง ให้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นทำหน้าที่ดึงขึ้น เพื่อให้หนังตาไม่ตกอีกต่อไป และยังสามารถฉีดบริเวณระหว่างคิ้วและปลายคิ้ว เพื่อที่จะทำให้คิ้วยกขึ้น ดูสวยเฉี่ยว ใบหน้าสดใส เพราะตำแหน่งนี้ตามตำราโหงวเฮ้งจะช่วยเสริมในเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน เพื่อความร่ำรวย
โบท็อกยกคิ้วคืออะไร
การฉีดโบท็อกยกคิ้ว ยกตา ทีมแพทย์จะใช้เทคนิคในการฉีดแบบ Botox Brow Lift โดยจะทำการฉีดในบริเวณโหนกคิ้วเพื่อให้บริเวณดังกล่าวที่เคยดึงหนังตาให้ตกลงเกิดการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และยังช่วยให้กล้ามเนื้อมัดที่ทำหน้าที่ในการดึง เกิดการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งกว่าเดิม โดยเทคนิคที่ใช้ในการฉีดอาจแตกต่างกันไปตามปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละบุคคล และอายุของคนไข้
ในบางกรณีอาจจะมีการฉีดโบยกคิ้วในบริเวณกล้ามเนื้อระหว่างคิ้วและปลายคิ้วเพิ่ม เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายกล้ามเนื้อระหว่างคิ้ว ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าผากผ่อนคลาย ทำให้คิ้วยกขึ้นกว่าเดิมและทำหน้าที่เปิดตาขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมีขั้นตอนที่ง่ายและใช้เวลาน้อย
นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก
ปกติแล้วเราจะรู้กันดีว่าสารชนิดนี้ใช้สำหรับลดริ้วรอย เช่น บริเวณหางตา ระหว่างคิ้ว และรอยย่นบนหน้าผาก แต่ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่พัฒนาไปมากขึ้น การฉีดจึงไม่ได้มีไว้แค่เพียงลดริ้วรอยอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังสามารถฉีดเพื่อทำการยกกระชับใบหน้า และที่สำคัญยังสามารถฉีดเพื่อเพิ่มระดับความสูงให้กับคิ้ว ให้ตาดูมีความเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ตาและคิ้ว เป็นอีกจุดหนึ่งที่เชื่อกันว่าถ้ามีลักษณะที่ดีตรงตามตำราของโหงวเฮ้ง จะสามารถช่วยให้มีชีวิต หน้าที่การงาน และการเงินที่ดี แต่ถ้าเกิดตาตก คิ้วตก อาจจะทำให้ดวงชีวิตตกได้ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะด้วยการเปลี่ยนสไตล์ในการแต่งหน้า การสักคิ้ว โดยขั้นสูงสุดก็คือการผ่าตัดเพื่อทำศัลยกรรม แต่ต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นกันอีกแล้ว เพราะคุณสามารถทำการยกตา ยกคิ้วได้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ในการฉีดสารโบท็อกซ์ ซึ่งจะใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถทำการปรับหน้าให้ตรงกับลักษณะของโหงวเฮ้งตามตำรากันได้แล้ว
โดยปกติคนส่วนใหญ่มักคิดว่าสารชนิดนี้ใช้สำหรับเพียงลดริ้วรอยเป็นหลักเท่านั้น แต่ตอนนี้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนาไปมาก จึงทำให้การฉีดได้รับการพัฒนาให้ไม่เป็นเพียงเพื่อลดริ้วรอยอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่สามารถทำการฉีดเพื่อยกกระชับใบหน้าของคุณให้ใบหน้าดูเต่งตึง มีความกระชับ แลดูเรียบเนียน ผิวดูสวย คุณจึงสามารถฉีดเพื่อทำการเพิ่มระดับความสูงของคิ้ว และยังช่วยทำให้ตาของคุณดูเฉี่ยว มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
Botox Eyebrow Lift Before & After
ภาพก่อนทำการฉีดโบ ซึ่งจะเห็นตำแหน่งของหางคิ้วมีลักษณะตก ทำให้โหงวเฮ้งของใบหน้าแลดูไม่ดี และภาพหลังทำ botox ยกคิ้ว รีวิวจากคนไข้จริงที่มีความไว้วางใจเลือกใช้บริการกับคลินิกของเรา โดยจะเห็นได้ว่าตำแหน่งของหางคิ้วถูกยกให้สูงขึ้น จึงทำให้ใบหน้าแลดูคมมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นได้
รีวิวการฉีดโบท็อกเพื่อยกคิ้วจากคนไข้จริง
ภาพรีวิวความประทับใจส่วนหนึ่งจากคนไข้จริงที่เลือกทำการฉีด Botox eyebrows lift กับทางคลินิกของเรา โดยคนไข้ส่วนใหญ่ต่างพอใจในผลลัพธ์หลังทำกันเป็นอย่างมาก และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉีด botox ยกหัวคิ้วแล้ว คิ้วยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้หน้าไม่เศร้า ไม่ดูดุเหมือนแต่ก่อน
ฉีดโบท็อกยกคิ้ว ราคาเท่าไร
สำหรับหัตถการโบท็อกยกคิ้ว ราคาค่าบริการจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ และปริมาณในการใช้ เนื่องจากแต่ละท่านมีปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกัน ซึ่งจะส่งผลกับปริมาณในการใช้ที่ไม่เท่ากัน ทั้งนี้แนะนำให้ท่านที่สนใจสามารถขอเข้ารับการปรึกษากับแพทย์โดยตรงได้ เพื่อให้คุณได้ทราบถึงปัญหาที่ตรงจุด ปริมาณที่ต้องใช้และการประเมินในราคาที่คุ้มค่าก่อนเข้ารับบริการจริงได้
บริการนี้เหมาะกับใครบ้าง
สำหรับการฉีดโบท็อกระหว่างคิ้วในคนที่มีปัญหาเรื่องคิ้วตก หรือหนังตาตก ซึ่งทำให้ใบหน้าของคุณแลดูเศร้าหมอง ง่วงนอนตลอดเวลา ดูเหนื่อยล้าไม่สดใส บริการนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีโดยจะเป็นการฉีดที่เน้นให้ดูมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งหน้าไม่แข็งตึง และยังช่วยให้ผิวบริเวณหน้าผากมีความกระชับมากขึ้น ส่วนบริเวณคิ้วจะแลดูยกขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
หากคุณต้องการฉีดโบท็อกยกคิ้วให้ได้เยอะ ๆ ทางคุณหมอแนะนำให้ทำการผ่าตัดหรือปรับเปลี่ยนวิธีในการเขียนคิ้วจะช่วยได้ เพราะหากเลือกใช้โบท็อกในการแก้ปัญหาให้คิ้วยกขึ้นไปได้มาก ๆ ในส่วนของบริเวณหน้าผากก็จะเกิดความตึง แข็ง และดูไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งคุณต้องทำการฉีดบ่อย ๆ ทำให้ในระยะยาวอาจเกิดโอกาสในการดื้อโบท็อกได้สูง
อีกหนึ่งคำแนะนำ ซึ่งเราสามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นที่นิยมมาก สิ่งที่ควรระวังคือ เรื่องของยี่ห้อที่เป็นของปลอม เพราะอันตรายจากความไม่รู้ในการเลือกใช้ของปลอมจะทำให้ฉีดแล้วไม่ได้ผล หมดฤทธิ์ไว อาจจะดูเหมือนไม่รุนแรงอะไรมากนักแต่ว่าเมื่อคุณต้องฉีดบ่อยขึ้นก็จะเสี่ยงต่อการดื้อยาได้ ซึ่งยังเป็นสิ่งที่รักษาไม่ได้ หรือถ้าหากฉีดแล้วตัวยาเกิดการกระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น ๆ ที่อาจทำให้หนังตาตกหรือปากเบี้ยวก็เป็นได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีก่อนตัดสินใจเลือกฉีดกับที่ไหน คุณควรรู้วิธีการดูของแท้ยี่ห้อต่าง ๆ รวมไปถึงการเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และให้บริการฉีดโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
เทคนิคการฉีดโบท็อกเพื่อยกคิ้ว (Brow lift)
หลายท่านคงเคยเห็นโฆษณาสินค้าตัวหนึ่งที่ทำเอาหลายคนพูดกันติดปากทั่วบ้านทั่วเมืองว่า คิ้ว คือ มงกุฏของใบหน้า เพราะคิ้วถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญบนใบหน้า ดังนั้นตำแหน่งและรูปลักษณ์ของคิ้วที่สวยงามจึงมีส่วนช่วยทำให้ใบหน้าของเราแลดูดียิ่งขึ้นได้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากคิ้วเกิดการผิดรูปหรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลทำให้ใบหน้าแลดูไม่สวยงามเท่าที่ควรจะเป็นได้ ตัวอย่างเช่น หากคนไข้มีปัญหาเกิดอาการคิ้วตกจะทำให้ใบหน้าแลดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา ส่วนคนที่มีลักษณะคิ้วยกสูงก็อาจมีส่วนช่วยให้ใบหน้าแลดูสดใสและอ่อนกว่าวัยได้ เป็นต้น ดังนั้นการดูแลรักษารูปลักษณ์และตำแหน่งคิ้วให้เข้ากับองค์ประกอบโดยรวมของใบหน้าจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับกล้ามเนื้อที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวในบริเวณคิ้วจะประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อฟรอนทาลิส กล้ามเนื้อคอร์รูเกเตอร์ ซูเปอร์ซิลิไอ กล้ามเนื้อดีเพรสเซอร์ ซูเปอร์ซิลิไอ และกล้ามเนื้อโปรเซอรัส ซึ่งนอกจากยังมีกล้ามเนื้อออบิคิวลาริส ออกคูไล (Orbicularis Oculi) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า กล้ามเนื้อหลับตา โดยจะอยู่บริเวณรอบดวงตาของเรานั้นเอง เมื่อมีการหดตัวก็จะทำให้เราสามารถหลับตาได้ ซึ่งในบรรดากล้ามเนื้อที่พูดมาทั้งหมดจะมีแค่เพียงกล้ามเนื้อฟรอนทาลิสตัวเดียวที่สามารถช่วยยกคิ้วให้สูงได้ ส่วนกล้ามเนื้อมัดอื่น ๆ จะช่วยดึงลงในทางตรงกันข้ามหรือทำการดึงเข้าหาบริเวณโคนจมูกกันหมด จึงทำให้ระยะห่างระหว่างคิ้วของเราลดลง และเกิดอาการคิ้วตกเมื่อเรามีอายุมากขึ้นนั้นเอง
สำหรับการฉีดระหว่างคิ้วจะช่วยทำให้เวลาที่มีการแสดงสีหน้าต่าง ๆ ของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวจะไม่ขยับ ทำให้ไม่เกิดเป็นรอยพับให้เห็น จึงสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างดี โดยตำแหน่งการฉีดระหว่างคิ้วถือเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นจุดที่มีความยากและมีความเสี่ยง หากคุณต้องการฉีดในตำแหน่งนี้ ทางเราขอแนะนำให้ทำการปรึกษาและฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์จะดีที่สุด
เลือกใช้บริการที่นี่…ดีกว่าอย่างไร
- บริการที่นี่ดูแลทุกเคส และทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา
- มีการวิเคราะห์กายวิภาคใบหน้าของคนไข้ก่อนทำ
- แพทย์มีความชำนาญจึงมือเบาและรวดเร็ว
- ทางคลินิกมีการติดตามผลหลังทำ
- ทางคลินิกใช้เคสรีวิวจากคนไข้จริง
- พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง
คำแนะนำก่อนและหลังการเข้ารับบริการ
การเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจใช้บริการ
สิ่งที่คุณควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการบริการ Botox Brow Lift มีดังนี้
- หากคุณมีประวัติในการแพ้ยา สารต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการแพ้โบท็อกซ์ไม่ว่าจะยี่ห้อใด ๆ
- การทานยาและวิตามินที่กำลังใช้อยู่
- การเคยมีปัญหาเกี่ยวกับเลือดหยุดยาก
- การเป็นโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท อาทิเช่น ALS, myasthenia gravis หรือ Lambert-Eaton syndrome
- การมีโรคประจำตัวหรือการต้องเข้ารับการรักษาอื่น ๆ
- กรณีผู้ที่เคยเสริมความงามมาก่อนหน้านี้ ต้องได้รับการฉีดครั้งสุดท้ายมาไม่น้อยเกิน 4 เดือน
- ควรศึกษาถึงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
- หากเกิดปัญหาในการกลืน การพูด การหายใจ ควรพบแพทย์ทันที
- ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น กล้ามเนื้อเกิดการอ่อนแรง การมีปัญหาในด้านการมองเห็น การเวียนศีรษะภายในชั่วโมง หรือหลายสัปดาห์หลังจากทำการฉีดแล้ว หากมีอาการดังกล่าว ห้ามขับรถเอง ห้ามใช้เครื่องจักร หรือแม้กระทั่งการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้
- หากเกิดความผิดปกติจากการกระจายของโบท็อกซ์ไปในที่บริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น เกิดหนังตาตก เกิดเสียงเปลี่ยน เกิดปัญหาในการควบคุมปัสสาวะ
- ควรศึกษาถึงอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้น
- เกิดอาการคัน มีผื่น บวม เกิดรอยแดงคัน
- หากเกิดอาการหายใจลำบาก เกิดการหายใจหอบ การเวียนศีรษะ หรือแม้กระทั่งการจะเป็นลม ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
ข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับบริการ
- คุณควรทำการศึกษาข้อมูลและขอคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนเข้ารับบริการนี้
- คุณควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอโดยประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ห้ามทำการรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการฉีด เช่น ยาพวกแอสไพริน ยาพวกไอบูโพรเฟน ยาพวกไดโคลฟีแนค ยาพวกพอนสแตน รวมถึงวิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม John’s wort น้ำมันกระเทียม เพราะตัวยาและวิตามินดังกล่าวจะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรทำการปรึกษาแพทย์ที่รักษาโรคอยู่ก่อนจะหยุดยา)
- ควรงดทายาที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับบริการฉีด
- ควรงดการแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ ในบริเวณที่จะทำเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับบริการ
- หากคุณมีโรคประจำตัว มีการทานยาที่ประจำ หรือเคยมีอาการแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการฉีด
- ควรงดกิจกรรมที่ส่งผลทำให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย การซาวนา ในช่วงระยะเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ
ข้อควรปฏิบัติหลังเข้ารับบริการ
- ควรทำการหนุนหมอนให้สูงในคืนแรกหลังจากเข้ารับการฉีด
- ทันทีที่คุณทำการฉีดเรียบร้อย แนะนำให้บริหารกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้สารท็อกซินถูกปลายประสาทดูดซึมเข้าไปให้ได้มากที่สุด (คุณสามารถทำได้โดยการยิ้ม การหยีตา การยักคิ้ว การขมวดคิ้ว การย่นจมูก การเคี้ยวหมากฝรั่ง)
- ระยะเวลาภายใน 3-4 ชั่วโมงแรกหลังจากทำการฉีด คุณห้ามนอนราบ
- ระยะเวลาภายใน 6-8 ชั่วโมงแรกหลังจากทำการฉีด คุณไม่ควรนวด กด บีบ คลึง ในบริเวณที่เพิ่งทำการฉีดโบท็อกซ์มา
- หากคุณมีอาการบวมแดงหรือเกิดการช้ำในช่วงระยะเวลา 1-2 วันแรกหลังจากทำการฉีด ถือเป็นอาการปกติที่เกิดจากเข็มฉีดยา ให้คุณใช้น้ำแข็งทำการประคบ แต่ในการประคบนั้นควรประคบให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์
- หากคุณมีอาการปวดก็สามารถทานยาแก้ปวดได้
- ระยะเวลาภายใน 2 สัปดาห์แรก คุณไม่ควรให้บริเวณที่ทำการฉีดโบท็อกซ์สัมผัสกับความร้อน
- ระยะเวลา 1 วันหลังจากทำการฉีด คุณควรงดแต่งหน้า งดการทาครีมบำรุง (สามารถล้างหน้าได้เพียงอย่างเดียว ควรงดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น) ทำความสะอาดหน้าด้วยโฟมล้างหน้า และซับหน้าให้แห้ง ไม่ควรแช่น้ำ หรือว่ายน้ำ
- คุณควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อทำการประเมินผลการรักษา
- ระยะเวลา 1 สัปดาห์หลังทำการฉีด คุณควรงดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อออกมาก งดการสัมผัสโดนความร้อน เช่น การซาวนา การตากเเดดเป็นระยะเวลานาน งดการนวดหน้า การกดสิว การทำเลเซอร์ งดการดื่มเหล้าสูบบุหรี่
- กรณีที่คุณฉีดเพื่อลดริ้วรอยรอบดวงตา ควรงดใส่แว่นตาว่ายน้ำเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
คำแนะนำเพิ่มเติมที่ควรรู้
- กรณีเข้ารับบริการแบบไม่ใช้ยาชาจะใช้ระยะเวลาโดยประมาณ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการฉีดและปริมาณที่ต้องใช้ หากคุณต้องการใช้ยาชาจะใช้ระยะเวลาประมาณ 60 นาที
- คุณควรนัดคิวเพื่อขอเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ในการประเมินใบหน้าก่อนเข้ารับบริการฉีด
- แพทย์จะทำการตรวจสอบสภาพผิวก่อนให้บริการฉีด
- หลังจากนั้นจะทำการทายาชาหรือใช้น้ำแข็งในการประคบบริเวณที่ต้องการฉีด เพื่อให้หลอดเลือดโดยรอบข้างของตำแหน่งนั้นเกิดการหดตัว และแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กทำการฉีดในปริมาณพอเหมาะลงไปที่กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว
- สำหรับบางรายอาจมีอาการบวมแดงหรือเกิดการช้ำในช่วงเวลา 1-2 วันแรกหลังทำการฉีดแล้ว แนะนำให้ใช้น้ำแข็งประคบเบา ๆ ในตำแหน่งดังกล่าวได้
- หากคุณมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น การปวด การบวม การแดง การร้อน การคัน หนังตาตก มุมปาก เกิดการปวดศีรษะ เกิดการปวดคอ การเห็นภาพซ้อน ตาแห้ง เกิดอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก คุณควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์โดยทันที
- หลังฉีดเสร็จจะเห็นผลภายในระยะ 2-4 สัปดาห์ ซึ่งคุณจะสามารถทำได้ทุก ๆ 3 เดือน
- คุณไม่ควรฉีดมากกว่าครั้งละ 300 ยูนิต หรือไม่ควรทำการฉีดซ้ำภายในเวลาน้อยกว่า 3 เดือน เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการดื้อยาได้
- สำหรับผู้ที่เพิ่งทำหัตถการอย่างอื่น ๆ มา เช่น การร้อยไหม HIFU การทำฟิลเลอร์ การทำเลเซอร์ การฉีดฝ้า การฉีดผิว ก็สามารถเข้ารับบริการฉีดได้ แต่แนะนำให้แจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนเข้ารับการฉีด
คำถามที่พบบ่อย
บริการนี้ช่วยแก้ปัญหาได้จริงไหม
การฉีดสารโบท็อกบนใบหน้ามีตำแหน่งที่ได้รับความนิยมนอกจากการฉีดลดกราม การฉีดลดตีนกาแล้ว ในการฉีดระหว่างคิ้วก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่คนไข้ต้องการแก้ไขกัน เพราะเป็นตำแหน่งที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายมาก ซึ่งรอยย่นระหว่างคิ้วเป็นจุดที่คนมักสังเกตเห็นได้อย่างง่าย ทำให้ใบหน้าของคุณแลดูแก่กว่าวัย ไม่สดใสเท่าที่ควร ดังนั้นการฉีดในกล้ามเนื้อมัดนี้จึงทำหน้าที่เข้าไปช่วยยับยั้งการหดตัว และช่วยทำให้ผิวหนังส่วนบนเกิดความเรียบขึ้น
ตำแหน่งการฉีดคิ้วมีจุดไหนบ้าง
- การฉีดระหว่างคิ้ว : เป็นตำแหน่งที่เรามักเผลอทำการขมวดคิ้วอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้เกิดรอยย่นขึ้น และริ้วรอยบริเวณระหว่างคิ้วได้ ดังนั้นการฉีดระหว่างคิ้วจึงต้องทำการฉีดบริเวณหัวคิ้วเพื่อลดรอยย่น ซึ่งปริมาณของสารโบท็อกที่ใช้ฉีดในบริเวณนี้จะใช้ในปริมาณที่ไม่มาก และแพทย์จะทำการฉีดเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น โดยจะทำการประเมินปริมาณที่ต้องใช้จากรอยย่น
- การฉีดหางคิ้ว : สำหรับกรณีที่หางคิ้วตกเป็นปัญหาของใครหลาย ๆ คนที่ทำให้เกิดความกังวลใจ ดังนั้นการเลือกฉีดบริเวณหางคิ้วจึงช่วยให้หางคิ้วเกิดการยกเชิดขึ้นมาได้ แต่เนื่องจากปัญหาคิ้วของคนเรา แต่ละข้างมักมีตำแหน่งที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นในการใช้ปริมาณแต่ละข้างจึงมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการฉีด
หลังทำการฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
หลังจากทำหัตถการโบท็อกยกคิ้วจะเริ่มเห็นผลลัพธ์และสามารถคงอยู่ได้เป็นเวลาโดยประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อของโบท็อกที่ทำการฉีดให้ ตำแหน่งที่ได้รับการฉีด ความลึกของริ้วรอยเหี่ยวย่น และปริมาณกล้ามเนื้อของคนไข้ในแต่ละคนที่มีไม่เหมือนกันด้วย
ดังนั้นทางคุณหมอจะต้องทำการประเมินเป็นเคส ๆ ไป ซึ่งจะต้องดูว่าคนไข้แต่ละท่านเหมาะกับโบท็อกของยี่ห้อไหน ปริมาณที่ต้องใช้เท่าไหร่ สำหรับในการฉีดโบท็อกยกคิ้วต้องมีการฉีดซ้ำต่อเนื่องตามระยะเวลาที่แจ้ง ถ้าอยากรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่เหมือนเดิม
ดังนั้นการฉีดในแต่ละจุดเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้าจึงมีความสำคัญ และข้อควรระวังที่มีความแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับประสบการณ์ เทคนิคที่แพทย์ใช้ในการฉีดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ให้บริการ โดยในข้อนี้จะมีความสำคัญมาก ดังนั้นคุณจึงควรขอคำปรึกษาและศึกษาข้อมูลก่อนเข้ารับการรักษา
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับ Botox สามารถแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ
บทความโดยแพทย์ Doctor Mek Clinic