การฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยอะไร และอันตรายไหม

 

Filler-จมูก

ขอเชิญทุกท่านพบกับบริการ ฉีดฟิลเลอร์จมูก หนึ่งในหัตถการความงามที่ช่วยในการปรับรูปจมูกให้ดูดีอย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดศัลยกรรมด้วยการเสริมซิลิโคนแบบเดิม ซึ่งข้อดีของ ฟิลเลอร์จมูก สามารถปรับรูปสันจมูกให้ดูเห็นเด่นชัด ดูโด่งเป็นธรรมชาติ เห็นผลได้ทันทีหลังทำโดยไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่ต้องเสียเวลานอนพักฟื้นเหมือนการศัลยกรรมตัดแต่งจมูก อีกทั้งยังสามารถเลือกทรงที่ต้องการได้หรือจะเลือกเติมให้จมูกดูเป็นทรงปลายหยดน้ำเพื่อช่วยเสริมบุคลิกให้คุณมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

สำหรับบริการ Filler จมูก ทางแพทย์จะใช้วิธีการฉีดเข้าไปยังบริเวณสันจมูกเพื่อช่วยให้จมูกดูโด่งมากขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถปรับรูปจมูกให้ดูรู้สึกสวยเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องกังวลเรื่องวัสดุที่เสริมเข้าไป เพราะในจุดนี้เป็นการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าด้วยสารกลุ่ม Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยต่อร่างกายที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยปกติร่างกายของเราก็สามารถสร้างขึ้นมาได้เองเพียงแต่เมื่ออายุมากขึ้น รวมทั้งการเผชิญมลภาวะอาจทำให้ความสามารถในการสร้าง Hyaluronic acid ของร่างกายลดลง ส่งผลทำให้บริเวณชั้นผิวหรือจุดต่าง ๆ เกิดอาการแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น การฉีดจึงเป็นการเสริมเพื่อทดแทนในจุดที่หายไปบริเวณนั้น ๆ

ฟิลเลอร์จมูกคืออะไร

Nose Filler หรือ ฟิลเลอร์จมูก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid / HA) เข้าไปบริเวณสันจมูกเพื่อปรับรูปจมูกให้ดูโด่งขึ้นหรือสามารถปรับแต่งรูปจมูกได้ตามต้องการ ช่วยให้รูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัดและเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ ต่อร่างกาย เพราะเป็นสารที่สลายได้เองตามธรรมชาติหรือหากต้องการเอาออกก็สามารถทำการฉีดสลายได้

ฉีดฟิลเลอร์จมูก ช่วยเรื่องอะไร

การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะช่วยในเรื่องของการปรับรูปทรงให้ดูดีขึ้น จากฐานเดิมของจมูกที่มีอยู่แล้ว ซึ่งบางคนอาจจะไม่ต้องการไปแก้ไขด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม ก็สามารถใช้วิธีการฉีดสารเติมเต็มเพื่อปรับสัดส่วนให้เข้ากับรูปหน้าได้ค่ะ

  • ช่วยปรับสันจมูกให้โด่งขึ้น เพิ่มความคมชัดเป็นสันที่สวยงาม
  • ช่วยให้ปลายจมูกดูยกขึ้นเล็กน้อย คล้ายกับจมูกทรงหยดน้ำ
  • ช่วยแก้ไขปัญหาจมูกเบี้ยวจากการผ่าตัดศัลยกรรม หรือจากอุบัติเหตุ
  • ช่วยปรับรูปจมูกให้เข้ากับใบหน้ามากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเสริมให้ได้รูปทรงตามหลักความเชื่อโหงวเฮ้ง

เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์กับการศัลยกรรมจมูก

การศัลยกรรมจมูก

เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งเสริมจมูกแบบถาวร ซึ่งในปัจจุบันมีการนำวัสดุหลากหลายรูปแบบมาใช้ในการเสริมจมูก โดยวัสดุที่ทางการแพทย์มักนิยมเลือกใช้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. วัสดุจากร่างกายของคนไข้ เช่น กระดูกหรือกระดูกอ่อน ส่วนใหญ่มักนิยมใช้กระดูกอ่อนบริเวณหลังใบหู
  2. วัสดุสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคนแท่ง เป็นต้น

วัสดุแต่ละแบบสามารถเลือกได้ตามความพึงพอใจของคนไข้ และเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีจึงจำเป็นต้องทำกับศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เนื่องจากการเสริมจมูกต้องอาศัยความชำนาญ ความรู้เรื่องโครงสร้างของใบหน้า รวมถึงศิลปะการในการออกแบบจมูก เพื่อให้เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้แต่ละคนและเกิดความสวยงามดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้หากคนไข้ได้รับการทำศัลยกรรมจากผู้ที่ไม่มีความชำนาญมากพออาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้ โดยอาการที่พบบ่อย เช่น การบวมแดง การอักเสบ การติดชื้อ เป็นต้น

นอกจากนี้การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะค่อนข้างมีความยุ่งยากซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด สำหรับการผ่าตัดเสริมจมูกเป็นการให้ผลถาวร ดังนั้นหากในอนาคตคนไข้ต้องการปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูก เปลี่ยนวัสดุ หรือต้องการนำออกจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อทำการแก้ไขเท่านั้น รวมถึงต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน เช่นเดียวกันกับตอนเสริมจมูก

การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณจมูก

HA Filler เป็นสารเลียนแบบเซลล์ที่มีอยู่แล้วภายในร่างกายมนุษย์จึงมีความปลอดภัยต่อการนำมาใช้ค่อนข้างสูง มีคุณสมบัติในการเติมเต็มและมีความคงตัวสูง ทางการแพทย์จึงเลือกนำมาใช้ในการเติมเต็มบนใบหน้าโดยเฉพาะการนำสารเติมเต็มเนื้อแข็งมาใช้ในการปรับแต่งรูปจมูกให้ดูโด่งขึ้น หรือใช้แก้ไขจมูกที่ไม่ได้รูปซึ่งไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ส่งผลให้ไม่ต้องหยุดงานหรือเสียเวลาพักฟื้นยาวนาน

โดยจุดเด่นของการเติมเต็มด้วยสารนี้ก็คือ ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติหรือหากไม่พอใจในรูปทรงของจมูกแล้วต้องการปรับแต่งแก้ไข หรือต้องการนำออกก็สามารถฉีดสลายสารนี้ได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาวัสดุออก ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่จะตามมาภายหลัง

การฉีดฟิลเลอร์จมูกดีอย่างไรและเหมาะสมกับใครบ้าง

บริการนี้เหมาะกับใครบ้าง

เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการปรับแก้ไขรูปจมูกให้ดูสวยงามมีมิติมากขึ้น และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  1. ผู้ที่ต้องการปรับแก้ไขรูปจมูก
  2. ผู้ที่มีสัดส่วนจมูกที่ไม่สมส่วน
  3. ผู้ที่ต้องการเติมปลายจมูก
  4. ผู้ที่ต้องการปรับโหงวเฮ้งจมูก
  5. ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด
  6. ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นจากการผ่าตัด
  7. ผู้ที่ต้องการรูปทรงของจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของการฉีด

  1. การเตรียมตัวก่อนทำไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร
  2. ขั้นตอนในการทำไม่ซับซ้อนและใช้เวลาในการทำไม่นาน
  3. ไม่ต้องดมยาสลบ ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ หากในกรณีที่คนไข้กลัวเจ็บ ทางแพทย์จะทำการฉีดยาชาให้ก่อน
  4. หลังทำไม่จำเป็นต้องพักฟื้นก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  5. เห็นผลทันทีหลังทำเสร็จ
  6. คุณสามารถเลือกทรงจมูกได้ตามต้องการ
  7. ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง
  8. เป็นสารเติมเต็มจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูงและยังสามารถสลายได้เองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ

การเลือกยี่ห้อฉีดฟิลเลอร์จมูกที่เหมาะสม

“ยี่ห้อฟิลเลอร์” เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างปลอดภัย ควรเลือกยี่ห้อที่ได้คุณภาพ ตรงตามมาตรฐาน และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย หรืออย. นอกจากนี้ ยังต้องดูด้วยว่าแต่ละยี่ห้อนั้น มีเนื้อสารเติมเต็มแบบไหน เหมาะสำหรับนำมาฉีดที่จมูกได้หรือไม่ สำหรับบริเวณจมูกควรเลือกใช้สารเติมเต็มที่มีความคงตัวสูง และขึ้นรูปได้ดี ซึ่งในปัจจุบันก็มียี่ห้อ Filler นำเข้าจากต่างประเทศมาให้บริการอยู่หลายยี่ห้อ และแบรนด์ต่อไปนี้ เป็นแบรนด์ที่ทางคลินิกได้คัดสรรมาแล้วว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อการฉีดฟิลเลอร์จมูก และเป็นยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานจากอย.แล้วค่ะ

Restylane

Restylane

มาเริ่มกันที่ยี่ห้อแรกเลยก็คือ ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่โดดเด่นเรื่องกระบวนการผลิตเป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งหมดสองเทคโนโลยีด้วยกัน ได้แก่ NASHA Technology และ OBT Technology ทำให้มันสามารถนำมาใช้ได้อย่างหลากหลายบริเวณทั่วทั้งใบหน้า พร้อมนวัตกรรมที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอาการแพ้หลังฉีด สำหรับบริเวณจมูกแพทย์จะแนะนำเป็นรุ่น Restylane Lyft ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการคงตัวสูง เนื้อแข็ง ฉีดแล้วไม่ฟูและสามารถเข้ากันได้ดีกับจมูก ปั้นทรงสวย ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12 เดือน

Juvederm

Juvederm

ต่อมาเป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ตัวนี้จะค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นสูง พร้อมพัฒนากระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี hylacross ให้เนื้อเจลมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี เนื้อละเอียด และกลืนเข้ากับผิวได้อย่างแนบเนียน เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยอดฮิตในหมู่นวัตกรรมการฉีดเลยก็ว่าได้ค่ะเพราะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน ซึ่งรุ่นที่นิยมนำมาฉีดจมูกก็จะเป็น Juvederm-ULTRA XC เนื้อค่อนข้างนิ่มเหมาะสำหรับนำมาตกแต่งบริเวณปลายจมูกให้โด่งขึ้น ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานราว ๆ 1 ปี

Belotero

มากันที่ยี่ห้อที่มีสีกล่องฉูดฉาดสะดุดตามากที่สุด ฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่ใช้ขั้นตอนการผลิตแบบพิเศษเฉพาะ Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น สามารถปรับสภาพรวมเข้ากับผิวและร่างกายได้ดี อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางอีกด้วย สำหรับบริเวณจมูกจะแนะนำรุ่น Belotero Volume กล่องสีม่วง เพราะมีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

Neuramis

Neuramis

นิวรามิสฟิลเลอร์สุดฮิตสัญชาติเกาหลี ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตอย่าง SHAPE Technology ที่สามารถคงผลลัพธ์ได้นานในราคาที่ย่อมเยากว่าแบรนด์อื่น ๆ จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูสวยปัง ภายใต้งบประมาณที่จำกัด สำหรับบริเวณจมูกสามารถใช้เป็นรุ่น Neuramis Volume Lidocaine ที่มีเนื้อค่อนข้างแข็ง ขึ้นรูปได้สวย และกลืนกับผิวได้ดี มีส่วนผสมของยาชา แต่แนะนำให้ฉีดในปริมาณที่พอเหมาะ ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12-24 เดือนเลยค่ะ

Yvoire

Yvoire

ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีใต้ภายใต้บริษัท LG Chem ที่ผลิตสารเติมเต็มด้วยเทคโนโลยี HICE Cross-link ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ ทำให้ตัวสารมีความยึดเกาะแน่นไปกับผิวได้อย่างเรียบเนียน คงตัวอยู่ใต้ชั้นผิวได้อย่างยาวนาน จนเป็นที่ยอมรับกว่า 44 ประเทศทั่วโลก บริเวณจมูกหากต้องการเติมเต็มขอแนะนำเป็นรุ่น YVOIRE-Volume-Plus โดยคุณสมบัติพิเศษเลยก็คือ มันสามารถคงรูปได้ดี ฉีดไปแล้วไม่ไหลเป็นก้อนและให้ความเป็นธรรมชาติ สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน

E.P.T.Q

E.P.T.Q

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จากเกาหลีใต้เช่นกันค่ะ แต่แบรนด์นี้ ใช้กระบวนการผลิต ZEEP technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ทำให้ตัวสารเติมเต็มมีความปลอดภัยสูง ไม่ทิ้งสารตกค้างได้การรับรองมาตรฐานจาก EDQM และ อย. อเมริกา (US FDA) หากนำมาเติมเต็มบริเวณจมูก ขอแนะนำรุ่น E.P.T.Q S500 lidocaine เป็นเนื้อที่มีความแข็งและแน่น จึงเหมาะสำหรับนำมาเสริมปรับทรงจมูก และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

Revolax

Revolax

เป็นฟิลเลอร์ยอดฮิตฝั่งยุโรปเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสารเติมเต็มที่ถูกออกแบบมาตอบโจทย์ทุกการใช้งานบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็ม การปรับรูปทรงให้สมส่วน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง HEXALINK ทำให้ตัวสารเติมเต็มฉีดได้ง่าย คงทนต่อทุกสภาพและอุณหภูมิ ถ้าสำหรับบริเวณจมูกจะเป็นรุ่น REVOLAX SUB-Q เพราะเป็นรุ่นที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด สามารถปรับจมูกให้ได้สัดส่วนเป็นทรงที่สวยงาม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

Teoxane

ไม่แนะนำก็คงไม่ไหว! เพราะนี่เป็นฟิลเลอร์น้องใหม่จากสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านกระบวนการผลิตอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้สารเติมเต็มมีความบริสุทธิ์สูง สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี มีความคงตัว และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมากถึง 18 เดือนเลยทีเดียว สำหรับบริเวณจมูกอาจจะต้องให้แพทย์เป็นผู้ช่วยประเมินว่า คนไข้ต้องการปรับพื้นที่ส่วนไหน จึงจะสามารถเลือกรุ่นที่นำมาเติมเต็มได้อย่างเหมาะสมค่ะ

Mesofiller

ปิดท้ายกันด้วยฟิลเลอร์คุณภาพดีจากประเทศสเปน มีนวัตกรรมการผลิตด้วยเทคโนโลยี Densimatrix ทำให้สารเติมเต็มอยู่ในรูปแบบ Cross-linked Hyaluronic Acid 100% (non-free HA) แม้ฉีดในปริมาณที่น้อยกว่าฟิลเลอร์ตัวอื่น ๆ แต่ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้แบบชัดเจน และรุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มบริเวณจมูกก็คือรุ่น Mesofiller Intense เป็นรุ่นที่เนื้อแข็งและมีความเข้มข้นของ HA สูง ทำให้มันค่อนข้างยืดหยุ่นและปั้นทรงได้ดี ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

Before & After

ภาพก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์จมูก คุณจะเห็นได้ว่าจมูกไม่ได้โด่งมาก และหลังทำการฉีด filler จมูก รีวิวจากคนไข้จริงที่มีความไว้วางใจเลือกใช้บริการกับคลินิกของเรา โดยจะเห็นได้ว่าปลายจมูกมีความโด่งเพิ่มมากขึ้น และรูปทรงสวยขึ้น

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์จมูกจากคนไข้จริง

นี้เป็นภาพส่วนหนึ่งของการฉีดฟิลเลอร์จมูก รีวิวจากคนไข้จริงที่เลือกใช้บริการกับทางคลินิกของเรา โดยคนไข้ส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบและให้การตอบรับกันเป็นเสียงเดียวว่า ทำออกมาแล้วจมูกสวยและดูเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาเท่าไร

ค่าใช้จ่ายในการฉีด filler จมูก ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณของ HA Filler โดยจะคิดตามซีซีที่แพทย์ใช้ฉีด สำหรับคนที่ฐานจมูกเดิมดีอยู่แล้วอาจจะใช้ปริมาณน้อยกว่าคนที่มีฐานจมูกน้อย ทั้งนี้แนะนำปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อทำการประเมินรูปทรงจมูกรวมถึงประเมินค่าใช้จ่ายได้ค่ะ

ข้อควรปฏิบัติและขั้นตอนการเข้ารับฉีด Filler จมูก

คำแนะนำก่อนเข้ารับบริการ

  1. ควรงดทานอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันพริมโรส โสม กระเทียม เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดอาการช้ำได้ง่าย
  2. ควรงดทานยาบางกลุ่ม เช่น ยาแอสไพริน และ NSAIDs เป็นต้น
  3. งดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ

ขั้นตอนในการเข้ารับบริการนี้

  1. พนักงานทำความสะอาดใบหน้ารวมถึงการลบเครื่องสำอางออกด้วย
  2. ทำการแปะยาชา ทิ้งไว้ 30-40 นาที
  3. แพทย์จะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 20-30 นาที

คำแนะนำหลังเข้ารับบริการ

  1. ไม่ควรนอนราบภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด แนะนำให้นอนหมอนสูง ๆ
  2. งดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังจากเข้ารับบริการนี้
  3. งดการสัมผัสอย่างรุนแรงบริเวณที่ฉีดไม่ว่าจะเป็นการขัด ถู นวด หรือสครับ
  4. ควรงดการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบริเวณจมูกหลังทำเสร็จในช่วงแรก
  5. หลีกเลี่ยงการเผชิญกับความร้อน เช่น การทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซาวน่า โยคะร้อน ออกกำลังกายหนัก เป็นต้น
  6. ควรดื่มน้ำปริมาณมากเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี

อาการและผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก

ภายหลังจากฉีดฟิลเลอร์จมูกไปแล้ว อาการหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ก็จะคล้าย ๆ กันกับการฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งอื่น ๆ เลยค่ะ เช่น อาการบวมหรือแดงจากรอยเข็ม ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายใน 3-4 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน ระหว่างนี้คนไข้สามารถรับประทานยาตามอาการ หรือดูแลตัวเองตามคำสั่งของแพทย์เพื่อบรรเทาอาการได้เลยค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

หลังฉีดแล้วจะเห็นผลทันทีหรือไม่

หลังทำการฉีดฟิลเลอร์จมูก สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และจะเห็นผลเต็มที่ 100% ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากเข้ารับบริการ เนื่องจากสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปจะค่อย ๆ เริ่มเข้าที่

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูกอันตรายไหม หรือมีผลข้างเคียงหรือไม่

หากใครที่มีความกังวลใจว่าหัตถการฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ถ้าเป็นสารเติมเต็มของแท้จะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใด ๆ มีเพียงในช่วงเวลาภายหลังจากการฉีดแล้วอาจพบว่ามีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันในบริเวณที่ฉีด แต่จะไม่เกิดอาการรุนแรงมาก ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการแตะ เกา หรือนวดในบริเวณนั้น ๆ โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หากอาการยังไม่ดีขึ้นแนะนำให้ควรพบแพทย์ที่ทำการฉีด

การใช้บริการนี้มีโอกาสเสี่ยงตาบอดจริงหรือไม่

การฉีดบริเวณจมูกถือว่าเป็น 1 ใน 3 ของตำแหน่งยอดฮิตที่นิยมฉีดกันและเป็นตำแหน่งที่อาจเสี่ยงตาบอดได้ แต่เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ หากคนไข้เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์มากพอ

สรุปแล้วการฉีดฟิลเลอร์จมูกควรทำกับแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์สูง เนื่องด้วยบริเวณจมูกเป็นตำแหน่งที่มีเส้นเลือดอยู่จำนวนมาก หากเกิดข้อผิดพลาดในการฉีดอาจส่งผลให้เข้าไปอุดตันในเส้นเลือดจนทำให้ตาบอดได้ ซึ่งอาการตาบอดจะเกิดขึ้นในทันทีหลังฉีด หรือในบางรายที่ไม่ได้เกิดอาการตาบอดก็อาจจะพบกับผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น บวมแดง เขียวช้ำ อักเสบ ติดเชื้อ หรือเนื้อตาย เป็นต้น ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อความปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์จมูก เจ็บไหม

การฉีดฟิลเลอร์จมูกอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยช่วงที่ฉีดเข้าไป แต่ก่อนฉีดทุกครั้ง แพทย์จะมีการแปะยาชาและประคบเย็น เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ อีกทั้งยังใน Filler บางยี่ห้ออย่างเช่น Juvederm ก็จะมียาชาผสมอยู่กับ HA Filler ด้วย ทำให้ขณะรักษาอาจมีอาการเจ็บน้อยลงค่ะ

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์จมูก ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการปรับรูปทรงให้ดูสวยขึ้น ได้สัดส่วนที่เข้ากันกับใบหน้าโดยที่ไม่ต้องไปผ่าตัดศัลยกรรม แต่ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จมูกก็ไม่สามารถอยู่ได้แบบถาวร ต้องอาศัยการกลับเข้าไปฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น ซึ่งตำแหน่งนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว ดังนั้น ควรเลือกใช้บริการกับแพทย์ที่มีทักษะด้านการปรับรูปหน้า และต้องมีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของผิวเพื่อความปลอดภัย และที่ Doctor Mek Clinic ก็พร้อมให้บริการฉีด Filler จมูกภายใต้มาตรฐานของแพทย์ มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ ตรงจุดต่อความต้องการและให้ความปลอดภัยในเวลาเดียวกันทุกการรักษา

หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ สามารถแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)​
แพทย์ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์