หากคุณต้องการดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบัน โบท็อก (Botox) เป็นหนึ่งในบริการที่ฉีดเพื่อลดริ้วรอยได้อย่างปลอดภัย หากได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญ โดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ในการ ฉีดโบท็อก จะเข้าใจจุดที่มีความสำคัญบริเวณต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถแก้ไขข้อบกพร่องในบริเวณที่ต้องการอย่างได้ผล เห็นได้จากรีวิวคนไข้หลังการฉีด นอกจากนี้เรายังมีข้อเสนอโปรโมชั่นดี ๆ อีกมากมาย
การฉีดโบท๊อกซ์ คือ หนึ่งในนวัตกรรมที่มีการพัฒนามาเพื่อทำให้คุณสาว ๆ กลับมาดูดีอีกครั้ง เช่น การนำมาใช้เพื่อการลดริ้วรอยโดยคุณสมบัติพิเศษของสารชนิดนี้ทางการแพทย์นำมาใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง หรือคลายกล้ามเนื้อในจุดที่ต้องการรักษา ซึ่งการฉีดจะไม่เป็นอันตรายหากอยู่ภายใต้การดูแลโดยคุณหมอที่มีความชำนาญ เพราะตัวยาเป็นการสกัดจากโปรตีนชนิดหนึ่งที่มาจากแบคทีเรีย จึงจำเป็นต้องได้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อการวิเคราะห์อย่างแม่นยำและใช้ปริมาณในการฉีดที่เหมาะสม จึงจะสามารถป้องกันปัญหาการเกิดผลข้างเคียงจากกรณีที่ได้รับการฉีดในจำนวนยูนิตที่มากเกินไป
โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือ โบท็อก คือ โปรตีนบริสุทธิ์ซึ่งสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) มีคุณสมบัติพิเศษช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทั้งนี้มักถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์เพื่อรักษาอาการไมเกรน ตาเข และหนังตากระตุก รวมถึงอาการผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย แต่สำหรับในแวดวงเสริมความงามนั้นมักนิยมนำมาใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับผิวในบริเวณต่าง ๆ
ในความเป็นจริงมีอยู่ทั้งหมด 7 ชนิด ตั้งแต่ชนิด A ไปจนถึงชนิด G ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แต่ชนิดที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์นั้นมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกันนั่นคือ โบท็อกซ์ชนิดเอ (Botulinum Toxin type A) โดยส่วนใหญ่ใช้ในแวดวงเสริมความงามเพื่อลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะรอยย่นต่าง ๆ บนใบหน้า รอยย่นที่หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ฯลฯ ส่วนชนิดบี (Botulinum Toxin type B) มักจะออกฤทธิ์เร็ว ตัวยากระจายเป็นวงกว้าง จึงไม่ค่อยนิยมนำมาใช้ ทั้งนี้ Botulinum Toxin ที่ผ่านอย. ไทยนั้นก็มีเพียงแค่ชนิด A เท่านั้นค่ะ
สำหรับการฉีดโบท็อกซ์นั้นสามารถช่วยลดริ้วรอย ผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้าได้ เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยบนใบหน้า รวมไปถึงช่วยลดรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังบริเวณอื่น ๆ โดยเมื่อทำการฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการจะช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจากที่เคยหดตัวเกิดการคลายตัวขึ้นมา ส่งผลทำให้ริ้วรอยและรอยย่นแลดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งสามารถฉีดได้ตามตำแหน่งดังต่อไปนี้
การฉีดโบท็อกสามารถทำได้หลายตำแหน่ง แต่ตำแหน่งที่นิยมทำกันมากที่สุดมีด้วยกันทั้งหมด 6 ตำแหน่งดังนี้
หลังจากฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการ โดยจะออกฤทธิ์เข้าไปจับส่วนปลายของเซลล์ประสาท เพื่อยับยั้งการหลั่งสารที่เรียกว่า อะซิติลโคลีน (Acetylcholine) เพื่อไม่ให้สารดังกล่าวนี้หลั่งออกมาที่กล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวหรือทำให้กล้ามเนื้ออยู่ในภาวะอัมพาตชั่วคราว จึงทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย
ภาพก่อนทำการฉีดโบ ซึ่งจะเห็นได้ว่าบริเวณรอบดวงตาเกิดริ้วรอยขึ้นเมื่อยิ้ม จึงทำให้แลดูมีอายุ และภาพหลังทำการฉีดโบท็อก รีวิวจากคนไข้จริงที่มีความไว้วางใจเลือกใช้บริการกับทางคลินิกเรา โดยพบว่าแม้จะทำการยิ้มเหมือนเดิม แต่ริ้วรอยต่าง ๆ บริเวณรอบดวงตาแทบมองไม่เห็น จึงทำให้แลดูหน้าเด็กอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
นี้เป็นภาพส่วนหนึ่งของลูกค้าที่เลือกฉีดโบท็อก รีวิวจากคนไข้จริงที่เข้ารับบริการกับทางคลินิกของเราแล้วเกิดความประทับใจ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบในผลลัพธ์หลังทำกันเป็นอย่างมาก
สำหรับบริการโบท็อก ราคาของการฉีดในแต่ละครั้งจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อที่แพทย์เลือกใช้ รวมถึงบริเวณที่คนไข้ต้องการฉีดด้วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้คนไข้ตามรายบุคคล
โดยส่วนมากที่แพทย์เลือกใช้มีทั้งของอเมริกา อังกฤษ และเกาหลี ซึ่งแต่ละสัญชาตินั้นมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป รวมถึงเรื่องของคุณภาพและราคา ทั้งนี้เราจึงได้รวบรวมยี่ห้อยอดฮิตมาทั้งหมด 7 ยี่ห้อ มีรายละเอียดดังนี้
การฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอยด้วยโบท็อกถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยผู้เข้ารับบริการควรศึกษาข้อแนะนำในการปฏิบัติตนทั้งก่อนและหลังฉีด รวมถึงข้อควรระวังในการฉีด
นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผิวพรรณและใบหน้าแลดูอ่อนโยน ซึ่งมีสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ คือ การเลือกใช้บริการ โดยเฉพาะท่านที่ต้องการฉีดสารโบท็อกบนใบหน้า ควรทำการตรวจสอบก่อนเข้าใช้บริการ เนื่องจากปัจจุบันมีการนำ โบท็อก ปลอม มาให้บริการในหลายพื้นที่ จึงทำให้เกิดอันตรายและผลข้างเคียงตามมาไม่ว่าจะเป็นอาการปากเบี้ยว หนังตาตก หนังตาแข็ง ฉีดแล้วอยู่ได้ไม่นาน บางรายถึงขั้นเกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ ดังนั้นก่อนเลือกใช้บริการควรเลือกสถานที่บริการที่มีความสะอาด และได้รับการรับรองความปลอดภัยทางการแพทย์ เพื่อให้คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เราต้องลงทุน และให้ได้ความสวยที่จะอยู่กับเราต่อไปได้อย่างยาว ๆ
สารโบท็อกของแท้จะเป็นโปรตีนจากธรรมชาติ ซึ่งมีความบริสุทธิ์ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังเป็นสารที่สามารถสลายได้เองเมื่อถึงเวลาอันสมควร และถ้าได้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเข้าใจในสรีระบนใบหน้า รวมถึงมีประสบการณ์ในการฉีดมากพอ ก็จะทำให้ใช้ปริมาณในการฉีดที่น้อยแต่ได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยม ซึ่งคุณสมบัติในสารที่เป็นของแท้จริง ๆ จะเป็นสารที่สกัดมาจากแบคทีเรียประเภท Clostridium Botulinum โดยมีคุณสมบัติออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปยับยั้งเซลล์ประสาท เพื่อไม่ให้มีการผลิตสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า acetylcholine ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมกล้ามเนื้อ ควบคุมการหดเกร็ง โดยคุณสมบัตินี่เองที่ทางการแพทย์ได้นำมาใช้ในการลดรอยเหี่ยวย่นตามบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า รวมถึงจุดต่าง ๆ ที่ต้องการรักษาเพื่อให้จุดที่ฉีดเข้าไปเกิดอาการตึงขึ้น
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดของปลอมระบาด เนื่องจากบริการนี้ได้รับความนิยมในวงกว้าง ซึ่งยอมรับในผลการรักษาที่ทำได้ตามเป้า และยังสามารถช่วยให้การวางแผนรักษาเป็นไปตามการประมาณการของแพทย์ จึงทำให้เกิดความต้องการในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้กันเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันกลับมีผู้ผลิตสารชนิดนี้ที่ได้มาตรฐานทั่วโลกเพียงแค่ 7 บริษัทเท่านั้น ส่งผลทำให้การผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผู้ผลิตรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทในประเทศจีนและในบริเวณแถบเอเชียที่ได้รับใบอนุญาตในการผลิตสารโบทูลินั่มท็อกซิน ซึ่งเป็นสารที่มีความบริสุทธิ์ต่ำ ทำออกมาเพื่อเน้นทดลองทางวิทยาศาสตร์ จนกลายเป็นช่องว่างทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ของปลอม ราคาถูก ออกมาจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งของปลอมนี้ยังแอบแฝงอันตรายร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ไว้อย่างมากมาย
สำหรับสารโบทูลินั่มท็อกซินของปลอม จัดเป็นสารอันตรายร้ายแรง เพราะถ้าหากร่างกายของเรามีการสูดดมเข้าไปจะมีฤทธิ์ในการทำลายระบบประสาทอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต มีผลทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหัวใจเกิดการหยุดเต้นได้ และอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา ถึงแม้ว่าร่างกายจะรับเข้าไปในปริมาณเพียงแค่ 1 กรัมเท่านั้น ส่วนผู้ผลิตบางรายที่ทำการผลิตของปลอมออกมาในลักษณะเป็นน้ำใส ๆ คล้ายน้ำเปล่า บางผลิตภัณฑ์เป็นลักษณะน้ำเกลือหรือวิตามิน ที่ไม่มีการผสมสารโบทูลินั่มท็อกซิน ซึ่งอาจจะไม่เป็นอันตรายแต่ผลที่ได้รับเมื่อฉีดเข้าไปแล้วไม่เห็นผลในการรักษา
บริเวณใบหน้าของคนเราจะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดที่มีความสำคัญ ส่งผลต่ออวัยวะส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่บนใบหน้า เพราะฉะนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงปัญหา ขอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเลือกแหล่งให้บริการที่ใช้ของปลอม ก็จะส่งผลเสียต่อตัวคุณโดยตรง ซึ่งในตอนนี้เทคโนโลยีทางด้านการผลิตยังไม่มีเทคโนโลยีไหนที่สามารถเลียนแบบสินค้าของแท้ได้ เนื่องจากตัวยาชนิดนี้มีความละเอียดอ่อน ถ้าฉีดเข้าไปแล้วจะเกิดการกระจายตัวไปตามจุดต่าง ๆ บริเวณร่างกายของเรา ซึ่งอาจมีผลกระทบโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อมีการฉีดสารโบท็อกซ์ซึ่งตามปกติจะสามารถคงอยู่ได้นาน แต่ถ้าเกิดอาการดื้อยาอาจจะลดลงเหลือเพียงแค่ 3 เดือน จนกระทั่งร่างกายเกิดการต่อต้าน ทำให้การฉีดสารชนิดนี้จะไม่ได้ผลอีกต่อไป
สำหรับอาการที่ร่างกายเกิดการต่อต้าน มีสาเหตุมาจากร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหรือสร้างแอนติบอดี้ เพื่อมาต่อต้านสารโบท็อกซ์ จนกระทั่งส่งผลทำให้เวลาที่ได้รับบริการหลังฉีดเข้าไปแล้ว ตัวยาจะถูกทำลายไปเกือบหมด ไม่ว่าเราจะทำการฉีดเข้าไปสักกี่ครั้งก็จะไม่ได้ผลอีกต่อไป
จะเห็นได้ว่าปัญหาการใช้ของปลอม ส่งผลเสียในระยะยาวให้กับตัวคนไข้เองเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นถึงแม้จะเป็นการฉีดครั้งแรกและครั้งเดียว แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อไปในระยะยาวของคุณเองได้ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน ดูแลควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงจะช่วยทำให้เราปลอดภัยจากปัญหาเหล่านี้ได้ แถมยังสามารถสวยได้อย่างมั่นใจอีกด้วย
หากเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยปกติทางคุณหมอจะให้ลูกค้าตรวจสอบผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการยืนยันผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน โดยคุณสามารถตรวจสอบ Serial Number และข้อมูลได้อย่างละเอียด เมื่อทำการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย ทางคุณหมอจะทำการฉีดในขั้นตอนต่อไป ซึ่งข้อสังเกตที่สำคัญของ โบท็อก แท้ มีดังนี้
จากสถิติพบว่าคนไข้ทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากที่เคยได้รับสาร Botulinum toxin A ไม่มีใครเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยในส่วนของผลข้างเคียงจะพบเพียงเฉพาะจุด เช่น หนังตาตก หน้าไม่สมมาตรกัน กลืนอาหารลำบาก หรือมีเลือดออกในบริเวณที่ฉีด ทั้งนี้ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะคำนึงถึงกายวิภาคใบหน้าของคนไข้ตลอดจนปริมาณที่เหมาะสมต่อการใช้ยาค่ะ
ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำการฉีดในทุก ๆ ครั้ง ขอแนะนำให้คุณเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และควรเป็นแพทย์ที่มีใบรับรองที่ถูกต้อง รวมถึงตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฉีดจะต้องผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อความปลอดภัยในตัวคุณเอง
อีกหนึ่งคำถามยอดนิยมที่ใครหลาย ๆ คนมักสงสัยกันว่า โบท็อก อยู่ได้นานไหม สำหรับการฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอยจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือน ซึ่งหากมีการฉีดไปยังบริเวณที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ยูนิตในจำนวนที่เยอะเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้ เช่น คิ้วตก มุมปากเบี้ยว เป็นต้น
หลาย ๆ คนอาจตั้งคำถามว่าควรฉีดทุก ๆ กี่เดือน? หรือควรฉีดซ้ำอีกครั้งได้เมื่อไหร่? โดยปกติแล้วจะคงอยู่ได้นานประมาณ 4-8 เดือน (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อรวมถึงการดูแลตัวเอง) ซึ่งควรเว้นระยะห่างในการฉีดแต่ละครั้งอย่างน้อย 4-6 เดือน เพราะหากฉีดบ่อยเกินไปอาจทำให้มีโอกาสดื้อยาได้
เชื่อว่าหลายท่านคงสงสัยและมีคำถามว่าการฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล และหลังทำการฉีดแล้วทำไมถึงไม่เห็นผลในทันที ทั้งนี้ก็เพราะว่าร่างกายของคนเราต้องรอให้สารสื่อประสาท (Neurotransmitter) ชุดเดิมหลั่งสารออกมาให้หมดก่อน แล้วตัวยาที่ฉีดเข้าไปจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและตำแหน่งที่ฉีด
ระยะเวลาการออกฤทธิ์ในแต่ละตำแหน่ง
หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าควรเลือกฉีดโบท็อก ที่ไหนดี เนื่องจากในปัจจุบันมีเปิดให้บริการมากมาย สำหรับสถานที่หรือคลินิกที่เหมาะสมก็ควรเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด ทันสมัย มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ และมีผลงาน โดยคลินิกของเราขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คุณสามารถทำการฉีดโบท็อกได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกขั้นตอน
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ ในเรื่องเสริมความงาม สามารถแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า