ปัญหาขอบตาช้ำ หนังตาตก ทำไงดี

ใบหน้าเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนเรามองเห็น เป็นอีกบริเวณที่ช่วยดึงดูดความสนใจ เพิ่มเสน่ห์ให้กับคน ๆ นั้น ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจเวลาต้องพบปะผู้คนหรือเข้าสังคมได้เป็นอย่างดี การดูแลใบหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งโดยเฉพาะบริเวณดวงตา ซึ่งเป็นกระจกที่ช่วยบ่งบอกถึงหลาย ๆ อย่างได้อีกด้วย เช่น อารมณ์ ความรู้สึก เป็นต้น ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าจะเป็น ขอบตาช้ำ หนังตาตก ทำไงดี ยิ่งทำให้ใบหน้าแลดูอิดโรย ดูโทรมไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย แต่งหน้ายากขึ้นไม่สวยเหมือนที่เคย ต้องคอยโบ๊ะหน้าหนา ๆ เพื่อปกปิดจึงดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าหมดเสน่ห์ไม่น่ามอง

• หนังตาตก ทำให้ตาดูเศร้า ตาเล็กไม่สดใส ใบหน้าดูแก่ ผิวดูหย่อนคล้อย แต่งหน้ายาก เพราะจะยิ่งไปเน้นส่วนหนังตาที่ตกย้อยให้ดูปูดนูนชัดเจนออกมายิ่งขึ้นกว่าปกติ
• ขอบตาช้ำ ทำให้ดูโทรมเหมือนพักผ่อนน้อย ตาลึกโบ๋เป็นหมีแพนด้า ดูเป็นถุงใต้ตา ส่งผลให้แววตาดูไม่สดใส หน้าหมอง ต้องโบ๊ะหน้าหนา ๆ เพื่อปกปิดจนทำให้ผิวดูไม่เป็นธรรมชาติ

วิธีแก้ปัญหาหนังตาตก ขอบตาช้ำที่หลาย ๆ คนคงคิดถึงการผ่าตัด เพราะคิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่แก้ไขได้อย่างถาวร เข้าใจว่าเป็นการผ่าตัดเอาส่วนที่มีปัญหาออกแล้วทุกส่วนจะกลับมาเต่งตึง กระชับได้ถาวร แต่หลายรายกลับพบปัญหาว่าดูดีขึ้นจริงในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานผิวก็กลับมาหย่อนคล้อย เกิดความหมองคล้ำเหมือนก่อนทำ ถุงใต้ตากลับมาเหมือนเดิม หรือในบางรายเป็นหนักกว่าก่อนหน้าที่จะผ่าตัดเสียอีก ต้องเจ็บตัว ทนหน้าบวม แถมยังไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างที่หวังไว้ เสียค่าใช้จ่ายที่แพงไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้รับ ทำให้หลายคนถอดใจที่รักษา หรือต้องมองหาหนทางแก้ไขด้วยวิธีอื่น ๆ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายหลายต่อ

สำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด การใช้สารเติมเต็มใต้ตาหรือ ฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นวิธีที่สามารถตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เป็นการแก้ไขแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หน้าไม่ช้ำไม่บวมแบบการผ่าตัด คืนความกระจ่างใสให้กับใต้ตาที่หมองคล้ำ ปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ แถมยังช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า เต็มเติมส่วนที่ขาดหายไปจากใต้ชั้นผิวหนังของเรา และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยยกกระชับผิวให้กลับมาเต่งตึง ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงได้อีกด้วย การทำฟิลเลอร์ใช้เวลารักษารวดเร็ว สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงหลังทำ มีความปลอดภัยและผลลัพธ์ชัดเจน สามารถแก้ไขได้ง่ายเพียงใช้ยาสลายฟิลเลอร์โดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ไข ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เพราะหลังทำฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เมื่อผ่านไป 2 – 4 วันหลังทำฟิลเลอร์เข้าที่จะยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าทำเสร็จใหม่ ๆ โดยจะให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานราว ๆ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ การดูแลตัวเองของคนไข้ และฟิลเลอร์จะสลายไปเองตามธรรมชาติไม่เกิดสารตกค้างในร่างกาย