ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกแล้วเป็นก้อน หนึ่งในความกังวลของคนที่คิดอยากทำสวย สรุปแล้วอาการนี้มันเป็นอันตรายไหม เกิดขึ้นกับทุกคนไหม มีวิธีแก้ไขยังไงบ้าง ใครที่กำลังคิดอยากทำโปรแกรมฉีดโบท็อกแต่กลัวรีวิวที่เคยบอกว่าฉีดแล้วต้องหน้าบวมตุ่ยแน่ วันนี้เรามาหาข้อสรุปกันค่ะว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกแล้วเป็นก้อนถือเป็นอันตรายไหม และมีวิธีแก้ไขอาการนี้ยังไง
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกแล้วเป็นก้อน
ก่อนจะไปหาคำตอบว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกแล้วเป็นก้อนเป็นอันตรายไหม มีวิธีแก้ไขยังไง เราต้องขอแก้ความเข้าใจผิดก่อน เนื่องจากอาการฉีดแล้วเป็นก้อนที่ทุกคนเข้าใจกันน่าจะหมายถึงอาการบวมมากกว่า เพราะผลข้างเคียงของการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกสามารถเกิดอาการบวมได้ แต่ถ้าเป็นอาการหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกแล้วเป็นก้อนยังไม่เคยพบมาก่อน โดยส่วนมากอาการเป็นก้อนจะเกิดกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ สาเหตุมีทั้งฉีดสารเติมเต็มในปริมาณที่ไม่เหมาะสม และใช้สารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐานหรือของปลอมที่ไม่สามารถสลายตัวได้เอง จึงก่อให้เกิดอาการเป็นก้อน
ส่วนอาการบวมหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อก ทำให้บริเวณที่ฉีดปูดขึ้นจนดูเหมือนเป็นก้อน อาการนี้เบื้องต้นไม่ถือเป็นอันตราย เพราะเป็นผลข้างเคียงปกติที่สามารถพบได้โดยทั่วไป วิธีแก้ไข คือ ให้ประคบเย็นโดยใช้ผ้าห่อน้ำแข็งแล้วประคบในบริเวณที่มีอาการ รวมถึงงดการแกะ เกา นวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ยังควรงดก้มหัวในตำแหน่งที่ต่ำกว่าหัวใจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้ามากขึ้น จะได้ไม่ยิ่งบวมมากไปกว่าเดิมค่ะ
โดยส่วนมากอาการบวมจะคงอยู่ 7-10 วันหลังฉีด แต่ถ้าใครที่มีอาการบวมนานกว่านี้แบบไม่มีวี่แววว่าจะยุบลงเลย หรือมีอาการอื่นร่วมด้วยอย่างอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มีไข้ มีผื่นคัน คลื่นไส้ อาเจียน แนะนำให้รีบพบแพทย์โดยด่วนนะคะ เพราะนั่นอาจหมายถึงอาการแพ้สารโบทูลินัม ท็อกซินได้ (แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยคนมาก) วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ เวลาแพทย์ซักประวัติก่อนทำการรักษา จำเป็นอย่างมากที่ต้องห้ามปิดบังหรือบิดเบือนความจริง เพราะคุณหมอจะได้รู้ว่าเรามีโรคประจำตัวอะไรไหม เคยมีประวัติแพ้ยาอะไรหรือเปล่า อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน อยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีความชำนาญ เพราะผลข้างเคียงของโปรแกรมโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐานเรียกได้ว่าค่อนข้างน่ากลัวเลยค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่า
อาการข้างเคียงหลังการฉีด
สำหรับบุคคลที่อยู่ในกลุ่มห้ามทำโปรแกรมฉีดโบท็อก ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีภาวะผิดปกติทางกล้ามเนื้อและระบบประสาท เพราะการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกจะเกี่ยวข้องกับสองส่วนนี้โดยตรง รวมถึงคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ มีอาการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มคุณแม่ที่กำลังอยู่ในภาวะตั้งครรภ์และให้นมบุตร คุณหมอก็จะแนะนำให้เลี่ยงการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไปก่อนค่ะ
ส่วนอาการข้างเคียงอื่น ๆ จากการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกที่นอกเหนือจากอาการบวมเป็นก้อนในบริเวณที่ฉีด ที่เคยพบส่วนใหญ่จะเป็น
- หน้าแข็ง หน้าตึง เกิดจากการฉีดตัวยาในปริมาณไม่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหากล้ามเนื้อแข็งตึงไม่สามารถบังคับได้ เกิดได้ในกรณีที่ทำการรักษากับแพทย์ที่มีความชำนาญไม่มากพอ
- ผิวช้ำ หน้าชา อันนี้นับเป็นผลข้างเคียงปกติ สามารถหายเองได้ เกิดจากการใช้เข็มในการทำหัตถการ
- ใบหน้าบางส่วนเป็นอัมพาต เนื่องจากสารโบทูลินัม ท็อกซิน จะเป็นการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดลงไป กล้ามเนื้อส่วนนั้นจึงเกิดอาการอัมพาตชั่วคราว ซึ่งถ้ามันเกิดกับบริเวณที่เราต้องการก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อใดก็ตามที่ตัวยากระจายออกไปกว้างกว่าที่จำเป็น กล้ามเนื้อบริเวณข้างเคียงอาจเป็นอัมพาตไปด้วย มักเกิดจากการรักษากับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ
- อาการอ่อนเพลียและเจ็บบริเวณที่ฉีดมาก ผิวเห่อแดง เป็นผื่น ปวดศีรษะ อาเจียน อาจเป็นสัญญาณของอาการแพ้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- เกิดอาการของโรคโบทูลิซึม ด้วยเพราะโบทูลินัม ท็อกซิน เป็นสารสกัดที่ได้จากแบคทีเรีย สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ ร่างกายจะแสดงอาการว่าถูกสารดังกล่าวคุกคาม ทำให้เกิดผลข้างเคียงกับบริเวณที่ไม่ได้ฉีด เช่น ฉีดที่หน้าแต่แขนขาอ่อนแรง หรือเกิดอาการหายใจลำบาก หายใจถี่ ซึ่งถือเป็นอาการที่ค่อนข้างร้ายแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรักษาอาการ
โดยสรุปแล้ว การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไม่ค่อยพบอาการเป็นก้อน ส่วนมากที่พบ คือ อาการบวมจนทำให้บริเวณที่ฉีดปูดออกจนดูเหมือนก้อน อาการนี้ไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เองภายใน 7-10 วัน วิธีแก้ไขก็คือ บรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น ดังนั้นใครที่กำลังกังวลถึงผลข้างเคียงก็วางใจได้เลย ในปัจจุบันการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกที่ได้มาตรฐานมีอยู่มาก ขอเพียงแค่เรารู้จักเลือก และต้องอย่าเห็นแก่ราคาถูกเป็นอันขาด เพียงแค่นี้เราก็สามารถทั้งสวยและลดความเสี่ยงได้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ