ในร่างกายของเรานั้น สิ่งที่ช่วยห่อหุ้มร่างกายเพื่อปกป้องเนื้อเยื่อภายในจากสิ่งสกปรกและเชื้อโรคก็คือ ผิวหนัง นอกจากนั้นยังเป็นส่วนที่ช่วยทำให้ใบหน้าดูดี ดูสดใส มีออร่า เติมความมั่นใจให้กับเราได้อย่างมาก นอกจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่มีผลกระทบกับผิวของเราแล้ว อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับผิวขึ้นด้วยเช่นกัน หลายคนคงไม่ค่อยได้สังเกตผิวหน้าของตัวเองกันมากซักเท่าไหร่ พอมาดูอีกทีก็พบปัญหาที่ลุกลามหนักไปแล้วไม่ว่าจะทั้งริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นต้น เราไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะว่าผิวแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างไร และเมือเทียบกับผิวของเราแล้วจะอยู่ในช่วงวัยไหน
การเปลี่ยนแปลงของผิวในแต่ละช่วงวัย
อายุที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผิวมีการเปลี่ยนตามไปด้วย โดยในแต่ละช่วงอายุของเรานั้น สภาพผิวก็ไม่เหมือนกัน นอกจากจะเกิดขึ้นจากการเติบโตของร่างกายแล้ว ยังได้รับผลกระทบมาจากปัจจัยภายนอกหลายอย่างประกอบกันด้วยค่ะ เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้มากขึ้นเราไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
- สภาพผิวในช่วงวัยเลขสอง (20+)
เป็นช่วงที่ในชั้นผิวหนังยังอุดมไปด้วยคอลลาเจนและอีลาสตินอยู่เยอะพอสมควร ผิวจึงสดใส เต่งตึง แต่นั่นก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หลายคนไม่ค่อยได้ใส่ใจดูแลเท่าที่ควร จึงทำให้ผิวอ่อนแอลงจากการถูกทำร้ายโดยแสงแดดและมลภาวะรอบข้าง บั่นทอนความแข็งแรงของโครงสร้างผิว ริ้วรอยปรากฏขึ้นมาบาง ๆ ผิวเริ่มขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย ยิ่งนานไปความสดใสก็จะลดน้อยลง เกิดปัญหาลุกลามขึ้นไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ - สภาพผิวในช่วงวัยเลขสาม (30+)
การสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลงอย่างมาก เกิดปัญหาในชั้นผิวที่ลึกมากขึ้น การผลัดเซลล์ผิวก็ทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม จึงทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและความชุ่มชิ้นอย่างมาก จึงดูแห้งกร้าน ผิวดูหยาบขึ้น หน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่สดใส ทาครีมบำรุงอะไรก็ซึมซาบได้ไม่ดีเท่าที่ควร เกิดริ้วรอยบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน นอกจากนั้น ฝ้า กระ จุดด่างดำก็จะยิ่งชัดเจนขึ้นมาด้วยค่ะ - สภาพผิวในช่วงวัยเลขสี่ (40+)
มาถึงช่วงวัยนี้ผิวจะมีความอ่อนแอมาก ไขมันในชั้นผิวเริ่มยุบตัว ผิวจึงไม่กระชับ ใบหน้าจึงเกิดการหย่อนคล้อย ผิวแห้งมาก เกิดริ้วรอยที่หนักมาก แก้ไขได้ยากขึ้น ความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ชัดเจนมากจนหน้าดูแก่กว่าวัย - สภาพผิวในช่วงวัยเลขห้า (50+)
เมื่ออายุเข้าเลข 5 ผิวจะยิ่งเผชิญปัญหาที่หนักและลงลึกเข้าไปในชั้นผิวมากขึ้นเรื่อย ๆ ผิวบางลง โครงหน้าเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ชั้นกระดูกยุบตัว รูปหน้าจึงไม่ได้สัดส่วน หลาย ๆ ส่วนดูตอบ ยุบเป็นแอ่ง ริ้วรอยหนักมากขึ้น กลายเป็นรอยพับของผิวที่ชัดเจน เม็ดสีผิวทำงานผิดปกติมากเกินไป จึงมีทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำที่สีเข้ม เห็นเป็นปื้นใหญ่
เริ่มดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อใบหน้ากระจ่างใส เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ
ปัญหาผิวที่ลุกลามหนักขึ้น มักเกิดขึ้นจากการละเลยไม่ใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ การดูแลผิวก่อนที่จะเกิดปัญหา หรือเริ่มรักษาปัญหาตั้งแต่แรกเริ่มที่เกิด คือ สิ่งที่ช่วยได้มากเลยค่ะ เพราะจะช่วยหยุดยั้งการลุกลาม ช่วยป้องกันการเกิดขึ้นใหม่ของปัญหาผิวอื่น ๆ ที่จะตามมา เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว คงความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าดูเด็กลง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลผิวในแต่ละช่วงวัยให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผิวต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ไปดูปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกที่มีผลกระทบกับผิวเรากันค่ะ ว่ามีอะไรที่เราควรต้องใส่ใจหรือหลีกเลี่ยงบ้าง
ปัญหาผิวที่เกิดจากปัจจัยภายใน
- ปัญหาของผิวที่ขาดน้ำ เป็นลักษณะของผิวที่ขาดความชุ่มชื่น ไม่สามารถกักเก็บน้ำในผิวได้ดีเท่าที่ควร ผิวจึงแห้ง ผิวหยาบกร้าน เกิดริ้วรอยขึ้นบนผิวได้ง่าย แต่งหน้าแล้วไม่ติดทน
- ปัญหาจากฮอร์โมนผิดปกติ อาจจะเกิดขึ้นได้จากทั้งภาวะต่าง ๆ ในร่างกายที่ทำให้ระบบฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงในคุณผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนก็สามารถเกิดปัญหาผิวขึ้นได้ เช่น ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ เป็นต้น
- ปัญหาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น อย่างที่ทราบกันดีเมื่อวัยล่วงเลยไป คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวเริ่มลดลง จึงทำให้ผิวไม่เต่งตึงกระชับ เกิดริ้วรอย รวมถึงจุดด่างดำต่าง ๆ ตามมาได้ค่ะ
- ปัญหาจากระบบภายในร่างกาย เช่น การไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ เพราะเลือดช่วยลำเลียงสารอาหารและอ๊อกซิเจนเข้าสู่เซลล์ในร่างกาย รวมถึงผิวด้วย ทำให้หากระบบนี้เกิดผิดปกติขึ้นมา ผิวก็จะเริ่มทรุดโทรมแย่ลงได้
ปัญหาผิวที่เกิดจากปัจจัยภายนอก
- ปัญหาจากความเครียด อีกหนึ่งตัวการร้ายที่ทำร้ายผิว เพราะส่งผลถึงระบบในร่างกายเกิดการแปรปรวนขึ้น เช่น ฮอร์โมนต่าง ๆ การหลั่งสารเคมีในสมอง เป็นต้น ผิวจึงเกิดปัญหาหมองคล้ำ หน้าโทรม ดูแก่กว่าวัย
- ปัญหาจากมลภาวะ ภัยร้ายใกล้ตัวอีกอย่างหนึ่งคือ รังสี UV จากแสงแดด รวมถึง ฝุ่น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ จากทั้งในอากาศ และที่ติดมากับมือของเรา เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ส่งผลให้ผิวเกิดปัญหาขึ้นได้มากพอสมควร เช่น สิว ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ผิวไม่เรียบเนียน
- ปัญหาจากการพักผ่อนน้อย ยามที่เรานอนหลับ ร่างกายของเราจะเข้าสู่โหมดฟื้นฟูและซ่อมแซมในส่วนต่าง ๆ ที่สึกหรอ รวมไปถึงผิวด้วยค่ะ หากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอบอกได้เลยว่ากระทบอย่างหนักแน่นอน ผิวก็จะฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ เกิดเป็นปัญหาหน้าโทรม ดูอิดโรย ไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น
- ปัญหาจากพฤติกรรมส่วนตัว สามารถส่งผลกระทบต่อผิวได้อย่างร้ายแรง เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ เป็นต้น เพราะสารประกอบต่าง ๆ ที่อยู่ภายในส่งผลเสียกับสุขภาพและผิวเราได้อย่างรุนแรงมาก ทั้งผิวเหี่ยว ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอย จึงทำให้ดูแก่กว่าวัย
บอกได้เลยค่ะว่าการดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นมีความจำเป็นมาก เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นเพียงเล็กน้อยแล้วเรารีบจัดการก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นปัญหาหนัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือริ้วรอย ความหมองคล้ำต่าง ๆ จะทำให้ผิวเราคงความสดใส อ่อนเยาว์ของผิวหน้าได้นานมากขึ้น เราขอแนะนำวิธีการที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งดาราชั้นนำของเมืองไทยและคนไข้จริงมากมาย นั่นก็คือ พิโคเลเซอร์ นวัตกรรมเลเซอร์ใหม่ล่าสุดที่สามารถเข้าไปจัดการปัญหาในชั้นผิวได้อย่างล้ำลึกและตรงจุด โดยที่ไม่ทำร้ายเซลล์ผิวโดยรอบ จึงไม่เกิดแผล ไม่ตกสะเก็ด ใช้จำนวนครั้งในการรักษาที่น้อยกว่าเครื่องเลเซอร์รุ่นเก่า จึงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้มากกว่า หน้าดูเด็กลง (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ช่วยให้แต่งหน้าติดทนมากขึ้น สีผิวกระจ่างใสสม่ำเสมอ สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหารูปหน้าและปัญหาผิวพรรณกับคุณหมอเมฆและทีมแพทย์ที่ Doctor Mek Clinic ได้เลยนะคะ มั่นใจ ไร้กังวล ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับไปเสมอ