ลบรอยสักที่ไม่ต้องการ แก้ไขให้ผิวกลับมากระจ่างใส

เทรนด์การสักในปัจจุบันนั้นได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะสักเพื่อความสวยงาม สักเพื่อบันทึกความทรงจำสำคัญไว้กับตัวเอง แต่บางครั้งความคึกคะนองในวัยเด็กของหลายคนก็ยังคงติดตามมาสร้างความกังวลใจให้กับเราจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจไม่อยากโชว์ผิวบริเวณนั้นให้ใครเห็น แต่ก่อนที่จะไปหาวิธีแก้ไข เราไปทำความเข้าใจขั้นตอนของการสักกันก่อนดีกว่าค่ะว่าเป็นอย่างไรบ้าง

การสักคืออะไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

การสักคืออะไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ในปัจจุบันการสักนั้นมีทั้งสักสีสัน สักสีดำ ขึ้นอยู่กับผู้ต้องการสัก โดยสามารถสักได้ทุกส่วนในร่างกาย ซึ่งในแต่ละส่วนก็จะรู้สึกเจ็บไม่เท่ากัน แล้วแต่ความเซนซิทีฟที่ไม่เหมือนกันในแต่ละรายบุคคล ในการสักนั้นจะเป็นการเปิดแผลที่ผิวหนังแล้วใส่สีสักลงไป ปัจจุบันมีการใช้เครื่องสักไฟฟ้าเข้ามาช่วยเพื่อช่วยทุ่นแรงและเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น หลังจากสักแล้วการรักษาความสะอาดและดูแลแผลสักให้ดี ย่อมช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้มากขึ้น นอกจากนั้นผิวก็จะเริ่มตกสะเก็ดขึ้น จึงต้องดูแลอย่างดี เพื่อให้แผลไม่นูนขึ้นมา และคงสภาพสีสักให้ยังคงสวยอยู่ ไปดูขั้นตอนการสักกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าต้องทำอะไรบ้าง

  • ออกแบบรอยสัก การเลือกรอยสักนั้นควรเลือกแบบที่เราต้องการ เพราะรอยสักจะติดตัวเราไปตลอด หากเลือกเพราะความคึกคะนองก็อาจจะทำให้ต้องกังวลใจหรือหาทางแก้ไขภายหลัง
  • เลือกตำแหน่ง เพราะพื้นที่หรือการยืดหยุ่นของผิวบริเวณนั้น ๆ สามารถส่งผลกับผลลัพธ์ของรอยสักภายหลังได้ด้วยค่ะ เช่น หากบริเวณที่คุณเลือกสักมีการหดหรือขยายได้ง่ายกว่าจุดอื่น เช่น บริเวณหน้าท้องก็จะส่งผลกับรอยสักที่อาจมีการผิดรูป ภาพเบี้ยว หรือผิดสเกลไปจากที่ตั้งใจได้ค่ะ
  • เลือกร้านสักและช่างสัก ต้องเลือกร้านที่มีมาตรฐานเพื่อความปลอดภัย สะอาดถูกสุขอนามัย รวมถึงช่างสักที่มีฝีมือเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาตรงตามที่ต้องการ โดยราคาก็จะสูงขึ้นตามฝีมือและประสบการณ์ของช่างด้วยค่ะ หากไม่เลือกให้ดีจากรูปผีเสื้ออาจจะกลายเป็นแมลงวันไปได้นะคะ
  • การดูแลหลังสัก หลังสักแล้วการดูแลแผลเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะช่วยให้ไม่เกิดการการติดเชื้อตามมา และเมื่อเกิดการตกสะเก็ด หากดูแลไม่ดีสีของรอยสักอาจเกิดเป็นรอยด่างสีไม่เท่ากันได้ค่ะ

สักพลาด ปวดใจ ต้องการแก้ไข สามารถทำได้หรือไม่

สักพลาด ปวดใจ ต้องการแก้ไข สามารถทำได้หรือไม่

หลังจากสักไปแล้ว หากเกิดการเปลี่ยนใจไม่อยากได้รอยสักนี้แล้ว หรืออาจจะเกิดขึ้นเพราะฝีมือช่างสักไม่ได้มาตรฐานทำให้รอยสักออกมาไม่ตรงตามที่ต้องการ คุณภาพสีที่ใช้สักไม่ดีพอ ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ รวมไปถึงความจำเป็นหรือข้อจำกัดในชีวิตบางอย่างที่ต้องจัดการแก้ไขหรือลบรอยสักออกไป ทำให้หลายคนมองหาวิธีจัดการปัญหานี้ให้หายไป ไปดูกันค่ะว่ามีวิธีการอะไรบ้างที่สามารถทำได้

  • ใช้เมคอัพเข้าช่วย วิธีเบสิกสุด ๆ ที่ใช้ในการลบรอยสักได้เองด้วยการใช้รองพื้นร่วมกับคอนซีลเลอร์เข้าไปกลบบริเวณรอยสักนั้น หรือบางคนอาจจะใช้พวกคัลเลอร์คอเร็กเตอร์เข้ามาช่วยให้สีกลมกลืนเข้ากับผิว แต่ก็ต้องระวังด้วยนะคะ ถ้าเป็นส่วนที่อยู่ใกล้กับเสื้อผ้าอาจจะเกิดการถูไถจนลบออกได้ รวมไปถึงเวลาเหงื่อออกก็อาจจะทำให้เกิดการหลุดร่อนระหว่างวันได้ด้วยเช่นกันค่ะ
  • ใช้สารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพื่อทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง ผิวพอง เพื่อทำให้รอยสักหลุดออกมากับผิวที่ลอกออก หรือทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นมาทับแทนที่รอยสัก
  • ผ่าตัดเย็บผิว เหมาะกับรอยสักที่ไม่ได้ใหญ่มาก เป็นการตัดผิวบริเวณนั้นออกแล้วเย็บติดกันใหม่ หลังทำจะต้องดูแลรักษาให้ดีเพื่อเลี่ยงการติดเชื้อ และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแผลเป็นขึ้นหลังผ่าตัดได้ค่ะ
  • ลอกผิวด้วยความเย็น เป็นการแช่ผิวด้วยความเย็น และใช้ไนโตรเจนเหลวกัดหมึกที่สักออก
  • กรอผิว ด้วยเครื่องไฟฟ้าหรือเครื่องขัดผิว ลงบนตำแหน่งที่ต้องการ โดยสามารถลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้เลยทีเดียว เพื่อขจัดสีออก โดยสีจะหลุดออกมากับสะเก็ดแผลที่แห้งแล้ว
  • การใช้เกลือขัด หากเป็นรอยสักมาใหม่ การใช้เกลือขัดก็สามารถพอจะช่วยได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ ขึ้นกับแต่ละรายบุคคล แต่จะทำให้เกิดแผลขึ้น ผิวถูกทำร้ายด้วยนะคะ โดยต้องทำซ้ำหลายครั้ง เรียกว่าเจ็บตัวหลายรอบเลยล่ะค่ะ
  • ฉีดน้ำเกลือเข้าชั้นผิว เป็นวิธีการฉีดน้ำเกลือเข้าไปยังชั้นหนังแท้ และทำการดูดเอาน้ำหมึกที่สักออกมา ต้องใช้เลาพักฟื้นที่นาน การดูแลก็ยุ่งยากเช่นกันค่ะ

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจกังวลว่าการลบรอยสักหรือแก้ปัญหาผิวต้องเจ็บหรือทิ้งรอยแผลไว้ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะตอนนี้มีตัวช่วยสุดล้ำอย่าง โปรแกรมพิโคชัวร์ (PicoSure Program) โปรแกรมเลเซอร์ที่ช่วยจัดการเม็ดสีได้อย่างแม่นยำ แตกต่างจากโปรแกรมเลเซอร์รุ่นเก่า เห็นผลเร็ว ใช้จำนวนครั้งน้อยกว่า และที่สำคัญคือ ไม่ทำร้ายเซลล์ผิวรอบข้าง

ด้วยความยาวคลื่น 755 nm ซึ่งดีกว่าความยาวคลื่น 1064 nm ถึง 3 เท่า ทำให้สามารถลบรอยสักได้ทุกสี โดยเฉพาะสีที่แก้ยากอย่างดำ น้ำเงิน และเขียว นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ลดริ้วรอย และช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนให้ผิวเต่งตึงขึ้นอีกด้วย เห็นผลชัดเจนโดยไม่ต้องพักฟื้น เผยผิวใหม่ได้มั่นใจยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นรอยสักคิ้วหรือรอยสักตามร่างกาย ก็แก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากใครสนใจสามารถทักเข้ามาปรึกษาปัญหาผิวพรรณได้ฟรี กับคุณหมอเมฆและทีมแพทย์ได้เลยที่ Doctor Mek Clinic