โบกมือลาคางสั้นหน้ากลมโดยไม่ต้องผ่าตัด

หลายคนมีปัญหาคางสั้นหน้ากลม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมีโครงหน้าที่สวยดูดีนั้น มีชัยไปกว่าครึ่งจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะทำผมทรงไหน หรือแต่งหน้าออกมาอย่างไร ก็ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาอย่างเพอร์เฟค แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้าของตนเองอย่างเช่น คนที่มีลักษณะรูปคางที่สั้น ทำให้ใบหน้าดูกลมแบนไร้มิติ ยิ่งส่องกระจกก็ยิ่งหมดความมั่นใจลงไปได้ง่าย ๆ บทความนี้ก็เลยจะมารวบรวมวิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหารูปคางสั้นหน้ากลม ให้ดูดีเรียวสวยขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ

รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นคนคางสั้นหน้ากลม?

หากใครที่ยังไม่รู้จะดูอย่างไรว่าเราเป็นคนคางสั้นหน้ากลมหรือไม่? ให้แบ่งใบหน้าออกไป 3 ส่วน ได้แก่ บริเวณหน้าผากมาถึงคิ้ว บริเวณคิ้วมาถึงปลายจมูก และบริเวณปลายจมูกลงมาถึงปลายคาง ซึ่งโครงหน้าของเราจะมีลักษณะเท่า ๆ กันทั้ง 3 ส่วน (1:1:1) หรือที่หลายคนมักเรียกกันว่าใบหน้าสัดส่วนทองคำ แต่ถ้าหากว่าส่วนล่าง (ปลายจมูกถึงปลายคาง) ดูสั้นกว่าส่วนอื่น ๆ ก็แปลว่าเรามีโครงหน้าคางที่สั้น แต่ใบหน้าคนเอเชียส่วนล่างจะดูสั้นกว่าส่วนอื่นอยู่แล้วค่ะ

สัดส่วนทองคำ (Golden Radio) คืออะไร?

Gloden Radio หรือที่ภาษาไทยเรียกกันว่า ‘สัดส่วนทองคำ’ ซึ่งเป็นทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ที่นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีคิดค้นทฤษฎีนี้ขึ้นมา เพื่อวัดความสวยงามของสิ่งต่าง ๆ โดยผ่านตัวเลขและการคำนวณสัดส่วน ซึ่งการวัดความงามบริเวณใบหน้าโดยทฤษฎีนี้ จะวัดสัดส่วนระยะห่างบริเวณคางไปจนถึงกลางริมฝีปาก และริมฝีปากไปจนถึงบริเวณกลางตา ระยะห่างของคางไปจนถึงปีกจมูก และระยะห่างของบริเวณปีกจมูกไปจนถึงหน้าผาก โดยระยะความห่างของแต่ละบริเวณที่กล่าวไปจะต้องอยู่ที่ 1 : 1.618 หรือ 1:1:1 ที่วัดสัดส่วนตั้งแต่หน้าผากมาถึงคิ้ว จากคิ้วมาถึงปลายจมูก และปลายจมูกมาถึงคาง ซึ่งถ้าหากใครมีสัดส่วนตามตัวเลขนี้ จะถึงว่าผู้นั้นเป็นคนที่มีใบหน้าสวยตามทฤษฎีนั่นเอง

บอกลาคางสั้นหน้ากลมด้วยวิธีนี้!

ต้องยอมรับเลยว่า คางเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อรูปหน้า อย่างใครที่มีคางสั้นก็ทำให้รูปหน้านั้นดูกลมสั้นไปด้วย ปัญหานี้จึงส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของใครหลาย ๆ คน ดังนั้นเราก็เลยจะชวนมาโบกมือลาคางสั้นหน้ากลมไปพร้อม ๆ กันด้วยวิธีการเหล่านี้ ที่หลายคนทำแล้วบอกรูปหน้าเปลี่ยนจริง

1. เปลี่ยนลุคด้วยการแต่งหน้า

สำหรับสาวหน้ากลม การแต่งหน้าถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยอำพรางใบหน้าได้ดีเลยทีเดียวค่ะ โดยเน้นลงคอนทัวร์ไปที่บริเวณกรอบหน้า ตั้งแต่บริเวณหน้าผาก (ใกล้ไรผม) มาจนถึงโหนกแก้มและปลายคาง และใช้ไฮไลท์มาปัดบริเวณ T-ZONE (หน้าผาก สันจมูกและคาง) รวมไปถึงการปัดบลัชออนเฉียงขึ้นไปตามแนวโหนกแก้มถึงขมับ เขียนคิ้วให้ดูโก่งขึ้นเล็กน้อย วิธีนี้จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูเรียวสวย ละมุนขึ้น กลมน้อยลง โดยสรุปอุปกรณ์ที่ต้องมีเลยก็คือ

• คอนทัวร์ – สร้างเงาให้กรอบหน้า หรือพรางสายตาให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงได้
• ไฮไลท์ – สร้างมิติให้ใบหน้า เน้นส่วนใดส่วนหนึ่งให้ดูพุ่งขึ้น *เน้นใช้บริเวณหน้าผาก สันจมูก คาง*
• บลัชออน – เพิ่มสีสันบนใบหน้า *ไม่ควรปัดเป็นวงกลมเพราะอาจทำให้หน้าดูกลมขึ้น
• ที่เขียนคิ้ว – แนะนำให้เขียนทรงโค้งมีจุดหักมุมที่ชัดเจน หรือทรง Hard Angled

2. เปลี่ยนทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า

ทรงผมเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะช่วยปรับลุคของเราให้ดูดีขึ้นได้ ยิ่งถ้าหากเราเลือกทรงที่เข้ากับรูปหน้าของเราแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเราได้ไม่น้อยเลยค่ะ สำหรับสาวหน้ากลมขอแนะนำให้ตัดสไลด์เลเยอร์บริเวณกรอบหน้าหรือตัดหน้าม้าซีทรูร่วมด้วย เพราะทรงนี้จะช่วยอำพรางใบหน้าบริเวณด้านข้างได้เป็นอย่างดี ให้หน้าดูเรียวเล็กลง บางคนเป็นสาวผมยาวก็อาจจะเพิ่มความโดดเด่นให้กับทรงผมด้วยการม้วนลอนให้ผมดูมีวอลลุ่มมากยิ่งขึ้น ก็จะช่วยปรับลุคให้เป็นสาวหวานได้ในพริบตาเลยล่ะค่ะ

3. ฟิลเลอร์คาง

สองวิธีด้านบนเป็นวิธีเบื้องต้นที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ ก็เลยจะแนะนำอีก 1 วิธี ที่ต้องอาศัยเทคนิคการรักษาของแพทย์ ที่ในปัจจุบันได้รับความนิยมมากเลยทีเดียวนั่นก็คือ ฟิลเลอร์คาง ซึ่งเป็นนวัตกรรมการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด ฉีดเข้าไปที่บริเวณคางเพื่อปรับรูปคางให้ดูเรียวยาว หรือสมส่วนกับใบหน้าของแต่ละคนมากยิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาคางสั้น คางตัด หรือคางบุ๋มเป็นคลื่นได้ดี โดยให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำโดยไม่ต้องพักฟื้นเลยค่ะ

4. ศัลยกรรมคาง

การฉีดไขมันเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการเติมเต็มรูปคางให้ได้สัดส่วนกันมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการดูดเอาไขมันจากสะโพก ต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง หรือส่วนอื่น ๆ ในร่างกายที่สามารถใช้ได้ นำมาปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันที่มีประสิทธิภาพมาฉีดบริเวณคาง ซึ่งวิธีนี้จะให้ความปลอดภัยสูง ลดโอกาสการแพ้เพราะเป็นไขมันของตัวเราเอง อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า 1 ปี แต่เมื่อฉีดครั้งแรกอาจจะยังไม่ได้เห็นผลลัพธ์เลยทันที และจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังจากฉีดไปแล้ว 2-3 เดือน

ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ช่วยแก้ปัญหาคางสั้นหน้ากลม ปรับให้รูปหน้าของเราดูเรียวขึ้นได้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะสามารถปรับได้มากหรือน้อย แต่ถ้าหากใครรู้สึกว่าต้องการปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการปรับรูปหน้า สามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่ Doctor Mek Clinic ได้เลยค่ะ ที่นี่มีให้บริการปรับรูปหน้าหลายหัตถการ อีกทั้งยังมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นเทคนิคเฉพาะไม่เหมือนใคร (Triple Layers Lift) พร้อมคืนความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับบริการทุกคนอย่างใกล้ชิด