เหนียงโผล่ แก้มย้อย แก้ไขปัญหาอย่างล้ำลึกด้วยการทำไฮฟู่

เหนียงโผล่ แก้มย้อย แก้ไขปัญหาอย่างล้ำลึกด้วยการทำไฮฟู่

ใครที่กำลังประสบปัญหาเหนียงโผล่ แก้มย้อย ไม่กระชับ ฟังทางนี้! เพราะเรามีวิธีการแก้ปัญหาอย่างล้ำลึกมาบอกต่อค่ะ เชื่อหรือไม่ว่าปัญหาเหนียงโผล่ แก้มย้อยเป็นปัญหาโลกแตกที่ใครหลายคนแสนจะเหนื่อยใจ ถ่ายรูปแต่ละทีกว่าจะหามุมได้ก็เล่นเอาหอบ แต่ปัญหานี้กลับสามารถแก้ได้ด้วยการทำไฮฟู่เพียงเท่านั้น ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิด รับรองได้เลยว่าหากคุณมีปัญหาเหนียงโผล่ แก้มย้อยไม่กระชับ เพียงแค่ลองแก้ปัญหาอย่างล้ำลึกด้วยการทำไฮฟู่ ตัวช่วยเดียว อยู่หมัด!

นวัตกรรมแห่งความงามไฮฟู่เพื่อจัดการปัญหาอย่างตรงจุด

ปัญหาคางสองชั้น หรือที่เราเรียกติดปากกันว่าเหนียง สิ่งนี้คือ ไขมันใต้ชั้นผิวหนังที่ไปสะสมกระจุกรวมกันอยู่ที่คาง ส่วนมากเหนียงจะเกิดขึ้นในตอนที่เราน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ไขมันไปสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากขึ้นด้วย ปัญหาแก้มย้อยก็เหมือนกัน เกิดจากไขมันไปกระจุกรวมกันอยู่ที่แก้มเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้แก้มห้อยย้อยลงข้างล่าง แต่นอกจากเรื่องของไขมันที่เพิ่มขึ้นแล้ว ปัญหาเหนียงโผล่ แก้มย้อยก็ยังสามารถเกิดได้จากการที่อีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวยืดตัวออก ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ พื้นผิวบริเวณคางจึงยืดตัวแล้วพับห้อยจนเห็นเป็นเหนียง แก้มก็เช่นกัน และถ้าเราละเลยปล่อยให้มันยืดออกไปเรื่อย ๆ ผิวของเราก็จะยิ่งหย่อนคล้อยมากขึ้นไปอีก ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำไฮฟู่ เพราะการทำไฮฟู่จะเป็นการปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงลงไปยังชั้นผิวหนังที่เกิดปัญหาได้อย่างตรงจุด เรียกได้ว่าตรงลึกถึงโครงสร้างเนื้อเยื่อชั้นในเลย การทำไฮฟู่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง ลดริ้วรอย ลดเหนียงได้ และที่น่าสนใจคือ สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังจากทำเสร็จ และจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนเต็มที่ภายในเวลาเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น!

อันที่จริงการแก้ปัญหาเหนียงโผล่ แก้มย้อย ไม่กระชับ สามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ หรือการฉีดสลายไขมันอย่างการทำเมโสแฟต เพียงแต่ไฮฟู่ถือเป็นวิธีที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถแก้ปัญหาได้อย่างล้ำลึก ไม่ต้องใช้เข็มหรือสารใด ๆ จิ้มเข้าผิวอีกด้วย คนกลัวเข็มหลายคนเลยเทใจมาที่วิธีนี้เป็นพิเศษ แถมอีกหนึ่งจุดเด่นคือ การทำไฮฟู่มันสามารถแก้ไขปัญหาได้ถึงต้นเหตุจริง ๆ ผิวมีปัญหาที่ชั้นไหน ก็ยิงคลื่นลงไปแก้ไขตรงชั้นนั้น แถมยังไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงอีกด้วย วางใจได้เลยว่าจะไม่มีการติดเชื้อหรือเลือดออก ทั้งยังมีผลข้างเคียงต่ำ ความปลอดภัยสูง นั่นจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ไฮฟู่จะไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน

แต่นอกเหนือจากนี้ การทำไฮฟู่ก็ใช่ว่าจะสามารถคงผลลัพธ์ได้อย่างถาวรตลอดชีพ ทำแล้วจะไม่มีวันเหนียงโผล่ แก้มย้อยอีกต่อไป โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์ของการทำไฮฟู่จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน ดังนั้นเราต้องอย่าลืมว่าให้หมอเสกความสวยให้แล้ว เราก็มีหน้าที่ดูแลความสวยนั้นให้คงอยู่กับเรานาน ๆ หมั่นทาครีมบำรุงผิว ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ผิวสวย หน้าใส ดูอ่อนวัยเหมือนเพิ่งยี่สิบต้น ๆ อยู่กับเราได้แบบนาน ๆ

ปัญหาเหนียงโผล่ แก้มย้อย ไม่กระชับ คอนเฟิร์มได้เลยว่าสามารถแก้ปัญหาอย่างล้ำลึกได้ด้วยการทำไฮฟู่จริง ๆ แต่ทั้งนี้ถ้าใครอยากทำหัตถการอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยก็สามารถทำได้นะคะ เช่น อยากฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้หน้าเรียวขึ้นอีกหน่อย หรืออยากจะเติมฟิลเลอร์ให้ใบหน้าดูอิ่มฟูขึ้น อันนี้เราก็สามารถปรึกษาคุณหมอที่ดูแลเราได้โดยตรงเลยว่าอยากได้แบบไหน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงใจเรามากที่สุด และอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ การทำไฮฟู่สามารถทำได้บ่อยโดยไม่เป็นอันตรายประมาณ 4-6 เดือน ก็สามารถกลับมาทำซ้ำได้ เผื่อบางทีเรารู้สึกว่าใบหน้าเราตอนนี้ดูดีขึ้นเยอะเลย อยากจะให้มันดูดีแบบนี้ไปนาน ๆ อันนี้ก็แล้วแต่เลยค่ะ ทำได้ ไม่เป็นอันตราย หรือถ้าใครอยากทำครั้งเดียวแล้วให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด ก็แค่ดูแลตัวเองดี ๆ หมั่นทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างสม่ำเสมอ แค่นี้ก็สวยได้แบบยาว ๆ แล้วค่ะ