โปรแกรม Radiesse Plus เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูคอลลาเจน (Regenerative Collagen Biostimulator) ที่มาพร้อมคุณสมบัติในเรื่องของการปรับปรุงโครงสร้างผิวให้มีความเต่งตึง อิ่มฟูดูอ่อนเยาว์ ซึ่งรุ่นนี้จะมีความโดดเด่นในเรื่องของ Lifting&Contouring เป็นการปรับกรอบหน้าให้ชัด ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น พร้อมเผยผลลัพธ์ที่มีคุณภาพในระยะยาว แน่นอนว่าความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เราก็เลยจะพาทุกท่านไปรู้จักโปรแกรม เรเดียส พลัส ให้มากยิ่งขึ้นว่าเหมาะกับใคร ฉีดไปแล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แตกต่างจากรุ่นเดิมยังไงบ้าง อยากรู้ต้องดูเลยค่ะ
โปรแกรม Radiesse Plus คืออะไร
โปรแกรม Radiesse Plus (เรเดียส พลัส) คือ นวัตกรรมการฟื้นฟูเส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิว (Regenerative Collagen Biostimulator) แก้ไขริ้วรอยร่องลึก ปรับปรุงโครงสร้างผิวให้ดูอ่อนเยาว์และเต่งตึง นอกจากนี้ ยังเน้นในเรื่องของการปรับกรอบหน้าชัด ทำให้ได้รูปหน้าที่ดูเรียวสวยเป็น V-Shape และมีมิติมากยิ่งขึ้น เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ พร้อมให้ผลลัพธ์ที่ดูดีขึ้นในระยะยาว ด้วยส่วนประกอบหลักอย่าง CaHA (Calcium Hydroxylapatite), CMC gel (Sodium carboxy-methylcellulose) และยาชา (Lidocaine) ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อบรรเทาความเจ็บระหว่างฉีด
กระบวนการทำงานของโปรแกรม Radiesse Plus
เมื่อตัวยาถูกฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวแล้ว ด้วยส่วนประกอบของ CMC Gel จะทำให้ผิวถูกเติมเต็มและปรับกรอบหน้าให้กระชับขึ้นได้เลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารชนิดนี้ก็จะค่อย ๆ สลายตัวลงเหลือเพียง CaHA ที่ยังคงทำหน้าที่สร้างโครงข่าย 3 มิติในชั้นผิว ทำให้เกิดการกระตุ้น Fibroblast (ไฟโบรบาสต์) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ช่วยผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินให้มีกระบวนการทำงานที่ดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้น มันจึงช่วยให้โครงสร้างผิวของเราดูสุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ผิวแน่นกระชับ ให้ความยืดหยุ่นสูง โดยจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 3-4 สัปดาห์ค่ะ
ความโดดเด่นของโปรแกรม Radiesse Plus
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รีบการยอมรับจากวงการแพทย์
- ปรับคุณภาพของผิวให้ดีและแข็งแรงขึ้นในระยะยาว ด้วยการฟื้นฟูคอลลาเจนและอีลาสติน
- หลังฉีดผิวจะได้รับการเติมเต็ม ใบหน้าดูคมชัดขึ้น
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยาชาในปริมาณที่เหมาะสม ลดอาการเจ็บระหว่างฉีด
- เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และสามารถคงสภาพได้ราว ๆ 2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน)
บริการนี้เหมาะกับใคร
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้า หรือกรอบหน้า ให้มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น
- คนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก ขาดวอลลุ่ม
- คนที่ผิวขาดความยืดหยุ่น ทำให้ใบหน้าดูหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- คนที่มีปัญหาโครงสร้างผิวหน้ายุบ จากปัญหาขาดคอลลาเจน กระดูกยุบตัว หรือไขมันที่ฝ่อตัวลง
- คนที่ต้องการปรับโครงสร้างผิวจากภายใน และต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วแบบไม่ต้องผ่าตัด
โปรแกรม Radiesse Plus สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
- โหนกแก้ม (Cheek Bone) – ยกผิวให้มีความกระชับขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเฉี่ยว พุ่ง
- แนวกรอบหน้า (Jawline) – ช่วยลิฟท์กรอบหน้า ปรับใบหน้าให้เป็น V-Shape
- คาง (Chin) – แก้ไขปัญหาคางสั้น คางตัด
- ร่องแก้ม (Nasolabial Folds) – เติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง
ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางการลิฟท์กรอบหน้า หรือการปรับรูปหน้าให้เรียว มีสันกรามที่คมชัดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถนำมาฉีดแก้ไขปัญหาคางและร่องแก้มได้ด้วย ทำให้องค์รวมของใบหน้าดูมีมิติและได้สัดส่วนที่สมดุลกัน แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าใบหน้าของเราควรแก้ที่จุดไหนดี ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะก่อนฉีดแพทย์จะมีการประเมินก่อนทำการรักษาอยู่แล้วว่าใบหน้าของแต่ละคนควรฉีดจุดไหน หรือควรแก้จุดไหน ถึงจะทำให้ใบหน้าดูดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
โปรแกรม Radiesse Plus ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ปรับกรอบหน้าให้มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น
- ปรับปรุงคุณภาพผิวให้มีความแข็งแรงในระยะยาว
- เติมเต็มวอลลุ่มผิวที่หายไปให้ดูอิ่มฟู กระชับขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า
- เสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง พร้อมฟื้นฟูคอลลาเจนและอีลาสติน
ข้อแตกต่างระหว่างโปรแกรม Radiesse กับโปรแกรม Radiesse Plus
ทั้งสองตัวนี้ จะมีส่วนประกอบหลักที่เหมือนกันเลยก็คือ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) แต่ก็มีหลาย ๆ จุดที่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงจุดประสงค์ในการใช้ที่ไม่เหมือนกันด้วย จะแตกต่างตรงไหนหรือมีอะไรที่ไม่เหมือนกันบ้าง ไปดูเลยค่ะ!
ข้อแตกต่างระหว่างโปรแกรม Radiesse Plus กับโปรแกรม Filler
Before & After
โปรแกรม Radiesse Plus รีวิวจากผู้มาใช้บริการจริงก่อนและหลังปรับกรอบหน้าบริเวณ Jawline 4 สัปดาห์ จะเห็นได้ว่ามันมีความชัดขึ้น เรียวขึ้นกว่าช่วงก่อนทำ ซึ่งมันทำให้ใบหน้าดูมีมิติ เรียวสวยขึ้น (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
รีวิวความประทับใจจากผู้มาใช้บริการจริง
ยืนยันผลลัพธ์หลังการรักษาด้วยความประทับใจจากผู้ที่เคยเข้ารับบริการฉีดโปรแกรม Radiesse Plus ที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิก โดยส่วนใหญ่ให้เป็นเสียงเดียวกันว่าหลังฉีดไป 3-4 สัปดาห์ ใบหน้าดูเรียวกระชับ เห็นกรอบหน้าชัดขึ้นจริง ผิวหน้ายังดูแข็งแรงขึ้นด้วยโดยไม่ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อย ๆ (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลตัวเองและการใช้ชีวิตของแต่ละคน)
โปรแกรม Radiesse Plus ราคาเท่าไหร่
ที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกเรามีบริการปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรม Radiesse Plus โดยแพทย์ ซึ่งในแต่ละเคสจะมีค่าบริการที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปริมาณที่ใช้ รวมไปถึงโปรโมชั่นที่ทางคลินิกจัดขึ้น ดังนั้น หากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นพิเศษ หรือให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Doctor Mek Clinic ค่ะ
การเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ
- งดรับประทานยาในกลุ่มที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดทำหัตถการที่ก่อให้เกิดการอักเสบหรือมีบาดแผลบนใบหน้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
- แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย
- หากมีโรคประจำตัว มีอาการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้บริการ
- ไม่แนะนำให้แต่งหน้าเข้ารับบริการ เนื่องจากก่อนฉีดจะมีการทำความสะอาดผิวหน้าทุกครั้ง
ขั้นตอนการทำหัตถการ
- แพทย์จะประเมินพร้อมวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อปัญหาและบริเวณที่ต้องการฉีด
- เริ่มทำความสะอาดผิวหน้า และทำการแปะยาชาทิ้งไว้เป็นเวลา 30 – 45 นาที
- หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์แล้ว แค่จะเริ่มฉีดตัวยาไปยังใต้ชั้นผิวในตำแหน่งที่ได้วางแผนเอาไว้
- เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง
การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ
- หากมีอาการบวมหรือแดง สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะ และเกาบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
- 24 ชั่วโมงหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อนหรือการโดนแสงแดด
- งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 2 สัปดาห์
โปรแกรม Radiesse Plus อันตรายไหม
มีหลายคนที่กังวลในเรื่องของความปลอดภัย แต่อยากจะบอกเลยว่าโปรแกรม เรเดียส พลัส เป็นสารประเภท CaHA ที่เลียนแบบขึ้นมาจากสารธรรมชาติที่อยู่ในร่างกายของตัวเรา ดังนั้นเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว มันจึงสามารถกลมกลืนและเข้ากันได้ดีกับร่างกายค่ะ
แต่ความอันตรายของการรักษาจะไม่ได้อยู่เพียงแค่ตัวยาเท่านั้น เพราะหากเราฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือแพทย์ที่ไม่ได้มีความชำนาญมากพอในการรักษา หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของปลอมไม่ได้คุณภาพ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะไม่ได้เป็นไปตามความต้องการ หรือเกิดผลกระทบอื่น ๆ ตามมาได้
ควรเลือกทำโปรแกรม Radiesse Plus ที่ไหนดี
อย่างที่ทราบไปแล้วว่า ตัวผลิตภัณฑ์นั้นมีไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดนอกจากการศึกษารายละเอียดของตัวยาก็คือ การเลือกคลินิกนั่นเอง ซึ่งเราสามารถเลือกได้จาก
- เลือกคลินิกที่มีเปิดให้บริการอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข
- เลือกคลินิกที่มีแพทย์ที่มีทักษะในการรักษา และมีใบวิชาชีพอย่างถูกต้อง
- เลือกคลินิกที่นำเข้าผลิตภัณฑ์จากบริษัทยาโดยตรง
- เลือกคลินิกที่เปิดให้เห็นรีวิวอย่างชัดเจน โปร่งใส
- เลือกคลินิกที่มีการติดตามผลหลังทำ หรือมีการดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด
ทำไมต้องเลือกฉีดโปรแกรม Radiesse Plus ที่ Doctor Mek Clinic
- ให้บริการภายใต้แพทย์ที่มีความรู้และทักษะในการดูแลแก้ไขปัญหาผิว
- มีการประเมิน วิเคราะห์ และวางแผนการรักษาแบบ case by case เข้าถึงปัญหาของผู้เข้ารับบริการอย่างใกล้ชิด
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และนำเข้ามาอย่างถูกต้องภายใต้บริษัท Merz Aesthetics
- ติดตามผลหลังทำพร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสม
- มีรีวิวจากผู้มาใช้บริการจริง
คำถามที่พบบ่อย
หลังฉีดมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดคือ รอยบวมแดง ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถพบได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งอาการเหล่านี้ มันจะค่อย ๆ บรรเทาและหายไปได้เองภายใน 72 ชั่วโมง ในระหว่างนี้ คนไข้สามารถใช้วิธีการประคบเย็นร่วมกับรับประทานยาแก้ปวดหรือยาตามที่แพทย์สั่งได้เลยค่ะ
หลังฉีดกี่วันเห็นผล?
หลังทำจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยหลังจากที่ทำไปแล้วประมาณ 3-4 สัปดาห์ ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือความคมชัดของกรอบหน้า หรือรูปหน้าที่เรียวสวยดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
หลังฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังฉีดไปแล้ว มันจะสามารถคงประสิทธิภาพได้ 1-2 ปี โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง รวมไปถึงการใช้ชีวิตของแต่ละคน สำหรับใครที่มีความพึงพอใจในผลลัพธ์ และอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น ก็สามารถกลับมาฉีดเพิ่มได้ตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำได้เลยค่ะ
สามารถทำร่วมกับรุ่นเดิมได้ไหม?
สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดร่วมกัน แนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินการรักษาได้อย่างถูกต้องว่า คนไข้ต้องการทำที่บริเวณไหน ซึ่งหากเป็นคนละบริเวณกัน ก็สามารถทำพร้อมกันได้ หรือบางเคสแพทย์อาจจะประเมินให้ทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ตามความเหมาะสมค่ะ
สามารถทำร่วมกับโปรแกรมเลเซอร์ได้ไหม?
โปรแกรมเรเดียสพลัสเป็นหัตถการกลุ่มงานฉีดที่มีส่วนประกอบหลักอย่าง CaHa ที่มาพร้อมคุณสมบัติในการเติมเต็มวอลลุ่มให้กับผิว และยังสามารถคงทนต่อความร้อนได้ ดังนั้น เราจึงสามารถทำร่วมกับโปรแกรมกลุ่มโปรแกรมเลเซอร์อย่างโปรแกรม Thermage, โปรแกรม Ultherapy หรือโปรแกรมเลเซอร์อื่น ๆ ได้เลยค่ะ โดยก่อนใช้บริการควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความต้องการในการรักษา เพื่อให้แพทย์ได้วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
สรุป
กล่าวโดยสรุปก็คือโปรแกรม Radiesse Plus เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาขึ้นมาจากโปรแกรมเรเดียส โดยเน้นไปในทางการลิฟท์กรอบหน้า ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย มีแนวกรามที่ชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่รูปหน้ายังไม่ชัด หรือต้องการปรับใบหน้าส่วนล่างให้ดูสมส่วนมากยิ่งขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังช่วยปรับผิวให้ดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้นจากการเข้าไปฟื้นฟูคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิว สำหรับใครที่สนใจหรือต้องการเข้ารับการประเมินโดยแพทย์สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการติดต่อของด็อกเตอร์เมฆคลินิกได้เลยค่ะ