บทความนี้จะพาไปรู้จักกับโปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีการพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จนได้สารเติมเต็มที่มีคุณภาพ และยังมีให้เลือกใช้บริการหลายรุ่น เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาได้ทุกจุดบนใบหน้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งการนำมาช่วยปรับใบหน้าให้ดูสมดุลกัน เติมเต็มใต้ตาให้ดูเรียบเนียน หรือปรับแต่งริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม และยังสามารถนำมาใช้ฟื้นบำรุงสุขภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย!
ทำความรู้จักกับโปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane
โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane อยู่ภายใต้บริษัท Galderma ซึ่งสารเติมเต็มของยี่ห้อนี้ ก็ทำมาจากกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เช่นเดียวกับสารเติมเต็มยี่ห้ออื่น ๆ แต่ความพิเศษจะอยู่ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ถึง 2 เทคโนโลยี ทำให้สารเติมเต็มมีความยืดหยุ่นสูง มีความหลากหลาย สามารถนำไปฉีดเฉพาะจุดได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเพื่อยกกระชับปรับรูปหน้า ปรับสภาพผิว เติมเต็มผิวในบริเวณที่มีริ้วรอยร่องลึกให้ผิวดูอิ่มฟู อ่อนเยาว์ และยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
2 เทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ได้รับความนิยม
บอกได้เลยว่าเป็นยี่ห้อตัวท็อปที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากเลยทีเดียว ด้วยกระบวนการผลิตของสารเติมเต็มยี่ห้อนี้ ทำให้มันมีรุ่นแยกออกมาอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะนำมาใช้สำหรับเติมเต็มผิวหน้า ยกกระชับปรับรูปหน้า ปรับรูปทรงริมฝีปาก หรือนำมาปรับสภาพผิว ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดย 2 เทคโนโลยีที่ว่านี้ก็คือ
NASHA Technology
หรือ Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology เป็นสาร Hyaluronic Acid ที่มีความคงตัวสูง คงรูปได้ดี มีคุณสมบัติในการดึงโมเลกุลที่เป็นน้ำบริเวณรอบ ๆ เข้ามากักเก็บในตัวยาของสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไป นอกจากนี้ ตัวเนื้อเจลยังแบ่งออกเป็นขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ตามขนาดของแต่ละรุ่น และเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ตัวเนื้อเจลจะไม่ไหลไปตามบริเวณอื่น ๆ สามารถคงสภาพอยู่ในร่างกายของเราได้นาน ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวและทำให้ใบหน้ามีความกระชับมากยิ่งขึ้น สามารถให้ผลลัพธ์อยู่ได้ 6-12 เดือน
OBT Technology
หรือ Optimal Balance Technology ซึ่งเทคโนโลยีนี้ จะเน้นเรื่องของความยืดหยุ่นของสารเติมเต็ม เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว สามารถปรับรูปทรงได้อย่างหลากหลาย ตัวเนื้อเจลมีความคงตัวได้ดีและเรียบเนียนไปกับผิว และยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือต้องการเติมเต็มจุดบกพร่องตามตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้า และยังมีเนื้อเจลที่แบ่งออกเป็นขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีแรก เทคโนโลยีนี้ จะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ 6-18 เดือน
เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้มีความสมส่วนมากยิ่งขึ้น
- เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่าง ๆ เช่น ริ้วรอยใต้ตา หรือริ้วรอยหน้าผาก
- เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากระดูกยุบตัว ทำให้ใบหน้าดูซูบผอมหรือดูโทรม
- เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาบริเวณใต้ตาหรือรอบดวงตา
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปปาก ดูอวบอิ่มสุขภาพดี ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
- เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวและต้องการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้ดีขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane มีทั้งหมดกี่รุ่น แต่ละรุ่นควรฉีดจุดไหน
ปัจจุบัน ยี่ห้อนี้มีทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นก็จะมีโมเลกุล และคุณสมบัติความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราจะขอแยกออกมาตาม 2 เทคโนโลยีการผลิต ดังนี้
รุ่นที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA
Classic
เป็นสารเติมเต็มที่มีเนื้อเจลค่อนข้างแข็งในระดับปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถเกาะกับผิวและกระจายตัวได้เป็นอย่างดี โดยมีค่าการอุ้มน้ำสูง และยังเป็นรุ่นที่มียาชาผสมรวมอยู่ด้วยเพื่อลดอาการเจ็บระหว่างฉีด สำหรับรุ่นนี้ จะเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มในจุดที่มีริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้า เช่น บริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ระหว่างคิ้ว ใต้ตา หรือนำมาเติมเต็มริมฝีปาก
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 8-12 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
Lyft
เป็นอีกรุ่นที่มียาชาผสมรวมอยู่ด้วย และเป็นสารเติมเต็มที่มีความคงตัวสูง สามารถขึ้นรูปได้ดีและมีแรงยกกระชับสูง ฉีดไปแล้วไม่ฟู มันจึงเหมาะสำหรับนำมาฉีดแก้ไขจุดบกพร่องตามบริเวณต่าง ๆ หรือนำมาปรับรูปหน้าให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น เช่น บริเวณคาง ขมับ จมูก แก้มส้ม ปรับกรอบหน้า หรือนำมายกกระชับกรอบหน้า
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 12 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
Vital
สำหรับรุ่นนี้ สารเติมเต็มจะมีความละเอียดและมีเนื้อนิ่ม ทำให้เวลาฉีดเข้าไปแล้วสามารถเกลี่ยได้ง่าย เหมาะสำหรับนำมาฉีดเพื่อเติมริ้วรอยเล็ก ๆ หรือริ้วรอยตื้น เช่น หน้าผาก ใต้ตา หลังมือ และอีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ สามารถอุ้มน้ำได้ดี ฉีดเข้าไปแล้วทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น สามารถนำมาฉีดในบริเวณที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ ดูแห้งกร้านไม่ฉ่ำวาว และยังเป็นรุ่นที่มีส่วนผสมของยาชารวมอยู่ด้วย
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 8-12 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
Vital Light
โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane vital light หรือ Skin Booster Vital Light รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มีเนื้อโมเลกุลขนาดเล็ก และยังมีความนิ่มและละเอียดเป็นอย่างมาก ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณจุดเล็ก ๆ ช่วยเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี โดยเน้นไปที่การฟื้นบำรุงผิว เติมในจุดที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น ร่องน้ำตา พร้อมลดพังผืดบริเวณใต้ชั้นผิว และยังช่วยแก้ไขรอยคล้ำอย่างบริเวณใต้ตาได้อีกด้วย จึงเหมาะกับการใช้เป็นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 6-8 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
รุ่นที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี OBT
Volyme
เป็นรุ่นที่มีส่วนผสมของยาชา และมีเนื้อเจลที่มีลักษณะแข็งระดับปานกลาง เน้นในเรื่องของการเติมเต็มผิวในจุดที่มีความซูบตอบ เช่น แก้มตอบ ขมับ ร่องแก้ม ให้ดูอิ่มฟูและมีวอลลุ่มมากยิ่งขึ้น ให้ความยืดหยุ่นที่ดี
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 8-12 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
Defyne
รุ่นนี้ เนื้อเจลจะค่อนข้างแข็งหรือมีความนิ่มอยู่ในระดับปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง และมีส่วนผสมของยาชารวมอยู่ด้วย เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มผิวในจุดที่มีการยุบตัวของกระดูกบนใบหน้า หรือมีปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากการขยับเขยื้อนบ่อย เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือใช้เป็นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาเติมเต็มบริเวณใต้ตา คาง หรือฉีดบริเวณส่วนกลางของใบหน้า (Midface) ได้ด้วยค่ะ
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 12-18 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
Refyne
ในส่วนของรุ่นนี้ จะเป็นสารเติมเต็มที่มีเนื้อค่อนข้างนิ่ม และมีความยืดหยุ่นที่ดี ฉีดแล้วสามารถกลืนไปกับผิวและเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง เน้นการแก้ไขหรือเติมเต็มบริเวณที่มีริ้วรอยร่องเล็ก ๆ หรือในจุดที่มีการขยับเขยื้อนใบหน้าอยู่เป็นประจำ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 8-12 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
Kysse
รุ่นสุดท้ายที่หลายคนคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี ได้แก่โปรแกรม Restylane kysse ที่ถูกออกแบบมาสำหรับฉีดบริเวณริมฝีปากโดยเฉพาะ โดยมีเนื้อเจลที่ค่อนข้างละเอียด แต่ก็ยังให้ความคงตัวสูง สามารถนำมาปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มสวยงาม เติมขอบปากให้ชัดเจน อีกทั้งยังมาช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น หรือแก้ไขปากเป็นร่องให้ดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ทำให้ริมฝีปากดูสวยสุขภาพดี
ผลลัพธ์ : สามารถคงอยู่ได้ 8-18 เดือน (*ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
เปรียบเทียบระหว่างโปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane และยี่ห้ออื่น ๆ
ด้วยความที่ยี่ห้อนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีสารเติมเต็มยี่ห้ออื่น ๆ ที่นำเข้ามาเป็นตัวเลือกอีกมากมาย ทำให้หลายท่านเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างกับสารเติมเต็มยี่ห้ออื่น ๆ ว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เมื่อฉีดไปแล้วจะให้ผลลัพธ์อย่างไร ยาวนานแค่ไหน เราจึงรวบรวมข้อมูลมาเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่างดังนี้ค่ะ
5 จุดต้องเช็ก! โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane ที่ได้มาตรฐานดูยังไง
แนวทางในการเช็คโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน มีดังนี้
- ทุกกล่องจะมีรอยปรุปิดสนิท ไม่ผ่านการเปิดใช้งานมาก่อน
- มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยภายในกล่อง
- มี Sticker Hologram ที่เขียนว่า VOID
- มีเลข Lot. ตรงกันทั้งหมด 2 จุด คือ ข้างกล่องและที่หลอด
- มี QR Code ให้สแกนผ่านแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบการใช้ของแท้
นอกจากนี้แล้ว เรายังสามารถโทรไปสอบถามเลข Lot. และตรวจสอบคลินิกได้ที่เบอร์โทร 02-023-1800 ต่อ 402 ของบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane หนึ่งเดียวในประเทศไทย
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนฉีด ควรงดรับประทานยา อาหารเสริมทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัว หรือการไหลเวียนของเลือด
- หลีกเลี่ยงการทำโปรแกรมเลเซอร์หน้า การผลัดเซลล์ผิว หรือพฤติกรรมที่ส่งผลให้ผิวหน้าระคายเคืองเป็นเวลา 3-5 วันก่อนเข้ารับบริการ
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 วันก่อนฉีด
- ใครที่มีโรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยา ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดก่อนใช้บริการ
- ในวันที่เข้ารับบริการ ไม่แนะนำให้แต่งหน้า เนื่องจากก่อนฉีดจะมีการคลีนหน้าบริเวณที่ฉีดสารเติมเต็ม
การดูแลตัวเองหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า การแกะ เกา นวดคลึงบริเวณที่ฉีด
- แนะนำให้ทาครีมบำรุงด้วยสกินแคร์ที่มีความอ่อนโยน หรือให้ความชุ่มชื้นกับผิว
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ใบหน้าได้รับความร้อน เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก การอยู่หน้าเตาร้อน การอาบแดด ซาวน่า หรืออาบน้ำอุ่น
- แนะนำให้รับประทานอาหารที่เน้นผัก โปรตีน และเสริมด้วยผลไม้ เพื่อให้แผลจากรอยเข็มหายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่ไม่ปรุงสุก อาหารทะเลเป็นเวลา 5-7 วัน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ทำให้แผลหายช้า และอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่มีประสิทธิภาพ
- ทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันแสงแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane อันตรายไหม
ไม่เป็นอันตรายค่ะ เพราะสารเติมเต็มยี่ห้อนี้ ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อีกทั้งยังมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นสารเติมเต็มที่ทางการแพทย์ด้านความงาม ต่างให้การยอมรับอีกด้วยว่ามันเป็นสารที่มีความบริสุทธิ์ ใกล้เคียงกับสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราเอง สามารถเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่มีร่องลึก หรือยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูอวบอิ่ม อ่อนเยาว์ได้อย่างมีคุณภาพ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สารชนิดนี้จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่เหลือสารตกค้างในร่างกายด้วยค่ะ
ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane ที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกดีอย่างไร
ที่คลินิกของเราให้บริการด้านการยกกระชับปรับรูปหน้า เติมเต็มผิวที่ให้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้เข้ารับบริการ และจะดูแลให้อย่างปลอดภัยด้วยการเลือกใช้สารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน นำเข้ามาจากบริษัทยา Galderma Thailand โดยตรง และได้ใบรับรอง Certificate ว่าเป็นคลินิกที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อคลินิกได้ที่เว็บไซต์ Galderma จากนั้นให้พิมพ์ในช่องค้นหาว่าด็อกเตอร์เมฆคลินิก
และที่นี่ยังมีการฉีดสารเติมเต็มโดยใช้เทคนิค Triple Layer Lift ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุด และเป็นการวางรากฐานจนถึงชั้นเหนือกระดูก ทำให้ทุกการรักษาสามารถเติมเต็มผิวให้มีความอ่อนเยาว์ลงดูเป็นธรรมชาติ และเข้ากับใบหน้าของแต่ละคน เพราะแพทย์จะมีการวางแผนและดีไซน์การรักษาแบบ case by case เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับไป
ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane ราคาเท่าไหร่
ที่คลินิกของเรายี่ห้อโปรแกรม Restylane ราคาจะอยู่ที่ 12,900 บาท* โดยในแต่ละเคสจะมีค่าบริการที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับช่วงโปรโมชั่นที่ทางคลินิกจัดขึ้นตามเทศกาลต่าง ๆ รวมไปถึงเทคนิคการฉีดที่แพทย์จะเลือกออกแบบให้รายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม หากใครสนใจสามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการปรับรูปหน้าเบื้องต้นได้ฟรี
คำถามที่พบบ่อย
หลังฉีดกี่วันเห็นผล
การฉีดสารเติมเต็มในทุก ๆ ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดเลยค่ะ และเมื่อผ่านไปสักระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ คนไข้ก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เป็นหัตถการที่เห็นผลเร็วโดยไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หลังฉีดมีผลข้างเคียงไหม
ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นเล็กน้อยหลังฉีด โดยในช่วง 2-3 วันแรก จะมีอาการบวมหรือรอยแดงเกิดขึ้นเล็กน้อยในจุดที่ฉีด ซึ่งจะเกิดจากเข็มที่ฉีดเข้าไป แต่มันจะค่อย ๆ หายไปเองตามธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย ผลข้างเคียงนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ สามารถรับประทานอาหารที่เน้นโปรตีน หรือผักผลไม้ที่ให้วิตามิน จะช่วยบรรเทาอาการบวมหรือรอยแดงให้หายเร็วขึ้น รวมไปถึงปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หลังฉีดกี่วันถึงจะหายบวม
อาการบวมเป็นผลข้างเคียงเช่นเดียวกับรอยแดงจากเข็มที่ฉีด ซึ่งมันจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน อาการบวมจึงจะหายเป็นปกติ แต่ถ้าหากคนไข้ต้องการให้มันทุเลาลง สามารถประคบเย็น หรือรับประทานยาแก้ปวด ลดบวม เพื่อให้มันดีขึ้นได้ค่ะ
หลังฉีดสามารถแต่งหน้า หรือทาลิปสติกได้ไหม
ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้หน้าออกงานสำคัญ ก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ เพียงแค่ละเว้นการสัมผัสในจุดที่ฉีดสารเติมเต็ม หรือเว้นรอยเข็มไว้ เพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมที่มาจากเครื่องสำอางเข้าไปรบกวน แต่ถ้าจะให้ดีแพทย์แนะนำว่าในช่วง 24 ชั่วโมงแรก อยากให้หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าออกไปก่อน เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และป้องกันไม่ใช้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันตรงรอยเข็มด้วยค่ะ
สรุป
สำหรับยี่ห้อโปรแกรม Restylane ถือเป็นฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ในการเติมเต็ม ยกกระชับปรับรูปหน้า และยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องด้วยคุณภาพของแต่ละรุ่นที่ผลิต รวมไปถึงความหลากหลายทางเทคโนโลยีที่ทำให้ได้โมเลกุลหลายขนาด สามารถนำมาเติมเต็มได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้า อีกทั้งยังมีรุ่นที่เหมาะการฟื้นบำรุงผิว ผิวบอบบาง ผิวแห้งกร้าน สามารถฉีดได้ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน และเพื่อผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการนะคะ